บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1289

บทที่ 1289 ซากโบราณสถานแรกกำเนิด

บทที่ 1289 ซากโบราณสถานแรกกำเนิด

ขณะที่เฉินซีพูด เขาก็พาหลิงไป๋และคนอื่น ๆ ไปที่ห้องกระบี่

เฉินซีไม่ได้เข้าไปในเคหาบ่มเพาะ หากแต่หยัดยืนเบื้องหน้าก้อนหินริมผา ชายหนุ่มหงายฝ่ามือ เรียกอุปกรณ์ทำอาหารและขวดวัตถุดิบต่าง ๆ ออกมา

หลังจากนั้นเขาก็หยิบปลาออกมาจำนวนหนึ่ง พวกมันคือปลาหยินหยางที่จับได้จากแม่น้ำเพลิงขัดเกลาในสุสานราชันเซียน ตอนนั้นเขาเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่นึกเลยว่าพวกมันจะมีประโยชน์ขึ้นมาในเวลานี้

นอกจากปลาเหล่านี้แล้ว เฉินซียังเตรียมเนื้อของสัตว์อสูรหายากจากนอกพิภพเอาไว้บางส่วน รวมไปถึงผลไม้เซียนเลิศรสอีกมากมาย

ตั้งแต่ที่เฉินซีเข้ามาในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า นี่เป็นครั้งแรกที่ปรมาจารย์พ่อครัววิญญาณขั้นสุดยอดผู้นี้ได้ทำอาหาร หลังจากที่ไม่ได้แตะต้องของเหล่านี้มานาน

ตอนนั้นเอง ทั้งหลิงไป๋ อาหม่าน และไป๋คุยตกอยู่ภายใต้ความเงียบงัน พวกเขายืนอยู่ข้าง ๆ เฉินซีด้วยท่าทางกระตือรือร้น คล้ายกำลังรอให้อาหารรสโอชะเหล่านั้นวางลงในปาก

เฉินซีเตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับหันหน้าถามหลิงไป๋ด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “เอาละ หุบเหวศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดมิดอยู่ที่ใด?”

“อยู่ที่ซากโบราณสถานแรกกำเนิด” หลิงไป๋ตอบอย่างรวดเร็ว

ตามที่หลิงไป๋กล่าว ในช่วงก่อนยุคบรรพกาล ยุคแรกกำเนิดถึงคราวล่มสลาย แล้วก่อตัวตัวขึ้นมาใหม่เป็นภพมนุษย์ ภพใต้พิภพ และภพเซียนอย่างปัจจุบัน

ภพทั้งสามนี้ประกอบไปด้วยโลกขนาดใหญ่และโลกรองจำนวนนับไม่ถ้วน ยิ่งไม่กว่านั้น ไม่ว่าจะโลกหลักหรือโลกรอง พวกมันก็ล้วนถูกสร้างขึ้นจากเศษซากของโลกยุคแรกกำเนิดที่ล่มสลาย

เปรียบง่าย ๆ โลกยุคแรกกำเนิดก็เป็นเหมือนไข่ วันหนึ่งที่มันพลังทลายลง มันก็ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ได้แก่ ภพมนุษย์ ภพใต้พิภพ และภพเซียน และเศษเสี้ยวเล็ก ๆ อีกนับไม่ถ้วนอย่างแดนภวังค์ทมิฬและพิภพยันต์อักขระ

ซากโบราณสถานแรกกำเนิดเองก็ก่อตัวขึ้นจากเศษเสี้ยวที่แตกสลายเหล่านั้นเช่นเดียวกัน ทว่ามันมีความแตกต่างจากภพทั้งสามอยู่พอสมควร นั่นก็คือมีเพียงซากโบราณสถานแรกกำเนิดเท่านั้นที่ยังคงสั่งสมพลังแก่นแท้สสารแห่งยุคแรกกำเนิดเอาไว้!

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าภพเซียนประกอบได้ด้วยแผ่นทวีปจำนวนมากถึงสี่พันเก้าร้อยทวีป นอกเหนือจากดินแดนที่ปรากฏชื่อเหล่านี้ ภพนี้ยังประกอบด้วยเขตแดนลึกลับ แดนอันตราย และโลกที่แตกสลายซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก ซุกซ่อนอยู่ภายใต้พื้นที่มิติอันไร้ขอบเขตของภพเซียน

ซากโบราณสถานแรกกำเนิดเองก็ดำรงอยู่ภายในพื้นที่มิติอันไร้ขอบเขตเหล่านั้นเช่นกัน

จากที่หลิงไป๋ได้ว่าไว้ หุบเหวศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดมิดอยู่ด้านในซากโบราณสถานแรกกำเนิด โดยมีลักษณะเหมือนกับโลกลำดับรอง

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพลังแก่นแท้สสารในซากโบราณสถานแรกกำเนิดนั้นแตกต่างจากภพทั้งสาม ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าซากโบราณสถานนี้จะตั้งอยู่ภายในดินแดนของภพเซียน แต่ไม่ว่าเฉินซีจะเข้าสู่ภพเซียนจากทางซากโบราณสถานแรกกำเนิด หรือเข้าสู่ซากโบราณสถานแรกกำเนิดจากทางภพเซียน เขาก็จำเป็นจะต้องผ่านเงื่อนไขเบื้องต้นข้อหนึ่งก่อน นั่นคือการต้องฝ่าด่านป้องกันที่เกิดจากพลังพิภพของซากโบราณสถานแรกกำเนิด!

หลังจากที่เฉินซีรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “นี่เจ้ากำลังจะบอกว่ามหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ทลายด่านป้องกันนั้นได้ และส่งพวกเจ้าเข้ามาในภพเซียนอย่างนั้นหรือ?”

ขณะที่ชายหนุ่มพูด เขาก็พลิกปลาหยินหยางที่กำลังถูกย่างไฟอย่างขะมักเขม้น พวกมันส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายหก

หลิงไป๋จับจ้องหยดไขมันสีเหลืองทองจากตัวของปลาหยินหยางตาไม่กะพริบ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นก่อนจะพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว มีเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ในขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นเท่านั้นที่สามารถทะลวงผ่านแนวป้องกันเช่นนั้นได้ แน่นอนว่าพี่ใหญ่มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ผู้นั้นน่าเกรงขามยิ่งกว่าราชันเซียนครึ่งขั้นธรรมดาอยู่ในระดับหนึ่งเชียวละ”

ราชันเซียนครึ่งขั้น!

เฉินซีชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะรำพันกับตัวเอง “ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อหลายปีก่อนในสมรภูมิบรรพกาล มหาปราชญ์ย่ำสววรรค์ถึงได้กล้าเย้ยหยันปิงซื่อเทียนและมองอีกฝ่ายไม่ต่างจากมดปลวกตัวหนึ่งเช่นนั้น ที่แท้คนผู้นั้นก็บรรลุขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นแล้ว”

หากเป็นเช่นนั้นจริง แล้วอย่างนี้อาจารย์ของเขาและเจิ้นหลิวชิงจะไม่อยู่ในขอบเขตราชันเซียนเลยหรือ?

ราชันเซียน!

ในภพเซียนแห่งนี้ ราชันเซียนที่ไม่ว่าใครก็รู้จักได้แก่จ้าวแห่งมหาทวีปทั้งสี่อันประกอบไปด้วย ราชันเซียนดาราวีรบุรุษ ราชันเซียนรัตติกาล ราชันเซียนวิถีลึกล้ำ และราชันเซียนนภาเหมันต์ ทว่านี่ก็เพียงราชันเซียนที่มีคนรู้จักเท่านั้น ไม่มีใครสามารถบอกจำนวนที่แม่นยำได้ว่าที่แท้แล้วมีราชันเซียนกี่คนภายในภพเซียนแห่งนี้

ในอดีต เฉินซีเคยสงสัยว่าจะต้องมีราชันเซียนอยู่ภายในเจ็ดตระกูลเก่าแก่ สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า หรือแม้แต่สำนักศึกษาอื่น ๆ ทั้งหกสำนักอย่างแน่นอน ทว่านั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ในตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่สามารถยืนยันความคิดนี้ได้

ทว่าการมีอยู่ของตัวตนในขอบเขตดังกล่าวนั้นก็ห่างไกลจากคนอื่น ๆ ในภพเซียนมาก ด้วยสถานะของเฉินซีในปัจจุบัน ชายหนุ่มไม่มีทางเข้าถึงราชันเซียนได้อย่างแน่นอน

อย่างเมื่อครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับมารบงกชที่ถูกบดขยี้โดยน้ำมือของราชันเซียนจากนิกายอำนาจเทวะ คราวนั้นเฉินซีก็ต้องพึ่งพาจ้าวไท่ฉือซึ่งเป็นบรรพชนแห่งเผ่าวิหคอมตะในการเข้าถึงข่าวนี้

แน่นอนว่าทั้งสามสุดยอดมหานิกายจะต้องมีราชันเซียนดำรงอยู่ในมากกว่าหนึ่งคนอย่างไม่ต้องสงสัย

ทว่าเฉินซีก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าอาจารย์ของเจิ้นหลิวชิงและมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ที่อยู่ในซากโบราณสถานแรกกำเนิดจะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตราชันเซียนจริง ๆ มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเกินจินตนาการไปในระดับหนึ่งทีเดียว

ซากโบราณสถานแรกกำเนิดเป็นสถานที่ประเภทใดกันแน่? เฉินซีหยุดถามตัวเองไม่ได้

หลิงไป๋ชี้ไปที่ปลาย่าง พลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “มันใกล้จะไหม้แล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน ให้ข้ากินมันก่อนแล้วข้าจะบอกเจ้า”

“ข้าเองก็อยากกินเหมือนกันนะ” อาหมานลูบท้อง น้ำลายหยดติ๋ง

โฮก!

ไป๋คุยเองก็ไม่คิดยอมแพ้ มันจ้องปลาตรงหน้าด้วยแววตามุ่งมั่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]