บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1304

บทที่ 1304 ตัดแขน

บทที่ 1304 ตัดแขน

บนสนามประลอง ปราณดาบพุ่งทะยานทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ในขณะที่ปราณกระบี่ตัดกัน ร่างทั้งสองวูบไหวอยู่บนสนามประลอง ทำให้เกิดการต่อสู้ด้วยความเร็วสูงสุดอย่างน่าเหลือเชื่อ

ผู้ชมต่างกลั้นหายใจ สายตาจดจ้องตาไม่กะพริบ การแสดงออกมากมายปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา

บางคนจดจ่ออยู่กับมัน

บางคนรู้สึกประหลาดใจ

บางคนตบมือ ในขณะที่ถอนหายใจด้วยความชื่นชม

บางคนกระวนกระวายจนแทบลืมหายใจ

การต่อสู้ครั้งนี้น่าตื่นตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันคือการชิงชัยระหว่างสองสุริยันอันเจิดจ้า ซึ่งถือเป็นสุดยอดการต่อสู้ของขอบเขตเซียนทองคำ ทั้งยังเป็นการต่อสู้ที่หาได้ยากในรอบพันปี

แม้แต่ผู้อาวุโสที่บรรลุขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น ยังต้องชมเชยซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลางถอนหายใจและยอมรับความต่ำต้อยของตนเมื่อครั้งที่อยู่ในขอบเขตการบ่มเพาะดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เฉินซียังคงไม่แยแสกับเรื่องทั้งหมดนี้

ชายหนุ่มเพียงจดจ้องไปที่การต่อสู้ด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่ง และสงบนิ่งเหมือนจันทร์สะท้อนในบ่อน้ำโบราณ

หลังจากที่เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างว่านเจี้ยนเซิงและจ้าวไท่ซิงในรอบแรก จิตใจก็ถูกกระตุ้นจากการต่อสู้ ทั้งยังได้เข้าใจที่ลึกซึ้งต่อขอบเขตเซียนกระบี่

ตอนนี้สายตาของเขาแตกต่างจากเมื่อก่อน ดังนั้นเมื่อเห็นการต่อสู้ระหว่างเยี่ยถังและว่านเจี้ยนเซิง จึงสามารถเฝ้าดูได้อย่างสงบ

ดังคำกล่าวที่ว่า ผู้ไร้ฝีมือเพียงมองภาพรวม ส่วนผู้มีฝีมือจะมองแก่นแท้ของเคล็ดวิชา ในขณะนี้ เฉินซีกำลังเปรียบเทียบพลังฝีมือของตนผ่านการต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งไม่อาจกล่าวว่าเป็นการชดเชยจุดด้อยของตนด้วยทักษะของผู้อื่น แต่เป็นเพียงวิธีการทำความเข้าใจตัวเองโดยอ้อมเท่านั้น

เต๋าแห่งดาบของเยี่ยถังไม่ถูกผูกมัด มีชีวิตชีวาและเป็นอิสระ ทุก ๆ กระบวนท่าทำให้ดูเหมือนราชาแห่งดาบที่ควบคุมสายลมได้อย่างไร้กังวล คมดาบฟันผ่านพันธนาการของท้องฟ้าจนไร้การผูกมัด ประหนึ่งอาชาสวรรค์ที่ทะยานผ่านสวรรค์

ในทางกลับกัน เต๋าแห่งกระบี่ของว่านเจี้ยนเซิงนั้นไร้ที่ติและเรียบง่าย แต่แฝงด้วยพลังที่รุนแรงซึ่งแล่นตรงไปที่หัวใจ การฟันด้วยกระบี่อย่างสบาย ๆ แต่ละครั้ง มักจะเปล่งกลิ่นอายแห่งการทำลายล้างอันทรงพลัง

ทั้งสองต่างไม่มีใครเหนือกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นมหาเต๋าหรือประสบการณ์ต่อสู้ก็ทัดเทียมกัน ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ยาวนานมาก และน่าตื่นตาอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการต่อสู้จะน่าตื่นตาเพียงใด สุดท้ายก็ต้องสิ้นสุดลง

สองชั่วยามต่อมา นัยน์ตาของเฉินซีหรี่ลง คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นและพึมพำว่า “ยังไงซะ การบ่มเพาะของข้าก็ยังคงด้อยกว่า…”

ในเวลาเดียวกัน มุมปากของหวังต้าวหลูกระตุกวูบ สีหน้าก็หมองลงเล็กน้อย

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ในเหล่าผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนทองคำ การต่อสู้ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นสุดยอดการต่อสู้ที่หาได้ยากในรอบหลายพันปี แต่ ณ บัดนี้ ผู้ชนะได้ถูกตัดสินแล้ว!” ในอีกด้านหนึ่ง พิสดารเฟิงของสำนักศึกษานภาไพศาลก็หัวเราะลั่น

เสียงนี้ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันมาก และทำให้ทุกคนตกใจพร้อม ๆ กัน

ชิ้ง!

ก่อนที่ทุกคนจะได้สติจากอาการตกใจ แสงเรืองรองก็ระเบิดบนสนามประลอง และหลังจากที่พวกมันปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่น ร่างของเยี่ยถังก็หยุดเคลื่อนไหวไปชั่วครู่ ก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา เซไปข้างหลังสามก้าว ใบหน้าก็ซีดเผือดทันที

ในขณะที่ ว่านเจี้ยนเซิงหอบหายใจหนักขึ้นเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

เมื่อเห็นเหตุุการณ์ดังกล่าว ฝูงชนต่างระเบิดความแตกตื่นทันที และไม่กล้าเชื่อว่าเยี่ยถังจะเป็นฝ่ายด้อยกว่าในการปะทะครั้งนี้!

“สุดท้ายแล้ว เป็นข้าที่ด้อยกว่า…” เยี่ยถังส่ายศีรษะ จากนั้นเขาก็ยกน้ำเต้าสุราขึ้นดื่มสองสามคำ โดยที่มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก จากนั้นก็แย้มยิ้มอย่างเบิกบานใจ “ไม่จำเป็นต้องสู้ต่อแล้ว ข้าด้อยฝีมือกว่าเจ้า”

ทันทีที่กล่าวจบ เขาก็หันหลังกลับออกจากสนามประลองไป ไร้สีหน้าเศร้าหมองหรือรู้สึกสูญเสียแต่อย่างใด เขาไม่ได้ขุ่นเคืองหรือคับแค้นใจแม้แต่น้อย ยังคงท่าทีสงบและไร้กังวลไม่เสื่อมคลาย

ทว่าสำหรับเหล่าอาจารย์และศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า พวกเขาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์ดังกล่าวได้

“ไยถึงจบลงเช่นนี้?”

ทำไมเยี่ยถังถึงแพ้?

ทุกคนต่างประหลาดใจ ผิดหวัง และรู้สึกสูญเสีย

ในรอบแรก จี้เซวียนปิงพ่ายแพ้และบาดเจ็บสาหัส บัดนี้แม้แต่เยี่ยถังก็พ่ายแพ้ว่านเจี้ยนเซิงเพราะด้อยฝีมือกว่า นี่จึงส่งผลครั้งใหญ่ต่อขวัญกำลังใจของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ จะเคยปรากฏบนการถกวิถีเต๋าในอดีตได้อย่างไร?

เป็นไปได้หรือไม่ ในระหว่างการถกวิถีเต๋าครั้งนี้ สถานการณ์อาจเปลี่ยนไปจริง ๆ และสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋ากำลังถูกสยบโดยอีกหกสำนัก

สภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบกริบ และในใจของผู้คนล้วนรับไม่ได้กับผลลัพธ์นี้

“ขออภัยที่ข้าไม่สามารถนำชัยชนะอันรุ่งโรจน์มาสู่สำนักได้” เยี่ยถังกลับไปยังเมฆมงคล และขอโทษอย่างจริงใจ พร้อมกับโค้งคำนับไปทางหวังต้าวหลู เฉินซี และคนอื่น ๆ

“เจ้าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว” หวังต้าวหลูตบไหล่เยี่ยถังเป็นการปลอบใจ แต่กลับทอดถอนหายใจอยู่ลึก ๆ เนื่องจากสถานการณ์ตรงหน้า ทำให้สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเสียเปรียบอย่างมาก

หลังจากเยี่ยถังพ่ายแพ้แล้ว เฉินซี เจิ่นลู่ และจ้าวเมิ่งหลีจะจับสลาก ซึ่งอาจเจอกับว่านเจี้ยนเซิงและเซียวเชียนซุ่ยในการต่อสู้ถัดไปหรือไม่?

“ศิษย์พี่เยี่ยถัง โปรดพักเถอะ ผลลัพธ์สุดท้ายยังไม่ถูกตัดสิน ดังนั้นเจ้าไม่ควรโทษตัวเอง” เฉินซียิ้มและส่งสุราองุ่นให้เยี่ยถัง

เยี่ยถังรับสุรามา แต่ยังไม่ได้ดื่มมัน และมองไปที่เฉินซีพลางครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องเฉินซี ในเมื่อเจ้ากล่าวเช่นนี้ ข้าคงต้องตั้งตารอดูผลลัพธ์สุดท้ายแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]