บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1305

บทที่ 1305 เฉินซีปะทะเหยียนอวิ๋น

บทที่ 1305 เฉินซีปะทะเหยียนอวิ๋น

เมื่อการถกวิถีเต๋ารอบที่สองใกล้ถึงจุดสิ้นสุด การต่อสู้ทั้งแปดคู่จบลง และในระหว่างนี้ ศิษย์ของสำนักศึกษาเมฆาหมอก สำนักศึกษากระแสวาตะ และสำนักศึกษาเต๋าเร้นลับล้วนพ่ายแพ้ยับเยิน ทั้งยังไม่มีศิษย์คนใดที่ได้เข้าสู่การถกวิถีเต๋าในรอบสุดท้าย

กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งที่สำนักทั้งสามทำได้ในตอนนี้ มีเพียงเฝ้าดูการประลองระหว่างศิษย์ของสำนักอื่น ดังนั้นโดยปกติแล้ว พวกเขาจึงรู้สึกท้อแท้และไม่พอใจอย่างมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรได้

เนื่องจากมันคือการถกวิถีเต๋า ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง ดังนั้นเมื่อมีผู้ชนะก็ย่อมมีผู้พ่ายแพ้เป็นธรรมดา

ในทางกลับกัน สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าก็ตกที่นั่งลำบากเช่นเดียวกัน ซึ่งถึงขั้นที่ความเสียหายของนั้นหนักกว่าสำนักศึกษากระแสวาตะ สำนักศึกษาเมฆาหมอก และสำนักศึกษาเต๋าเร้นลับ

เนื่องจากในระหว่างการต่อสู้รอบที่สอง เยี่ยถังซึ่งเป็นหนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียนได้พ่ายแพ้ ยิ่งกว่านั้น ผู้สืบทอดของเผ่าวิหคอมตะจ้าวเมิ่งหลี และเจิ่นลู่ซึ่งเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับแนวหน้าของภพพุทธองค์ก็พ่ายแพ้เช่นกัน…

เมื่อรวมกับจี้เซวียนปิงที่พ่ายแพ้ในรอบแรก ศิษย์ทั้งห้าคนจากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าที่เข้าร่วมในการถกวิถีเต๋าจึงเหลือแค่เฉินซีคนเดียวเท่านั้น!

การถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนักในอดีต เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน ดังนั้นมันจึงส่งผลกระทบต่อสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าอย่างมาก ทั้งยังทำลายขวัญกำลังใจอย่างรุนแรง

ณ ปัจจุบัน การถกวิถีเต๋าในรอบที่สองเหลือเพียงการต่อสู้คู่สุดท้ายเท่านั้น และเฉินซีซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าจะประลองกับเหยียนอวิ๋นจากสำนักศึกษาระทมสันต์

หากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าประสบความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ก็จะหมดสิทธิ์โดยสิ้นเชิง และจะไม่สามารถเข้าร่วมการถกวิถีเต๋ารอบสุดท้ายได้

ด้วยเหตุนี้ ความหวังที่จะเป็นผู้ชนะเลิศคนสุดท้ายในการถกวิถีเต๋าก็จะดับลง

นับว่าเป็นสถานการณ์เลวร้ายอย่างถึงที่สุด!

ในขณะนี้ สภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบสงัด เหล่าอาจารย์และศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าต่างก็รู้สึกหนักใจ และไม่สามารถรับความเป็นจริงเหล่านี้ได้

เพราะนี่คือการถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนักที่จัดขึ้นในถิ่นของตนเอง หากพ่ายแพ้ต่อสำนักอื่นจริง มันก็คงจะ…เป็นเรื่องขายหน้าอย่างยิ่ง!

ในบริเวณที่สำนักศึกษามหาเดียวดาย สำนักศึกษาระทมสันต์และสำนักศึกษานภาไพศาลอยู่ล้วนเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องสรรเสริญ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือเหล่าศิษย์ ทั้งหมดล้วนมีสีหน้าผ่อนคลาย และเผยท่าทางภาคภูมิของผู้ชนะ

ในการถกวิถีเต๋าครั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีความสุขและอิ่มเอมใจ ศิษย์ของสำนักตนแทบจะกวาดล้างศิษย์ของสำนักอื่นจนหมดสิ้น ดังนั้นแม้ว่าการถกวิถีเต๋าจะยังไม่สิ้นสุด แต่ทั้งหมดต่างตั้งตารอช่วงเวลาที่สำนักของพวกตนจะมีชื่อเสียงไปทั่วภพเซียน

เพราะตั้งแต่อวิ๋นฝูเซิงกวาดล้างสำนักต่าง ๆ เพียงลำพังเมื่อหลายปีก่อน พวกเขาก็ไม่เคยอิ่มเอมใจหรือรู้สึกถึงความรุ่งโรจน์เหมือนเช่นวันนี้มาก่อน

“ฮ่า ฮ่า! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าที่เป็นใหญ่เหนือสำนักอื่นจะต้องสิ้นชื่อในวันนี้!”

“เดิมทีข้าคิดว่าศิษย์สายในของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านั้นต้องแข็งแกร่งมากเป็นแน่ แต่กลับไม่ได้เก่งกล้าอย่างที่คิด หากไม่มีเยี่ยถัง พวกเขาก็ไม่ต่างจากพยัคฆ์ที่ไร้เขี้ยวเล็บ”

“ในความคิดของข้า แม้ว่าหลิงชิงอู๋จะอยู่ที่นี่ แต่นางก็จะพ่ายแพ้ในการถกวิถีเต๋าเหมือนกัน!”

เป็นเรื่องง่ายที่ใครบางคนจะพึงพอใจกับชัยชนะและเกียรติยศ ดังนั้นหลังจากที่สามสำนักได้ลิ้มรสชัยชนะ เหล่าศิษย์จึงอิ่มเอมใจ และแสดงท่าทางอวดดีออกมา

ในทางกลับกัน อาจารย์ที่เป็นผู้นำกลุ่มจากทั้งสามสำนัก ต่างลูบเคราพลางยิ้มแย้ม และไม่ได้ห้ามปรามศิษย์ของพวกตน เนื่องจากศิษย์เหล่านี้อายุยังน้อย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะภาคภูมิใจในความสำเร็จที่ได้รับ

แก๊ง!

ในขณะเดียวกัน เสียงระฆังดังก้อง เป็นสัญญาณเปิดม่านการประลองคู่ที่เก้า

ซึ่งเป็นการประลองคู่สุดท้ายในรอบที่สองของการถกวิถีเต๋า การประลองระหว่างเฉินซีและเหยียนอวิ๋นจากสำนักศึกษาระทมสันต์!

“เฉินซี อย่าได้กดดันตนเองมากเกินไป” บนเมฆมงคล หวังต้าวหลูหายใจเข้าลึก ๆ และข่มความรู้สึกหนักอึ้งที่อยู่ในใจ ก่อนจะยิ้มแล้วให้กำลังใจเฉินซี

“ผู้อาวุโสโปรดอย่ากังวล” เฉินซีพยักหน้า ดวงตาลึกราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ใบหน้าหล่อเหลาปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบ นิ่งสงบประหนึ่งจันทร์ในบ่อน้ำโบราณ ไม่ได้เผยอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ

เยี่ยถังยิ้มแล้วกล่าวจากทางด้านข้าง “ศิษย์น้องเฉินซี ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร หลังจากการถกวิถีเต๋าจบลง พวกเราพี่น้องจะดื่มให้สาแก่ใจ!”

“แล้วศิษย์น้องอย่างข้าจะปฏิเสธคำเชิญของศิษย์พี่เยี่ยถังได้อย่างไร?” เฉินซียิ้ม

“อย่าได้เอาอย่างจี้เซวียนปิง และบีบคั้นตนเองมากเกินไป” จ้าวเมิ่งหลีกล่าวเตือนอย่างอดไม่ได้ ทว่าทันทีที่กล่าวถึงจี้เซวียนปิง ดวงตาของนางก็หม่นหมองลงทันที ทั้งยังดูเสียใจเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเพียงสิ่งลวงตา เมื่อเทียบกับเส้นทางสู่การแสวงหาเต๋า มันก็แค่น้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทร” เจิ่นลู่กล่าวอย่างจริงจัง

“ไว้รอดูอย่างสบายใจเถิด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง ตอนนี้เป็นเพียงรอบที่สองของการถกวิถีเต๋า และยังมีการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจจะปรากฏขึ้นหลังจากนี้ ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบตื่นเต้นเกินไป” เฉินซียิ้มอย่างเบิกบาน จากนั้นหันหลังกลับและขึ้นไปที่สนามประลองทันที

“นึกไม่ถึงว่าชายคนนี้จะรู้จักกล่าวล้อเล่นเช่นกัน…” จ้าวเมิ่งหลีตกตะลึง นางจ้องมองร่างของเฉินซีที่ยืนอยู่บนสนามประลอง แต่เมื่อหวนนึกถึงคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ ความกังวลในใจก็พลุ่งพล่านอย่างอดไม่ได้

ไม่ใช่แค่นาง แม้แต่เยี่ยถัง เจิ่นลู่และหวังต้าวหลูก็ตกตะลึง ทั้งยังจมอยู่ในห้วงความคิด…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]