บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1312

บทที่ 1312 ความวิบัติไร้รูป

บทที่ 1312 ความวิบัติไร้รูป

การถกวิถีเต๋าในตอนนี้ จากแปดคนได้ถูกคัดออกไปหกคนแล้ว ล้วนต้องพ่ายแพ้ในน้ำมือเฉินซีทั้งสิ้น

แค่ชัยชนะอย่างเดียวก็ทำให้เฉินซีกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดในที่นี้ได้แล้ว อีกทั้งชื่อเฉินซียังจะดังไกลไปทั่วทั้งภพเซียนเมื่อการถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนักจบลง

แต่การถกวิถีเต๋ายังไม่ถึงจุดสิ้นสุด

เพราะยังเหลือเซียวเชียนซุ่ยอยู่!

ก่อนหน้านี้เซียวเชียนซุ่ยจับได้หมายเลขหกเดิมทีจะต้องเป็นศิษย์คนที่หกที่ทำการท้าประลอง แต่กลับยอมยกโอกาสนี้ให้เยว่อวี่จากสำนักศึกษามหาเดียวดาย

ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้

จนเหลือเพียงเขากับเฉินซีที่ยังรั้งอยู่ ทุกคนก็เข้าใจอยู่ราง ๆ และอดหัวเราะเสียงเย็นอยู่ภายในใจไม่ได้ ดูยังไงไอ้บ้านี่มันไม่อยากแพ้นี่นา!

ทุกคนมีความรู้สึกว่าเซียวเชียนซุ่ยทำเช่นนี้ก็เพราะไม่อยากท้าทายเฉินซี แต่เป็นฝ่ายอยากให้เฉินซีเข้ามาท้าทายเอง

“เข้ามาสิ ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้าท้าทายเจ้า แล้วยังจะยืนรออะไรอยู่อีก?”บนสนามประลอง เฉินซีเงยหน้าขึ้น ก่อนสายตาเฉียบคมจะเคลื่อนไปยังเซียวเชียนซุ่ย ใบหน้าสงบนิ่งเผยจิตสังหารหนาแน่น

หลังจากการต่อสู้ครั้งที่หกจบลง เฉินซีก็ไม่ได้รู้สึกถึงความสำเร็จใด ๆ เพราะคู่ต่อสู้ไม่ใช่เป้าหมายของเขา

แม้การต่อสู้จะทำให้พลังกายและปราณเซียนพิสุทธิ์อ่อนแอลง แต่สำหรับเฉินซีที่มีต้นอ่อนเงาทมิฬและบ่มเพาะพลังดวงใจจนถึงขอบเขตวิญญาณดวงใจแล้วไม่นับว่าเป็นปัญหา

กลับกันแล้ว การต่อสู้ระดับนี้ทำให้เฉินซีผิดหวังด้วยซ้ำ เพราะนับตั้งแต่ที่ขึ้นขอบเขตเซียนทองคำขั้นสูงมา เขาก็สังเกตเห็นว่าพลังต่อสู้ของตนพุ่งขึ้นสูงลิ่ว ถึงไม่ต้องใช้ต้นอ่อนเงาทมิฬก็มั่นใจว่าสามารถต่อสู้ในการถกวิถีเต๋าจนจบได้

ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการฝึกฝนอันยากลำบากในช่วงหลังนี้เอง

“ฮ่า ๆ ! สุดท้ายก็เป็นฝ่ายเริ่มท้าทายข้าก่อนจนได้! ได้ตามคำขอ!” ทันใดนั้น เซียวเชียนซุ่ยก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ชุดสีเขียวบนร่างสะบัดพลิ้ว จากนั้นก็มาปรากฏตัวหยุดประจันหน้ากับเฉินซีอยู่บนสนามประลองในพริบตา

เขามีใบหน้าเรียวยาว สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม ทั่วร่างปล่อยกลิ่นอายดุดันน่าเกรงขามออกมา เพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ ก็เหมือนเทพมารลงมาจุติ ทำให้บรรยากาศน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

“ข้าดูทุกการต่อสู้ของเจ้าแล้ว ว่ากันตามตรง เจ้ามีพละกำลังสูงกว่าที่ข้าคิดไว้ แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ข้าก็ยิ่งชอบใจ” เซียวเชียนซุ่ยเอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึมทว่าเฉียบคมช้า ๆ “หากเจ้าเป็นเพียงขยะชิ้นหนึ่ง ถึงเอาชนะไปก็ไม่รู้สึกภูมิใจว่าได้เป็นผู้ชนะแห่งการถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนัก โชคดีที่เจ้าไม่ใช่เช่นนั้น”

มันเป็นน้ำเสียงที่แฝงแววยโสโอหัง แต่ก็นับว่าเป็นการยอมรับฝีมือของเฉินซีด้วยเช่นกัน

แต่พอคำเหล่านั้นดังเข้าหูเฉินซี ชายหนุ่มก็ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “แต่ที่เจ้าไม่รู้คือในสายตาข้า เจ้าเองก็ไม่ใช่ขยะ เพราะว่า… ต่ำเสียยิ่งกว่าขยะอย่างไรเล่า”

รอบข้างพลันเกิดเสียงเซ็งแซ่ ไม่คิดเลยว่าเฉินซีจะกล้าพูดออกไปเช่นนั้นโดยเฉพาะเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าคนอย่างเซียวเชียนซุ่ย ที่มีฝีมือทัดเทียมกับว่านเจี้ยนเซิง นับว่าน่าประหลาดใจมาก

ไอ้บัดซบนี่รนหาที่ตาย! ดูซิว่าจะทำหยิ่งยโสไปได้อีกนานแค่ไหน!

สีหน้าอาจารย์และศิษย์สำนักศึกษาระทมสันต์ สำนักศึกษามหาเดียวดาย และสำนักศึกษานภาไพศาลบึ้งตึงทันใด พลางส่งเสียงเยาะเย้ยไม่รู้จบ พวกเขามั่นใจในตัวเซียวเชียนซุ่ยมาก ย่อมรู้ว่าการกระทำของเฉินซีในตอนนี้ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย!

เซียวเชียนซุ่ยเองก็อึ้งไปยามได้ยิน จากนั้นก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากสีแดงเลือด พลันหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ ! ยิ่งทำตัวสูงส่ง ข้าก็ยิ่งมีความสุข หวังว่าการต่อสู้นี้ เจ้าจะมีฝีมือทัดเทียมความหยิ่งยโสของตนเองได้บ้าง”

ยามเอ่ยถึงจุดนี้ รอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น ก่อนจะเอ่ยทีละคำ “ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าจนคลานออกจากสนามประลองแห่งนี้ไม่ได้เลย!”

เป็นน้ำเสียงที่เผยให้เห็นถึงกลิ่นอายแห่งความโหดเหี้ยมอันน่าสะพรึงกลัว

สีหน้าของคนหลายคนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เพราะรู้ดีว่าเมื่อเฉินซีแพ้ศึกครั้งนี้เมื่อไหร่ เจ้าวิตถารเซียวเชียนซุ่ยคงได้ทรมานเขาจนอยู่ไม่สู้ตาย!

เฉินซีเพียงแต่ยิ้มกลับไป “เช่นนั้นข้าจะรอดู”

เมื่อการสนทนามาถึงจุดนี้ บรรยากาศก็ตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง ราวกับมีกระแสน้ำไร้รูปร่างกำลังพัดผ่านสนามประลอง ทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือกจนเกือบแช่แข็งทุกสรรพสิ่ง

รอบข้างเงียบสนิท ทุกคนล้วนจ้องสนามประลองนิ่ง กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดใดไป

เพราะทุกคนรู้ดีว่าศึกครั้งนี้จะต้องดุเดือดที่สุดในการถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนักเป็นแน่ อีกทั้งยังเป็นศึกตัดสินผู้ชนะ และเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คนอื่นไม่รู้ นั่นคือการต่อสู้ครั้งนี้คือการปะทะกันระหว่างเขาเทพพยากรณ์และนิกายอำนาจเทวะ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]