บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1315

บทที่ 1315 รางวัลแด่ผู้ชนะ

บทที่ 1315 รางวัลแด่ผู้ชนะ

พรูด!

เซียวเชียนซุ่ยถูกซัดกระเด็นเหมือนว่าวที่ป่านขาด และนอนกระตุกอยู่บนพื้นราวกับก้อนเนื้อที่โชกเลือด ทั้งยังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

อานุภาพการโจมตีของเฉินซีน่าสะพรึงกลัวยิ่ง!

ผู้ชมที่อยู่รอบ ๆ ต่างตกตะลึง และแทบไม่เชื่อ แม้ทุกคนจะมั่นใจมานานแล้วว่า เฉินซีนั่นออมพลังไว้อยู่ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าทันทีที่ชายผู้นี้เปิดเผยพลังที่แท้จริง เซียวเชียนซุ่ยจะไม่สามารถทนต่อการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว

นี่มันน่าตกใจเกินไป!

ท้ายที่สุดแล้ว พลังฝีมือที่เซียวเชียนซุ่ยได้เผยมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าว่านเจี้ยนเซิงหรือเยี่ยถัง ยิ่งกว่านั้น เขายังมีเคล็ดวิชาลับสุดยอดเช่นเต๋าแห่งทัณฑ์อำนาจเทวะ ดังนั้นเซียนทองคำทั่วไปจะเทียบเคียงได้อย่างไร

ทว่าบุคคลที่มีฝีมือร้ายกาจดังกล่าว กลับพ่ายแพ้ต่อเฉินซีอย่างง่ายดายด้วยการโจมตีด้วยกระบี่เพียงสามครั้ง และเฉินซีก็ทำมันอย่างง่ายดายราวกับเอามือปัดเศษฝุ่น!

สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าเซียวเชียนซุ่ยอ่อนแอ แต่มันพิสูจน์ว่าพลังฝีมือของเฉินซี ณ ปัจจุบัน ได้เหนือกว่าคนในรุ่นเดียวกันอย่างมาก ซึ่งกล่าวได้ว่าไม่มีใครเทียบเขาได้และเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

“ในขอบเขตเซียนทองคำ ศิษย์น้องเฉินซีคงครองความเป็นใหญ่เหนือใคร และคงปราบเหล่าสุริยันอันเจิดจ้าได้!” บนเมฆมงคล เยี่ยถังหัวเราะดังสนั่น แล้วก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์ ถึงแม้เขาจะถอนหายใจ แต่ก็มีความรู้สึกภูมิใจแฝงอยู่ในที

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจิ่นลู่และจ้าวเมิ่งหลีก็ตกตะลึงในใจอย่างรุนแรง พวกเขาตระหนักดีว่า เมื่อเยี่ยถังกล่าวเช่นนี้ ก็เท่ากับยอมรับว่าตนด้อยกว่าเฉินซี!

แต่ใครจะจินตนาการได้ว่า เฉินซีจะบรรลุขอบเขตเซียนทองคำในเวลาไม่กี่ปี?

ในขณะนี้ เจิ่นลู่และจ้าวเมิ่งหลีมีความรู้สึกที่ซับซ้อนพวยพุ่งอยู่ในใจ และพวกเขาไม่อาจเทียบเคียงอีกฝ่ายได้อีกต่อไป

เป็นเพราะ…เฉินซีได้แซงหน้าไปไกลแล้ว!

“น่าเกรงขาม! น่าเกรงขามอย่างแท้จริง!”

“เขาไม่ใช่แค่น่าเกรงขามเท่านั้น ในความคิดของข้า แม้แต่สุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียนก็อาจจะต้องหมองลงเมื่อเทียบกับศิษย์พี่เฉินซี”

“ผายลมอันใด! เจ้ากล้าล่วงเกินศิษย์พี่เยี่ยถังและศิษย์พี่หญิงหลิงชิงอู๋หรือ”

“ฮึ่ม! เซียวเชียนซุ่ยช่างอวดดีเสียจริง ถึงกับกล่าวว่าจะพลิกสถานการณ์ในอดีต แล้วเอาชนะศิษย์พี่เฉินซีและคนอื่น ๆ ในเขตของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าของเรา แล้วดูตอนนี้สิ ถูกฟาดจนเกือบตาย!”

เหล่าศิษย์จากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าทั้งหมด ต่างก็รู้สึกยินดีและตื่นเต้นจนเดือดพล่าน สายตาที่จ้องมองไปทางร่างอันหล่อเหลาและสูงโปร่งของเฉินซีที่ยืนอยู่บนสนามประลอง เผยให้เห็นถึงความชื่นชมอยู่ราง ๆ

ศิษย์หญิงบางคนถึงกับไม่ปิดบังความคลั่งไคล้ที่มีต่อเฉินซีด้วยซ้ำ ดวงตาที่งดงามของพวกนางเปล่งประกายด้วยไฟรักอันเร่าร้อน

ในขณะนี้ พวกเขารู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง ทั้งยังไม่ต้องวิตกหรือกังวลอีกต่อไป เพราะความพ่ายแพ้ของเซียวเชียนซุ่ย ตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการถกวิถีเต๋าของเจ็ดสำนักครั้งนี้จะต้องเป็นของเฉินซี!

เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นที่คึกคักของทางนี้ ทางฝั่งของสำนักศึกษาระทมสันต์ สำนักศึกษามหาเดียวดาย และสำนักศึกษานภาไพศาลกลับเงียบกริบ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าอาจารย์หรือศิษย์ ทุกคนล้วนมีสีหน้าแข็งทื่อ คล้ายสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว และไม่สามารถยอมรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้

มันเป็นเรื่องประหลาดครั้งใหญ่!

ไม่มีใครคาดคิดว่าเฉินซีจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ และไม่อาจจินตนการได้ว่า จะมีใครในโลกใบนี้ที่ครอบครองพลังฝีมืออันน่าสะพรึงกลัวและท้าทายสวรรค์ในขอบเขตเซียนทองคำได้

แม้จะถูกเปรียบเทียบกับหกสุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียน แต่มันก็ไม่สามารถบดบังรัศมีอันแพรวพราวของเขาได้

“หากไม่ใช่เพราะเฉินซี การถกวิถีเต๋าในครั้งนี้ เราคง… คงจะชนะไปนานแล้ว” ศิษย์คนหนึ่งกล่าวเบา ๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างรู้สึกเศร้าเสียใจ สีหน้าก็ดูเศร้าหมองมากขึ้น

การถกวิถีเต๋าในครั้งนี้ หนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าอย่างเยี่ยถังได้พ่ายแพ้ลง ในขณะที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับแนวหน้าของภพพุทธองค์อย่างเจิ่นลู่ ทายาทของตระกูลจี้อันเก่าแก่อย่างจี้เซวียนปิง และผู้สืบทอดของวิหคอมตะที่แท้จริงจากเผ่าวิหคอมตะอย่างจ้าวเมิ่งหลี พวกเขาล้วนพ่ายแพ้ทั้งหมด…

แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เมื่อพวกเขากำลังจะได้รับชัยชนะอันสูงส่ง เฉินซีกลับผงาดขึ้นมา ไม่เพียงแต่เอาชนะเหยียนอวิ๋นเพื่อเข้าสู่รอบสุดท้ายเท่านั้น ทั้งยังต่อสู้กับศิษย์เจ็ดคนอย่างต่อเนื่อง และบดขยี้พวกเขาทั้งหมด!

“ก่อนหน้านี้ อวิ๋นฝูเซิงได้บดขยี้เหล่าศิษย์รุ่นเดียวกันจากทั้งสามสำนักเพียงลำพัง และตอนนี้เฉินซีก็พลิกสถานการณ์ในการถกวิถีเต๋าด้วยตัวเอง! ฮ่า ๆ ๆ! ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาจริง ๆ!” หวังต้าวหลูหัวเราะดังลั่นอย่างมีความสุข

ตามความเห็นของทุกคนที่อยู่ที่นี่ ผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกตัดสินแล้ว และม่านก็กำลังจะถูกรูดปิด

ทว่าเฉินซีกลับไม่คิดหยุดเพียงเท่านี้

ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าเซียวเชียนซุ่ยที่นอนอยู่บนพื้น ซึ่งอยู่ในสภาพจวนสิ้นลมและส่งเสียงร้องครวญครางไม่รู้จบ จากนั้นก็หลุบตามองด้วยสายตาที่เย็นชา “บัดนี้ ข้าเอาชนะเจ้าแล้ว”

น้ำเสียงสงบและไม่มีแววเยาะเย้ยแม้แต่น้อย เขาเพียงกล่าวความจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]