บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1319

บทที่ 1319 นักล่าเซียน

บทที่ 1319 นักล่าเซียน

เฉินซีรู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่ได้พบว่านเจี้ยนเซิงที่นี่

อย่างไรเสีย ที่นี่ก็นับเป็นทางเหนือสุดของภพเซียน และยังเป็นทุ่งน้ำแข็งรกร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่อีกด้วย ดังนั้นมันจึงถือเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริง ที่พวกเขาได้มาพบกันในที่แห่งนี้

ว่านเจี้ยนเซิงเหลือบมองศพบนพื้นอย่างเย็นชา จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปทางเฉินซีและขมวดคิ้ว “เจ้ารู้จักตัวตนของนางหรือไม่?”

เฉินซีกล่าว “บาปที่นางก่อนั้นร้ายแรงเกินไป แม้ว่าข้าจะไม่รู้จักนาง แต่ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสังหารนางทิ้ง”

ชายหนุ่มกำลังพูดความจริง ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นผู้หญิงคนนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของบาปที่เข้มข้นยิ่ง แม้ว่านางจะพยายามเก็บซ่อนมันไว้เป็นอย่างดี แต่เฉินซีก็ได้สังหารคนบาปหนามามากมาย และครอบครองเนตรเทวะแห่งความจริง แล้วเขาจะถูกนางหลอกได้อย่างไร?

ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ลงมืออย่างไร้ความปรานีเช่นนี้

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ท่าทางจองหองและไม่แยแสของว่านเจี้ยนเซิง ก็อ่อนลงอย่างมาก “นางสมควรตายจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้ชื่อหลานหยู่เฟิง นางมีอีกนามหนึ่งว่า หัตถ์รักษาผู้ทรงธรรม เพื่อบ่มเพาะทักษะลับ นางได้สังหารเด็กสามพันหกร้อยคนอย่างโหดร้าย ข้าได้ไล่ติดตามนางด้วยความขุ่นเคืองใจมาสามวันแล้ว แต่ข้าไม่คิดเลยว่านางจะมาตกตายด้วยน้ำมือของเจ้า”

เฉินซีตกตะลึง เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีความเกลียดชังต่อว่านเจี้ยนเซิงอย่างแรงกล้า แต่ไม่คิดเลยว่า ว่านเจี้ยนเซิงจะทำทั้งหมดนี้ด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองอันชอบธรรม

เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่านเจี้ยนเซิงยิ่งขึ้น แม้ว่าว่านเจี้ยนเซิงจะยโสและเย็นชา แต่คนผู้นี้ก็ยังมีคุณธรรมและกล้าหาญ จนยากที่จะไร้คนชื่นชม

บุคคลที่มีคุณธรรมและกล้าหาญเช่นว่านเจี้ยนเซิงนั้น นับหายากมากในโลกยามนี้

“เช่นนั้นข้าขอลา” ว่านเจี้ยนเซิงไม่ได้ตั้งใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเฉินซีมากนัก ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและตั้งใจจะจากไป

“ช้าก่อน” เฉินซีเอ่ยรั้ง “พี่ว่าน ท่านตั้งใจจะมุ่งหน้าไปยังเมืองอนันตราหรือไม่?”

ว่านเจี้ยนเซิงขมวดคิ้ว “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

เฉินซียิ้มและไม่สนใจทัศนคติที่เข้าถึงยากและเย็นชาของอีกฝ่าย เขาชี้ไปข้างหน้าและกล่าวว่า “หากมุ่งหน้าไปในทิศทางนี้ย่อมมีจุดหมายปลายทางเป็นเมืองอนันตราเพียงแห่งเดียวเท่านั้น”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฉินซีก็ตอบออกไปตามตรง “อันที่จริง ข้าเองก็กำลังมุ่งหน้าไปที่นั่นเช่นกัน ทำไมเราไม่เดินทางไปด้วยกันเล่า?”

คิ้วของว่านเจี้ยนเซิงขมวดเข้าหากันแน่นยิ่งขึ้น เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่ ข้าจะไปที่นั่นเพื่อสังหารและขจัดคนบาป เส้นทางของข้าเต็มไปด้วยอันตราย หากเจ้าติดตามข้าไป มันอาจจะนำอันตรายมาสู่เจ้าด้วย”

ขจัดคนบาป!

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “พี่ว่าน ท่านคงไม่ได้ตั้งใจที่จะมุ่งหน้าไปที่เมืองอนันตรา เพื่อจัดการคนบาปเหล่านั้นเพียงลำพังใช่หรือไม่?”

“นั่นคือเมืองคนบาป ถ้าข้าไม่กำจัดมัน แล้วความสามารถทั้งหมดที่ข้ามีมันจะมีประโยชน์อะไร?”

คำตอบของว่านเจี้ยนเซิงนั้นเรียบง่ายไม่แพ้กัน “แล้วเหตุใดข้าถึงไม่ควรไปที่นั่นกัน?”

เหตุใดถึงไม่ควรไป?

มันเป็นเพียงคำพูดไม่กี่คำ แต่กลับเป็นธรรมชาติและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ชวนให้คิดอย่างลึกซึ้ง มันเป็นเรื่องถูกต้องเหมาะสม และควรจะทำ!

ใช่แล้ว ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ? เฉินซีแยกแยะคำพูดของว่านเจี้ยนเซิงอย่างระมัดระวัง และรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกนี้มีบางสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าไม่ควรทำ แต่ผู้คนก็ยังคงกระทำมันอยู่เนืองนิจ เช่นนั้น มันถือเป็นการกระทำที่โง่เขลามากไม่ใช่หรือ?

“ในโลกนี้มีสิ่งไม่ยุติธรรมมากมายนัก และข้าก็แค่ปรารถนาที่จะสังหารผู้ที่สมควรตายให้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศ ไม่ใช่เพื่อผู้คน แต่เพียงเพื่อให้คู่ควรกับเจตจำนงกระบี่ของข้าเท่านั้น … ”

ว่านเจี้ยนเซิงที่สวมชุดสีดำได้จากไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางพายุหิมะที่ปกคลุมท้องฟ้า พู่สีแดงที่ด้ามกระบี่พลิ้วไหวไปตามลม ราวกับเลือดอุ่น ๆ สายเล็ก ๆ ที่กระเซ็นไปยังสวรรค์และปฐพี!

“เต๋าของพี่เยี่ยถังคือการแสวงหาอิสรภาพ เต๋าของว่านเจี้ยนเซิงคือการต่อสู้กับความอยุติธรรม ไม่แบ่งดีชั่ว ไม่มีสูงต่ำ เต๋าทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่หายากและมีคุณค่า เพราะพวกเขายังคงยึดถือมันมาจนถึงตอนนี้…”

เฉินซีพึมพำ “และเต๋าของข้าคือ… ซื่อสัตย์ต่อหัวใจ!”

หากหัวใจเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ทุกสิ่งย่อมมีเส้นทางของเต๋า และทิศทางที่หัวใจชี้ไป แม้แต่จักรวาลอันไร้ขอบเขตก็เป็นเพียงเม็ดทรายเท่านั้น

เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ แล้วส่ายหัว ก่อนจะหันหลังกลับและเดินเข้าไปในพายุหิมะ

จากจุดนี้ไปยังเมืองอนันตรา รวมเป็นระยะทางกว่าหมื่นลี้ หากเป็นคนธรรมดา ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงไม่อาจเดินทางข้ามระยะทางนี้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้ ทว่าสำหรับเฉินซีที่เข้าใจทักษะการเคลื่อนย้ายมิติแล้ว เขาสามารถไปถึงที่นั่นได้ภายในไม่กี่ชั่วยาม

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป เฉินซีก็หยุดการเคลื่อนย้ายลง ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก่อนจะตกตะลึงในใจ

พายุหิมะสีเงินที่ปกคลุมท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ เกล็ดหิมะสีดำปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเปล่งรัศมีอันน่าสะพรึงกลัว มันเป็นพลังแห่งบาปที่นำพาความขุ่นเคือง เจตนาร้าย คำสาปแช่ง และรัศมีอื่น ๆ มากมายผสมปนเปกันอยู่ในนั้น หากต้องอาศัยอยู่ภายในพลังงานนี้ แม้จะเป็นเซียนเองก็ยังได้รับผลกระทบ อารมณ์และจิตใจจะค่อย ๆ รุนแรงและวิปริตมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งการยั่วยุเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เลือดหลั่งลงแม่น้ำและซากศพปกคลุมพื้นดิน

แน่นอนว่าในที่นี้ก็สามารถมาฝึกฝนได้เช่นกัน ขณะที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งบาปที่วุ่นวายนี้ หากสามารถรักษาหัวใจของตนเองเอาไว้ ไม่ให้หวั่นไหวได้ เมื่อนั้นคนผู้นั้นก็จะสามารถควบคุมเจตจำนงและดวงจิตแห่งเต๋าของตัวเองได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]