บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1335

สรุปบท บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

อ่านสรุป บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บทที่ บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย novelones อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ

บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ

กระบี่ดอกบัวโปร่งใสได้บานสะพรั่งไปทั่วท้องฟ้า พวกมันล่องลอยไปทุกหนทุกแห่ง และกลืนกินแสงแห่งหายนะที่หลั่งไหลลงมา ทำให้มันกลายเป็นกระแสพลังไร้รูปร่างที่มาบรรจบกัน ก่อนที่จะพุ่งเข้าสู่กระบี่เต๋าวิบัติภายในร่างกายของเฉินซี

โอม~ โอม~

เมื่อแสงแห่งหายนะถูกกลืนกินมากขึ้นเรื่อย ๆ กระบี่เต๋าวิบัติที่มีสีแดงเลือดก็เริ่มเปล่งเสียงกระบี่คำรามประหนึ่งมังกรดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

เสียงกระบี่คำรามราวกับกระแสน้ำ และเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันสูงสุด

ในขณะนี้ ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์พินาศเต๋าแห่งเก้าวิบัติสวรรค์ถูกขัดขวางและตกอยู่ในสภาวะถดถอย

พรูด! พรูด! พรูด!

ในขณะที่ศพของเทพโลหิตโบราณที่มีมากมายจนบดบังฟ้าดินก็ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งหายนะ จึงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีของดอกบัวกระบี่โปร่งแสง ดอกบัวทุกดอกได้ปลดปล่อยปราณกระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ในชั่วพริบตา มันสังหารศพของเทพโลหิตโบราณไปนับไม่ถ้วน บังเกิดเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

แม้ว่าจะเป็นราชันเซียนเช่นสืออวี๋ เซียงหลิวหลี และเตียนเตี้ยน ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ นี่คืออานุภาพของกระบี่เต๋าวิบัติ กระบี่ที่ตอบโต้พลังงานแห่งหายนะโดยกำเนิด!

เท่าที่รู้ ในสมัยบรรพกาลเมื่อหลายปีก่อน ความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างนิกายอำนาจเทวะและดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลนั้นมาจากกระบี่เต๋าวิบัติ

ด้วยเหตุนี้ นิกายอำนาจเทวะจึงใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อวางแผนร้ายต่อดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล ในขณะที่มันกำลังบรรลุมหาเต๋า

น่าเสียดายที่นิกายอำนาจเทวะยังคงไม่ได้รับกระบี่เต๋าวิบัติ และเรื่องนี้ได้กลายเป็นแผลใจของนิกายอำนาจเทวะ อีกทั้งยังไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าศัสตราวิเศษจากยุคบรรพกาลในตำนานนี้ จะตกไปอยู่ในมือของเฉินซีจริง ๆ

“เรามาลงมือพร้อมกันเถอะ!” สืออวี๋หายใจลึก ๆ จากนั้นจ้องมองอย่างฉับไวไปที่กระจกสัมฤทธิ์โบราณที่ลอยกลางอากาศอยู่ไกลโพ้น ในขณะที่ท่าทางของเขาเผยให้เห็นเจตนาฆ่าอย่างเย็นชา

ก่อนหน้านี้ เขาถูกกดดันจนแทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ ความโกรธเกรี้ยวที่สะสมไว้เต็มอกได้เวลาชำระแล้ว!

ครืน!

เขาถือศิลาเบญจรงค์ ก้าวผ่านความว่างเปล่าและพุ่งทะยานไปข้างหน้า

แม้ว่าจะเป็นราชันเซียนเช่นสืออวี๋ เซียงหลิวหลี และเตียนเตี้ยน ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ นี่คืออานุภาพของกระบี่เต๋าวิบัติ กระบี่ที่ตอบโต้พลังงานแห่งหายนะโดยกำเนิด!

เท่าที่รู้ ในสมัยบรรพกาลเมื่อหลายปีก่อน ความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างนิกายอำนาจเทวะและดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลนั้นมาจากกระบี่เต๋าวิบัติ

ด้วยเหตุนี้ นิกายอำนาจเทวะจึงใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อวางแผนร้ายต่อดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล ในขณะที่มันกำลังบรรลุมหาเต๋า

น่าเสียดายที่นิกายอำนาจเทวะยังคงไม่ได้รับกระบี่เต๋าวิบัติ และเรื่องนี้ได้กลายเป็นแผลใจของนิกายอำนาจเทวะ อีกทั้งยังไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าศัสตราวิเศษจากยุคบรรพกาลในตำนานนี้ จะตกไปอยู่ในมือของเฉินซีจริง ๆ

“เรามาลงมือพร้อมกันเถอะ!” สืออวี๋หายใจลึก ๆ จากนั้นจ้องมองอย่างฉับไวไปที่กระจกสัมฤทธิ์โบราณที่ลอยกลางอากาศอยู่ไกลโพ้น ในขณะที่ท่าทางของเขาเผยให้เห็นเจตนาฆ่าอย่างเย็นชา

ก่อนหน้านี้ เขาถูกกดดันจนแทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ ความโกรธเกรี้ยวที่สะสมไว้เต็มอกได้เวลาชำระแล้ว!

ครืน!

เขาถือศิลาเบญจรงค์ ก้าวผ่านความว่างเปล่าและพุ่งทะยานไปข้างหน้า

“ไปกันเถอะ เราต้องคว้าโอกาสเพื่อออกไปจากที่แห่งนี้โดยเร็วที่สุด ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะได้สิ่งนี้มาจากไอ้พวกสารเลวนิกายอำนาจเทวะ!” เซียงหลิวหลีหันกลับไปมองเตียนเตี้ยน ก่อนที่จะกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา ใบหน้ากลับคืนสู่ความภาคภูมิใจดังเดิม ราชันเซียนผู้สูงศักดิ์เช่นพวกตนถูกกดดันถึงเพียงนี้ แล้วจะให้กลืนความขุ่นเคืองนี้ไปได้อย่างไร?

“ตกลง แต่ข้ายังต้องดูแลคนผู้นี้ก่อน” เตียนเตี้ยนยิ้มขณะมองไปที่เฉินซีที่ยืนอยู่เคียงข้าง

ในขณะนี้ จิตใจของเฉินซีได้ฟื้นคืนแล้ว และได้ยินการสนทนาของอีกฝ่าย แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เนื่องจากกระบี่เต๋าวิบัติกำลังส่งเสียงหึ่ง ๆ ภายในร่างกาย พลางกลืนกินแสงแห่งหายนะ ทำให้ชายหนุ่มสูญเสียการควบคุมต่อร่างกายโดยสิ้นเชิง

ถึงขนาดที่แม้แต่จะเปิดปากยังทำไมได้

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินซีเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม กระบี่นี้เป็นสิ่งที่เต๋าบงกชได้มอบให้เขา ดังนั้นมันจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

เฉินซีแค่สงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมจู่ ๆ กระบี่เต๋าวิบัติถึงตื่นขึ้นในเวลานี้?

เฉินซีตั้งใจจะถามเตียนเตี้ยน เพราะหญิงสาวดูเหมือนจะรู้จักกระบี่เล่มนี้

ในเวลาเดียวกัน ในห้วงมิติที่อยู่ห่างไปราวสองหมื่นห้าพันลี้

สีหน้าของซุ่ยเหรินถิงพลันเคร่งขรึม “บัดซบ!”

“เกิดอันใดขึ้น?” เจียงหลิงเซียวตกตะลึง

“บัดซบ! มันคือกลิ่นอายของกระบี่เต๋าวิบัติ!” ซุ่ยเหรินถิงใช้ญาณสัมผัสอย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าจะดิ่งลงฉับพลัน “กระบี่เล่มนี้เป็นสิ่งที่เหลือไว้ของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล และมันตอบโต้พลังงานแห่งหายนะของนิกาย!”

“ได้อย่างไร!? กระบี่นั่นหายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ? หลังจากที่ทำลายนิกายกระบี่เก้าเรืองรองไปแล้ว เราก็หามันไม่พบ มันจะไปปรากฏอยู่ในมือของตำหนักเต๋าหนี่หวาได้อย่างไร” เมื่อได้ยินคำว่ากระบี่เต๋าวิบัติ สีหน้าของเจี้ยงหลิงเซียวก็ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย นางไม่คาดคิดเลยว่า จะเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นจริง ๆ

กระบี่เต๋าวิบัติ!

นั่นเป็นหนามยอกอกของนิกายอำนาจเทวะ หากไม่เอาหนามนี้ออกไป ก็คงไม่มีวันกินอิ่มนอนหลับได้อย่างสงบสุขแน่!

“สืออวี๋ เซียงหลิวหลี ราชันเซียนรัตติกาล… พวกมันไม่น่าจะครอบครองกระบี่เล่มนั้น มิฉะนั้นมันจะหลอกญาณสัมผัสของท่านประมุขได้อย่างไร?” ซุ่ยเหรินถิงหายใจเข้าลึก และควบคุมความกระสับกระส่ายในใจอย่างสุดกำลัง

“ช้าก่อน! เรามองข้ามใครคนบางไป!” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทันใดนั้น ดวงตาของซุ่ยเหรินถิงก็ปะทุด้วยเปลวไฟที่ไร้ขอบเขต คล้ายปรารถนาที่จะเผาผลาญฟากฟ้า “บัดซบเอ๊ย! ชะตากรรมของเขาถูกปกปิดโดยการทำงานของสวรรค์จริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่แม้แต่กระจกปฐพีไร้ขอบเขตก็ไม่สามารถสังเกตเห็นการมีอยู่ของเขาได้!”

“ชะตากรรมของเขาถูกปกปิดโดยสวรรค์หรือ? ดังนั้นด้วยเหตุนี้ กลิ่นอายของกระบี่เต๋าวิบัติก็ถูกปกปิดเช่นกัน? หากเป็นเช่นนั้น…” เจียงหลิงเซียวเข้าใจทุกอย่างทันที

ในขณะนี้ ซุ่ยเหรินถิงก็ส่งเสียงครวญครางออกมา ม่านตาหดตัวอย่างกะทันหัน สีหน้าไม่น่าดูทันที “สืออวี๋ผู้น่ารังเกียจนั่น กำลังพยายามยึดกระจกปฐพีไร้ขอบเขต!”

ในขณะเดียวกัน กระบี่เต๋าวิบัติก็กลับมาสงบอีกครั้ง

เฉินซีสังเกตเห็นว่า หลังจากที่มันดูดซับแสงแห่งหายนะเข้าไปจำนวนมาก กระบี่เต๋าวิบัติดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถเข้าใจได้

อีกสิ่งที่สัมผัสได้ คือไม่เพียงแต่จะสามารถเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง แต่การบ่มเพาะก็เพิ่มพูนขึ้น พลังงานที่อยู่ในร่างรู้สึกสมบูรณ์ และขยายตัวราวกับจะทะลวงผ่าน

สิ่งนี้ทำให้เฉินซีรู้สึกยินดีในใจ และตระหนักได้ว่า หากไม่มีเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อกลับไปยังภพเซียน เขาอาจสามารถบรรลุสู่วิถีของทวยเทพและเหล่าปราชญ์ เพื่อบรรลุขอบเขตเซียนปราชญ์ได้!

ไม่นึกเลยว่าในความทุกข์ยากครั้งใหญ่นี้ ไม่เพียงแต่ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและช่วยข้าจัดการกับการโจมตีจากเลือดของราชันเซียน แม้แต่กระบี่เต๋าวิบัติก็ถูกปลุกขึ้นมาจัดการกับภัยพิบัติที่ข้าเผชิญ…

ทุกสิ่งที่เขาประสบมาก่อนหน้านี้ ราวกับเป็นความฝันตื่นหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะมึนงงอย่างมาก เมื่อย้อนคิดถึงมัน

ปัจจุบัน เฉินซีสามารถระบุได้อย่างคร่าว ๆ ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากนั้น อาจเกี่ยวข้องกับภูมิภาคบรรลุเทพ ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในกระบี่เต๋าวิบัตินั่นเกี่ยวข้องกับพลังงานแห่งหายนะของนิกายอำนาจเทวะ

แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ก็สามารถรอดพ้นอันตรายมาได้สำเร็จ… เฉินซีหายใจเข้าลึก และลืมตาขึ้น

หลังจากนั้น จึงเห็นว่าเตียนเตี้ยน สืออวี๋ และเซียงหลิวหลีต่างก็ยืนอยู่เคียงข้างตน ทั้งสามมองมาที่เขายิ้ม ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีท่าทางอบอุ่น ซึ่งแสดงถึงความห่วงใยอย่างจริงใจ

บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ

บทที่ 1335 อานุภาพของเต๋าแห่งหายนะ

กระบี่ดอกบัวโปร่งใสได้บานสะพรั่งไปทั่วท้องฟ้า พวกมันล่องลอยไปทุกหนทุกแห่ง และกลืนกินแสงแห่งหายนะที่หลั่งไหลลงมา ทำให้มันกลายเป็นกระแสพลังไร้รูปร่างที่มาบรรจบกัน ก่อนที่จะพุ่งเข้าสู่กระบี่เต๋าวิบัติภายในร่างกายของเฉินซี

โอม~ โอม~

เมื่อแสงแห่งหายนะถูกกลืนกินมากขึ้นเรื่อย ๆ กระบี่เต๋าวิบัติที่มีสีแดงเลือดก็เริ่มเปล่งเสียงกระบี่คำรามประหนึ่งมังกรดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

ในขณะนี้ ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์พินาศเต๋าแห่งเก้าวิบัติสวรรค์ถูกขัดขวางและตกอยู่ในสภาวะถดถอย

ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งหายนะ จึงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีของดอกบัวกระบี่โปร่งแสง ดอกบัวทุกดอกได้ปลดปล่อยปราณกระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ในชั่วพริบตา มันสังหารศพของเทพโลหิตโบราณไปนับไม่ถ้วน บังเกิดเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

สิ่งนี้ทำให้เฉินซีวางตัวไม่ถูก รู้สึกท่วมท้นด้วยความโปรดปรานอย่างกะทันหัน เพราะในใต้หล้ามีเซียนทองคำอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่จะมีเซียนทองคำคนใดที่ได้รับความโปรดปรานจากราชันเซียนทั้งสามได้บ้าง?

วาสนาเช่นนี้ เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่มีวันได้รับ แม้จะต่อสู้จนตัวตายก็ตาม!

“พี่เฉินซี เจ้าช่วยชีวิตพวกเราไว้” สืออวี๋หัวเราะลั่น เมื่อเห็นเฉินซีตื่นขึ้น และไม่คิดสงวนคำชมอีกต่อไป

“ใช่แล้ว เราอาจจะตายไปแล้วถ้าไม่มีเจ้า” เซียงหลิวหลียิ้มบาง ๆ จากด้านข้าง

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเขาไม่ธรรมดา” เตียนเตี้ยนขยิบตาใส่ และยิ้มเช่นกัน

หลังจากได้รับการยกย่องจากราชันเซียนทั้งสาม แม้เฉินซีจะสงบเพียงใด แต่อดเขินอายไม่ได้จริง ๆ…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]