บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1336

บทที่ 1336 ผสานรวมชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากชิ้นที่หก

บทที่ 1336 ผสานรวมชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากชิ้นที่หก

แม้ว่าจะรู้สึกอาย เฉินซีก็ยังรู้สึกดีใจมากเพราะได้รับความช่วยเหลือจากสามราชันเซียน เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าหลังจากประสบเรื่องไม่คาดฝันเช่นนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างกันก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ดูเป็นกันเองมากขึ้น มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเช่นมิตรสหายมากขึ้น

ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เฉินซีมีความสุขที่สุด

“เพิ่งจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นที่นี่ เราควรหาที่เงียบสงบเพื่อพักผ่อนและตระเตรียมตัวก่อนจะดีกว่า จากนั้นค่อยออกเดินทางก็ยังไม่สาย” เมื่อถามถึงเฉินซีสั้น ๆ แล้วเห็นว่าเขาสบายดีแล้ว สืออวี๋จึงตัดสินใจทันที

เห็นได้ชัดว่าหลังจากพบเหตุไม่คาดคิดมา สืออวี๋ก็รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของพวกเขาในแดนบรรลุเทพที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้

ส่วนทรัพย์สมบัติที่อยู่ภายในเทวาคารบรรลุเทพนั้น พยายามหามาให้ได้มากที่สุดก็พอ หากพบโชคแล้วเอาชีวิตเข้าแลกก็คงไม่คุ้มกัน

ทุกคนจึงเคลื่อนกายหายไปภายใต้คำสั่งของสืออวี๋

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป พวกเขาก็มาถึงยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งหนึ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศว่างเปล่า จากนั้นก็เหินร่างลงมายังหุบเขาที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง

วิ้ง~

สืออวี๋สะบัดแขนเสื้อ ทำให้ศิลาเบญจรงค์เปลี่ยนเป็นกำแพงแสงโอบล้อมหุบเขานี้ไว้ จากนั้นแสงก็หายไปแล้วกลับคืนสู่ความสงบ

มองจากภายนอกหุบเขานี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย ทว่ากลิ่นอายของสืออวี๋และคนอื่น ๆ ถูกซ่อนไว้จนมิด อีกทั้งหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ศิลาเบญจรงค์ก็จะสร้างข้อจำกัดขึ้นมาปกป้องพวกตน นับว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างยิ่ง

เมื่อลงมือเสร็จสิ้น สืออวี๋ก็ถอนหายใจโล่งอก ศึกเมื่อครู่นี้เขาได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง ต้องใช้เวลาพักผ่อนฟื้นฟูพลัง ตอนนี้ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

เพราะอย่างไรที่นี่ก็คือสุสานราชันเซียนซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าประมาทระหว่างกำลังฟื้นตัวอยู่ที่นี่แน่

แต่ก่อนจะนั่งพักฟื้นพลัง สืออวี๋ก็พลิกแขนเสื้อเอาไข่มุกวิญญาณเต๋ากองหนึ่งออกมา แล้วแบ่งมันออกเป็นสี่ส่วน สวนละกว่าพันเม็ด ก่อนจะแจกให้ตัวเอง เซียงหลิวหลี เตียนเตี้ยน และเฉินซี

ไข่มุกเหล่านี้มาจากศพเทพโลหิตโบราณที่พวกเขาสังหารมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีไข่มุกอีกสี่เม็ดที่รูปร่างคล้ายหัวใจ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแปลกประหลาด มันเรียกว่าใจปราชญ์แห่งราชันเซียน มีแก่นพลังบำเพ็ญของศพราชันเซียนโบราณอยู่ ซึ่งของเหล่านี้จะได้รับการแบ่งสันปันส่วนตามสมควร

สำหรับเหล่าราชันเซียนอย่างสืออวี๋และคนอื่น ๆ แล้ว ไข่มุกวิญญาณเต๋าและใจปราชญ์แห่งราชันเซียนจำนวนเท่านี้นับว่าไม่ได้มากอะไรนัก

แต่นับว่าเป็นโชคชั้นใหญ่สำหรับเฉินซี!

ไม่ว่าจะเป็นไข่มุกวิญญาณเต๋าหรือใจปราชญ์แห่งราชันเซียนก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เย้ายวนใจต่อเหล่าผู้ที่เหลืออีกครึ่งขั้นจะถึงราชันเซียนกันทั้งสิ้น หากเฉินซีบอกว่าจะเอาของเหล่านี้ไปขาย ราชันเซียนครึ่งขั้นทั้งหลายคงได้ยกโขยงกันมาครั้งใหญ่!

นั่นก็เพราะสมบัติเหล่านี้ต้องเป็นผู้อยู่ขอบเขตราชันเซียนถึงจะหามาได้ และด้วยความหายากเช่นนี้จึงมีความล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ได้มาเพราะโชคชะตาเท่านั้น!

ทว่าเฉินซีกลับพูดอะไรไม่ออก เพราะอยู่ในมือยังไม่ทันอุ่นก็ถูกชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากฉวยเอาไปเสียแล้ว ไม่เหลือไว้สักชิ้นเดียว…

นี่มันไข่มุกวิญญาณเต๋ากว่าพันเม็ด แถมยังเอาใจปราชญ์แห่งราชันเซียนไปอีก! ตอนนี้มุมปากเฉินซีกระตุกยิก ๆ ไม่หยุด รู้สึกปวดใจเหลือเกิน

เดิมทีเขาคิดว่าถึงไม่ได้ใช้ ก็สามารถเอากลับสำนักเผื่อไว้ใช้เป็นของขวัญในการสานสัมพันธ์กับผู้อาวุโสที่อยู่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นในสำนักศึกษาได้ แต่ไม่คิดเลยว่า… ของจะหายไปภายในพริบตาเช่นนี้

ย่อมทำให้เฉินซีรู้สึกหดหู่ใจอยู่บ้าง

แต่เคราะห์ดีที่เตียนเตี้ยนกลับทำให้เฉินซีต้องประหลาดใจ

เมื่อสืออวี๋กับเซียงหลิวหลีเริ่มทำสมาธิฟื้นพลัง เตียนเตี้ยนก็เรียกเฉินซีเข้าไปหา ก่อนจะดันกล่องหยกหนึ่งใบมาให้

“ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากอยู่ในนี้ อย่างไรอยู่ในมือข้าไปก็ไร้ประโยชน์ เอาให้เจ้ายังดีเสียกว่า” เตียนเตี้ยนยิ้มพลางเอ่ยผ่านกระแสปราณ นัยน์ตากระจ่างใสพร้อมกับคลี่ยิ้มหวานให้

เฉินซีชะงักไปก่อนกล่าวว่า “เดินทางครั้งนี้ข้าไม่ได้ทำอะไรมาก…”

ครั้งนี้เตียนเตี้ยนเอ่ยขัดขึ้น “ เจ้าช่วยพวกเรามาครั้งหนึ่งแล้ว อีกทั้งช้าเร็วของสิ่งนี้ก็ต้องเป็นของเจ้าอยู่ดี”

เฉินซีมุ่นคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เช่นนั้น…ขอทราบได้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงพาเซียนทองคำเดินทางมาด้วยเช่นนี้?”

เตียนเตี้ยนทัดปอยผมก็หนึ่งที่หลังหู ก่อนจะหัวเราะเอ่ยขึ้นด้วยตาเป็นประกาย “รู้อยู่แล้วว่าต้องถาม”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางก็เอียงคอคิดอยู่เล็กน้อยก่อนกล่าว “จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่ได้รู้จักเจ้า อย่างมากก็แค่เคยได้ยินว่าในหมู่ศิษย์ใหม่ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋ามียอดฝีมืออันดับหนึ่งชื่อว่าเฉินซี แต่ต่อมามีคนมาหาข้าที่ทวีปรัตติกาล ขอให้ข้ามอบชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากให้เขา ส่วนราคาก็… นางสัญญาว่าข้าจะสามารถหาวิชาเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดของเต๋าและกลายเป็นเทพได้!”

“ยอมรับเช่นนั้นเลยหรือ?” เฉินซีอดถามขึ้นไม่ได้จริง ๆ ทั้งยังคาดเดาได้อยู่ราง ๆ ว่าเตียนเตี้ยนพูดถึงใคร

“นั่นคือความลับในการเป็นเทพเชียวนะ จะมีราชันเซียนคนไหนในสามภพต่อต้านไหว?” เตียนเตี้ยนนั่งกอดเข่าบนพื้นหญ้า สายตาทอดมองไปไกลระหว่างที่ยิ้มบาง “ไม่ต้องกล่าวว่าการแลกชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากกับการก้าวเข้าสู่การเป็นเทพย่อมเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอยู่แล้ว”

“ไม่กลัวจะถูกหลอกหรือ?” เฉินซีถามขึ้นอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง เริ่มเข้าใจความคิดนางขึ้นมาเล็กน้อย

“เจ้าคิดว่านางจะหลอกข้า?” เตียนเตี้ยนถามขึ้นยิ้ม ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]