บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1379

บทที่ 1379 เปิดแดนโบราณ

บทที่ 1379 เปิดแดนโบราณ

แกรก! แกรก!

เฉินซีแยกส่วนที่เสียหายของกระบี่เซียนบงกชครามออกอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นแกนกระบี่ขนาดเล็กแวววาวเปล่งแสงสีเขียวออกมา

มันมีความยาวประมาณสี่ชุ่น เพรียวบางเหมือนข้อนิ้วของทารก มีรูปร่างเหมือนใบบัว สีเขียว และโปร่งแสงเหมือนอำพันบริสุทธิ์ทอแสงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้มันดูศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นตัวแกนกระบี่ที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ และส่วนที่หายากก็คือการที่มันถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ราวกับว่ามันมีชีวิตมีลมหายใจของตัวเอง

เคร้ง!

ทันทีที่มันสัมผัสกับอากาศ มันก็ส่งเสียงกระจ่างใสและไพเราะออกมาทันที ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนฟ้า

เฉินซีที่เฝ้าดูมันมาโดยตลอดจะปล่อยให้มันหลบหนีได้อย่างไร เขายื่นมือออกไปคว้ามัน ขณะที่ใช้พลังปริภูมิกักขังมันไว้ในทันที และยับยั้งกระบี่ขนาดเล็กทันทีและวางมันกลับเข้าไปในกล่องหยก

ถึงอย่างนั้น เฉินซีก็ยังแอบประหลาดใจ เมื่อเห็นกระบี่เล็กรูปใบบัวนี้ยังคงสั่นไหวและดิ้นรน

ก่อนหน้านี้ ภายในโถงแต้มดาราชั้นสาม เฉินซีได้สังเกตเห็นผ่านเนตรเทวะแห่งความจริงว่า มีร่องรอยของรัศมีที่ผิดปกติอยู่ภายในกระบี่เซียนบงกชคราม และดูเหมือนกับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงยืนกรานที่จะแลกสมบัตินี้มา

ตอนนี้เมื่อเปิดมันออกมา เขาก็พบบางสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่ากระบี่เซียนบงกชคราม กระบี่เล็กที่ก่อเกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ!

ท้ายที่สุดแล้ว กระบี่เซียนบงกชครามนี้ก็ถูกสร้างขึ้นจากบงกชครามชำระโลกบรรพกาล สามสิบหกกลีบ ที่แม้แต่ในช่วงบรรพกาลก็ถือได้ว่าเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์

ดังนั้น ใคร ๆ ก็สามารถบอกได้ว่ากระบี่เล่มเล็กที่เกิดในกระบี่เซียนบงกชครามนั้น มีความพิเศษมากเพียงใด

ตามคำตัดสินของเฉินซี กระบี่เล็กนี้คือเหตุผลว่า ทำไมกระบี่เซียนบงกชครามยังคงสามารถครอบครองพลังที่เทียบเท่าได้กับสมบัติอมตะระดับวีรบุรุษ แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงก็ตาม!

หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากกระบี่เล็กนี้ กระบี่เซียนบงกชครามก็คงจะเป็นเพียงเศษเหล็กเท่านั้น

เฉินซีเคยอ่านหนังสือโบราณในสงวนคัมภีร์ครั้งหนึ่ง หนังสือนั้นบันทึกตำนานที่เกี่ยวข้องกับบงกชครามชำระโลกบรรพกาลสามสิบหกกลีบ มันกล่าวว่า บงกชครามชำระโลกนี้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ณ ช่วงเริ่มต้นของโลก ดอกที่เบ่งบานของมันประกอบด้วยกลีบสามสิบหกกลีบ แต่ละกลีบคือโลก แต่ละโลก คือความล้ำลึกทั้งสามสิบหกประการ ครอบคลุมความลับทั้งหมดของสวรรค์และปฐพี จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้นกำเนิดของบงกชครามชำระโลกบรรพกาลสามสิบหกกลีบนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด

ในทางกลับกัน กระบี่เล็กที่ก่อตัวขึ้นภายในขุมทรัพย์อมตะ ที่สร้างขึ้นจากกลีบของบงกชครามชำระโลกบรรพกาลสามสิบหกกลีบ ก็เปรียบเหมือนกับเมล็ดพันธ์ุ มันสามารถเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นได้ และนี่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของมัน

“น่าเสียดายที่ตอนนี้ยันต์ศัสตราไม่ได้อยู่ในมือของข้าแล้ว มิฉะนั้น หากแกนกระบี่เล็กนี้ถูกรวมเข้ากับมัน พลังของยันต์ศัสตราอาจจะกลายเป็นระดับวีรบุรุษได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคตเมื่อมันพัฒนา มันก็สามารถรับประโยชน์จากกระบี่เล็กนี้ได้อีก… ”

เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ และเก็บสมบัติชิ้นนี้ไปอย่างระมัดระวัง ในวันที่ยันต์ศัสตรากลับคืนสู่มือเมื่อใด เขาจะใช้มันขัดเกลายันต์ให้สมบูรณ์

หลังจากนั้น เฉินซีก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป ชายหนุ่มหยิบกระบี่เซียนนภาม่วงออกมา ก่อนที่จะเข้าสู่โลกแห่งดาราเพื่อฝึกฝน เขาตั้งใจที่จะทำความคุ้นเคยกับกระบี่เซียนนี้ให้เร็วที่สุดและบรรลุระดับความเชี่ยวชาญที่สามารถควบคุมมันได้ตามต้องการ

สองวันต่อมา

วันนี้เป็นวันที่แดนโบราณจักรพรรดิเต๋าจะเปิดออก

เฉินซีเดินออกจากโลกแห่งดาราและพุ่งออกจากห้องกระบี่ในพริบตา ชายหนุ่มมุ่งหน้ามายังสถานที่ที่เรียกว่า ‘ภูเขาโบราณกาล’ ตามคำแนะนำที่ให้ไว้ในแผ่นหยก

ภูเขาลูกนี้ถูกปกคลุมไปด้วยทะเลเมฆที่กว้างใหญ่ ในขณะที่ตัวภูเขาเองก็ตระหง่านสง่างามอย่างยิ่งราวกับเป็นที่อาศัยของมังกร ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ที่ล้ำลึก

เมื่อเฉินซีมาถึงหน้าภูเขาเซียนลูกนี้ ชายหนุ่มก็สังเกตได้ทันทีว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่บนหน้าผาเรียบ และสองสามคนในหมู่คนเหล่านั้นก็มีใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นเคย

เฉินซีรู้ดีว่า มีศิษย์ที่จะเข้าสู่แดนโบราณจักรพรรดิเต๋าทั้งหมดสิบคน และห้าคนในนั้นคือผู้ที่ได้ห้าอันดับแรกในการสอบศิษย์สายใน นั้นคือ อ๋าวจ้านเป่ย เจิ่นลู่ จี้เซวียนปิง จ้าวเมิ่งหลี และตัวเขาเอง

ส่วนอีกห้าคนนั้นเป็นศิษย์เก่าของฝ่ายใน พวกเขาคือ หลิงชิงอู๋ เยี่ยถัง เนี่ยซิงเจิน กู่เยวหรู และจงหลีหลัว

ในหมู่พวกเขานอกจาก หลิงชิงอู๋ เนี่ยซิงเจิน กู่เยวหรู และจงหลีหลัวแล้ว เฉินซีก็รู้จักศิษย์คนอื่น ๆ ทั้งหมด และความสัมพันธ์กับหลายคนก็ไม่เลวเลย

สิ่งนี้ทำให้เฉินซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะมาเข้าร่วมแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า ในอดีตเขามักจะพบกับศิษย์ที่ทรงพลังจากนิกายอื่น ๆ ในทุกการเดินทาง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับอีกฝ่าย หรือไม่ถูกขัดขวางไม่ให้ได้รับสมบัติหรือต้องเผชิญหน้าโดยบังเอิญ

เห็นได้ชัดว่า อย่างน้อยที่สุด เหตุการณ์เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้นในการเดินทางไปยังแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าครั้งนี้

“ศิษย์น้องเฉินซี!”

“เฉินซี”

“เฉินซี”

ในขณะเดียวกัน เยี่ยถัง จี้เซวียนปิง จ้าวเมิ่งหลี และเจิ่นลู่ ก็สังเกตเห็นเฉินซีที่เพิ่งมาถึง และเดินมาทักทายด้วยรอยยิ้ม

เฉินซีรีบประสานมืออย่างรวดเร็วและยิ้มทักทายทีละคน เขาค่อนข้างมีความสุขเช่นกันที่ได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการนี้ร่วมกับเยี่ยถังและคนอื่น ๆ

“ตั้งแต่เจ้ากลับมาที่สำนัก เจ้าก็ปิดด่านบ่มเพาะอยู่ตลอด ทำให้เราไปดื่มกับเจ้าไม่ได้เลย เมื่อเรากลับมาจากแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า เจ้าจะต้องถูกดื่มลงโทษ!” เยี่ยถังยิ้มขณะเอ่ยหยอกล้อเฉินซี

“ใช่แล้ว เขาต้องถูกลงโทษด้วยเหล้าสามร้อยจอก!” จี้เซวียนปิงส่งเสียงเห็นด้วยอยู่ข้าง ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]