บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1392

บทที่ 1392 ขอบเขตเทพยันต์อักขระ

บทที่ 1392 ขอบเขตเทพยันต์อักขระ

พิชิตผู้อื่นโดยไม่ต้องต่อสู้?

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หวังต้าวหลูและจั่วชิวไท่อู่ต่างตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อได้ทราบเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนทางเดินดาวหางจากหัวเจี้ยนคง พวกเขาก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “เด็กคนนี้ช่างใจกว้างและมีความสามารถตั้งแต่อายุยังน้อยจริง ๆ เมื่อใดที่เขาบรรลุขอบเขตราชันเซียน เขาจะกลายเป็นผู้นำของยุคสมัยแน่นอน!”

บนทางเดินดาวหาง

เมื่อไม่มีการแข่งขันแล้ว พวกเขาทั้งหกต่างก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดี

เฉินซีและกู่เยวหรูต่างทำลายข้อจำกัดที่อยู่ข้างหน้า ในขณะที่กลุ่มสี่คนของหลิงชิงอู๋คอยต้านการโจมตีของดาวหาง และความเร็วในการรุกคืบของพวกเขาก็รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง

อุกกาบาตลูกที่ 2,640

อุกกาบาตลูกที่ 2,690

อุกกาบาตลูกที่ 2,750…

สามวันต่อมา พวกเขาก้าวขึ้นไปบนอุกกาบาตลูกที่ 2,900 ในรวดเดียว และจะต้องฝ่าอุกกาบาตอีกเพียงอีกหนึ่งร้อยลูกเท่านั้น ก็จะสามารถผ่านทางเดินดาวหางได้สำเร็จ

ในระหว่างกระบวนการทั้งหมดนี้ จากทุกข้อจำกัดที่พวกเขาทำลายได้นั้น แต่ละคนจะได้รับรัศมีปราชญ์เต๋ามหาศาล และอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เช่นเดียวกับเฉินซี หลังจากที่หลอมรวมตราศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุและตราศักดิ์สิทธิ์แห่งพายุแล้ว เขายังได้หลอมรวมตราศักดิ์สิทธิ์แห่งไท่จี๋และตราศักดิ์สิทธิ์แห่งซากดารา ตอนนี้แม้แต่ตราศักดิ์สิทธิ์เกิดดับก็ถูกหลอมรวมได้แปดในสิบส่วนแล้ว!

ผลลัพธ์ดังกล่าวได้เกินความคาดหมายของเฉินซีโดยสิ้นเชิง และถือได้ว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

เมื่อเขาผ่านร้อยข้อจำกัดสุดท้าย เป็นไปได้ว่าตราศักดิ์สิทธิ์เกิดดับอาจจะหลอมรวมได้อย่างสมบูรณ์ ณ เวลานั้น ชายหนุ่มจะขาดเพียงตราศักดิ์สิทธิ์แห่งนิจกาล ก็จะสามารถบัญญัติเต๋าแห่งปราชญ์ยันต์อักขระของตนได้

อย่างไรก็ดี ณ เวลานี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินซีไม่ได้สนใจเรื่องทั้งหมดนี้แม้แต่น้อย

“ข้าได้ยินมาว่าข้อจำกัดของอุกกาบาตร้อยลูกสุดท้าย เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุดบนทางเดินดาวหางแห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อนแม้แต่กลุ่มของท่านเจ้าสำนักก็ยังติดอยู่ที่นี่เป็นเวลาเจ็ดวันเต็ม ๆ ดังนั้นเราจึงไม่อาจประมาทได้” เฉินซีกำชับอย่างรวดเร็ว

ครั้นได้ยินสิ่งนี้ คนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าจริงจัง และพวกเขาปลุกเร้าจิตวิญญาณให้มากขึ้น

อันที่จริง หลังจากที่มาถึงที่นี่ ทุกคนต่างรู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะตลอดการพิชิตข้อจำกัดที่ผ่านมา พวกเขาไม่ได้หยุดพักเลยสักครั้ง ทั้งยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งมาโดยตลอด ทำให้มันสูบพลังดวงใจและพละกำลังไปมาก

หากพวกเขาไม่ได้เตรียมโอสถทิพย์มามากพอ ก็คงไม่อาจยืนหยัดได้ถึงครึ่งทางของทางเดินดาวหางเป็นแน่

ถึงอย่างนั้น ความเหนื่อยล้าก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ขนาดหลิงชิงอู๋และคนอื่น ๆ ยังเป็นเช่นนี้ เฉินซีและกู่เยวหรูที่ต้องรับมือกับข้อจำกัดก็ไม่ต่างกัน เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้เพียงพละกำลังเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ที่เสียไปเป็นพลังดวงใจมากกว่า!

แม้แต่กู่เยวหรูก็ไม่มีทางเลือกจนต้องพึ่งพาโอสถทิพย์เส้นโคจรใจสวรรค์เพื่อเติมเต็มพลังดวงใจของตน ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับการดับกระหายด้วยยาพิษ แต่เพื่อจัดการกับข้อจำกัด นางจึงไม่มีทางเลือกอื่น

แต่ต่อมา หลังจากที่เฉินซีทราบเรื่องทั้งหมดนี้ ชายหนุ่มก็ปฏิเสธความช่วยเหลือของกู่เยวหรูทันที และขอให้นางเฝ้าดูจากด้านข้าง เขาจะจัดการกับข้อจำกัดด้วยตัวเอง

กู่เยวหรูที่ไม่อาจเอาชนะเฉินซีได้ จึงทำได้เพียงยอมรับการตัดสินใจนี้เท่านั้น

ในกระบวนการทั้งหมดนี้ ในที่สุดนางก็ตระหนักได้ว่า การบ่มเพาะในเต๋าแห่งยันต์อักขระของเฉินซีไม่ได้เหนือกว่านางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันเหนือกว่ามาก ถึงขนาดที่สงสัยว่าเฉินซีนั้นบรรลุขอบเขตเทพยันต์อักขระแล้วด้วยซ้ำ!

ไม่เพียงเท่านั้น พลังดวงใจของเฉินซียังน่ากลัวมากจนเกินความคาดหมายเช่นกัน จนถึงบัดนี้ นางยังไม่สังเกตเห็นร่องรอยของความผิดปกติในกลิ่นอายของเฉินซีเลยสักนิด!

หรือว่าการบ่มเพาะพลังดวงใจจะบรรลุขอบเขตทารกดวงใจแล้ว?

กู่เยวหรูตกตะลึงกับการคาดเดาของตน อย่างไรก็ดี เมื่อหวนคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้ว นางไม่รู้สึกว่าการคาดเดานั่นเกินจริงแม้แต่น้อย เนื่องจากการกระทำของเฉินซีนั้นน่าเกรงขามอย่างยิ่ง และมันได้เกินขอบเขตของเซียนปราชญ์ไปนานแล้ว

ทว่าในเวลาต่อมา กู่เยวหรูไม่อาจปล่อยให้ความคิดเตลิดได้อีกต่อไป เพราะเฉินซีนั้นเริ่มจัดการกับข้อจำกัดที่ 2,901 แล้ว!

สายตาของนางจับจ้องไปที่ข้อจำกัดที่ปกคลุมอุกกาบาตนั้นทันที นางไม่ได้อนุมานถึงข้อจำกัด เพียงแค่สังเกตแผนผังของข้อจำกัดเท่านั้น และตั้งใจดูว่าเฉินซีจะจัดการกับมันอย่างไร

เนื่องจากพวกนางถูกบังคับให้เข้าร่วมกับกลุ่มของเฉินซี กู่เยวหรูจึงมักแอบสังเกตเคล็ดลับในการจัดการกับข้อจำกัดของอีกฝ่ายมาโดยตลอด และความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาของคนผู้นี้ ไม่เพียงทำให้นางต้องอุทานด้วยความชื่นชมในใจเท่านั้น แต่ยังรู้สึกราวกับรู้แจ้งและเปิดหูเปิดตามากขึ้นด้วย

อาจกล่าวได้ว่า เพียงแค่คอยสังเกตเฉินซีไปตลอดกระบวนการ มันก็เป็นประโยชน์อย่างมาก และนางก็รู้สึกยินดีจากใจ

นางหลงใหลในเต๋าแห่งยันต์อักขระเช่นเดียวกัน และยังคงยืนหยัดบนเส้นทางของเต๋าแห่งยันต์อักขระมาตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะ จนบัดนี้เต๋าแห่งยันต์อักขระได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของนางมานานแล้ว

และเนื่องจากความหลงใหลในเต๋าแห่งยันต์อักขระที่มากเกินไป ท่านอาจารย์จึงเรียกนางว่า ‘คลั่งยันต์อักขระน้อย’ และฉายานี้ค่อย ๆ กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งสำนัก

ปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระสูงสุดเช่นนาง ย่อมมีเหตุผลที่จะภาคภูมิใจโดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะไปที่ใด นางก็ได้รับการจ้องมองด้วยความชื่นชมและความเคารพอยู่เสมอ

แต่ในขณะนี้…

นางกลับเป็นเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางของเต๋าแห่งยันต์อักขระ นางเฝ้าดูอย่างมีสมาธิ และกลัวอย่างยิ่งว่าจะพลาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อการเรียนรู้ในเต๋าแห่งยันต์อักขระไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]