บทที่ 1443 ออกเดินทางด้วยความเดือดดาล – ตอนที่ต้องอ่านของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ตอนนี้ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1443 ออกเดินทางด้วยความเดือดดาล จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 1443 ออกเดินทางด้วยความเดือดดาล
บทที่ 1443 ออกเดินทางด้วยความเดือดดาล
เมื่อเห็นชายหนุ่มจากไปอย่างเร่งรีบ หัวเจี้ยนคงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “คิดจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ทั้งที่บรรลุขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น แต่เขายังคงบุ่มบ่ามอยู่มาก ดูเหมือนว่าความเกลียดชังจะส่งผลกระทบต่อดวงจิตแห่งเต๋าจริง ๆ”
เหมิงซิงเหอครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง “เจี้ยนคง เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อความขัดแย้งภายในภายในตระกูลจั่วชิว”
ขณะที่กล่าว ดวงตาที่เปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ก็พรั่งพรูด้วยมหาสมุทรอันไร้ขอบเขต และมันบริสุทธิ์ โปร่งแสง ท่วมท้นด้วยประกายแห่งปัญญา สะท้อนถึงความรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยของอำนาจผ่านยุคสมัย
หัวเจี้ยนคงตกตะลึง “ด้วยความแข็งแกร่งและศักยภาพในปัจจุบัน ถ้าเฉินซีแทรกแซงการต่อสู้ครั้งนี้ ย่อมพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดายเป็นแน่แท้”
นี่ไม่ใช่การกล่าวเกินจริง แม้เฉินซีจะอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น แต่เขามีการสนับสนุนจากกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวต่าง ๆ เช่น เขาเทพพยากรณ์ สำนักจักรพรรดิเต๋า ตระกูลเซวียนหยวน…
หากกองกำลังทั้งหมดเหล่านี้ถูกรวมเข้าด้วยกัน มันก็เพียงพอที่จะบดขยี้และกวาดล้างตระกูลจั่วชิวได้อย่างง่ายดาย
“ไม่” เหมิงซิงเหอส่ายศีรษะ “นับตั้งแต่กองกำลังของนิกายอำนาจเทวะได้แทรกซึมเข้าสู่ตระกูลจั่วชิว ความขัดแย้งภายในนี้ได้เกินการควบคุมของตระกูลจั่วชิวมานานแล้ว ดังนั้นความหมายเบื้องหลังมันจึงแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง”
เหมิงซิงเหอถอนหายใจพลางลุกยืนขึ้นจากก้อนหิน ดวงตาที่พรั่งพรูด้วยมหาสมุทรแห่งปัญญาจดจ้องไปยังระยะไกล “เจ้าก็รู้ กลิ่นอายของเบญจนิมิตแห่งอาสัญได้ปรากฏขึ้นก่อนเวลา และตามคำทำนาย ภัยพิบัติจะปะทุในอีกสามร้อยปีนับจากนี้ เรื่องนี้จึงแปลกอย่างยิ่ง”
ดูเหมือนว่าหัวเจี้ยนคงจะตระหนักถึงบางสิ่งเช่นกัน คิ้วหนาเลิกขึ้น “ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่ามันเกิดจากนิกายอำนาจเทวะหรือ?”
“ก็คงเป็นเช่นนั้น” เหมิงซิงเหอไม่ได้ปิดบังและกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “นิกายอำนาจเทวะได้วางแผนอย่างลับ ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตั้งใจใช้โอกาสการมาถึงของภัยพิบัติ เพื่อนำหายนะมาสู่โลกและทำให้นิกายอำนาจเทวะมีอำนาจควบคุมสามภพอีกครั้ง ตอนนี้กลิ่นอายของเบญจนิมิตแห่งอาสัญได้จุติลงมาแล้ว นี่เป็นสัญญาณว่าคงอีกไม่นาน ก่อนที่เงาของนิกายอำนาจเทวะจะแผ่กระจายไปทั่วภพเซียน…”
หัวเจี้ยนคงขมวดคิ้ว “แล้วทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลจั่วชิวอย่างไร?”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี่ ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจอย่างฉับพลัน ดวงตาพลันสว่างวาบ “หรือว่านิกายอำนาจเทวะตั้งใจที่จะจัดการกับความขัดแย้งภายในตระกูลจั่วชิวนี้ เพื่อเป็นก้าวแรกในกวาดล้างโลก?”
เหมิงซิงเหอไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับ เขาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจในที่สุด “เจี้ยนคง จงไปกับอาจารย์อาของเจ้า ตอนนี้ความวุ่นวายดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
“อาจารย์อา?” หัวเจี้ยนคงมึนงงทันที แม้นิสัยของเขาจะเย็นชาและไม่แยแส แต่ก็อดสับสนไม่ได้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า ท่านอาจารย์มีศิษย์น้องด้วย
เมื่อเห็นท่าทางของหัวเจี้ยนคง เหมิงซิงเหอเข้าใจได้ทันที จึงพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “เจี้ยนคง ข้าลืมบอกเจ้าไป เฉินซีเป็นศิษย์น้องของข้า ดังนั้นเขาจึงเป็นอาจารย์อาของเจ้า”
เฉินซี?
อาจารย์อาของข้า?
หัวเจี้ยนคงตกตะลึงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเค้นสมองคิดเท่าไร ก็ยากที่จะจินตนาการได้ว่า ผู้เยาว์ที่เรียกเขาว่าศิษย์พี่ซ้ำ ๆ จะกลับกลายเป็นอาจารย์อาจริง ๆ
มันไม่ไร้สาระไปหน่อยหรือ!?
หัวเจี้ยนคงอ้าปากค้าง เมื่อคิดว่าต้องเรียกเฉินซีว่าอาจารย์อาในภายหน้า เขาก็รู้สึกขมในปาก ข้าไม่สามารถเรียกเช่นนั้นได้จริง ๆ!
“อะไร? เจ้าไม่เต็มใจหรือ?” เหมิงซิงเหอยิ้มพลางเอ่ยถาม
“ศิษย์จะกล้าได้อย่างไร” หัวเจี้ยนคงรีบประสานมือ “หากท่านอาจารย์ไม่มีคำสั่งอื่นใด เช่นนั้นข้าจะไปหาเฉิน… อาจารย์อา… เฉินซี”
เมื่อเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของศิษย์ เหมิงซิงเหอก็หัวเราะดังลั่น “ไปเถอะ บอกเจ้าหนูนั่นว่าเมื่อจำเป็น จ้าวไท่ฉือ อ๋าวจิ่วหุย และฉือฉางเซิงจะเป็นผู้ลงมือเอง ไม่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อเรื่องนี้”
“ขอรับ” หัวเจี้ยนคงรับคำสั่งและจากไป
…
“สามวันก่อน บรรดาผู้อาวุโสฝ่ายจั่วชิวเฟยหมิง ได้เลิกเสแสร้งต่อจั่วชิวเฟิง ทำให้ความขัดแย้งภายในปะทุขึ้น”
“ยิ่งกว่านั้น ตามข้อมูลที่ข้าได้รับ จั่วชิวเฟิงได้เตรียมการมาอย่างดี ก่อนที่ความขัดแย้งภายในจะปะทุขึ้น การต่อต้านของจั่วชิวเฟยหมิงและคนอื่น ๆ ล้วนตกอยู่ในแผนการของจั่วชิวเฟิงมาตั้งแต่แรกเริ่ม และทันทีที่การต่อสู้ปะทุขึ้น ราชันเซียนครึ่งขั้นสิบเอ็ดคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเขา ล้วนถูกทำลายสิ้น ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง”
“พวกมันต้อนฝ่ายจั่วชิวเฟยหมิงทุกทาง และหากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องถูกทำลายล้างภายในไม่กี่วันอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ทราบทุกอย่างจากอาซิ่ว เฉินซีรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป กะทันหันเกินไป ตามการคาดการณ์เบื้องต้น มารดาของเขาจั่วชิวเสวี่ยจะไม่ตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี
แต่ใครจะคาดคิดได้ว่า ความขัดแย้งภายในของตระกูลจั่วชิวจะปะทุขึ้นก่อนเวลา โดยที่เขายังไม่ได้เริ่มเตรียมกองกำลังด้วยซ้ำ!
เมื่อได้ยินว่าหัวเจี้ยนคงเต็มใจที่จะไปกับตน เฉินซีก็รู้สึกยินดีในใจ จึงประสานมือกล่าว “ถ้าอย่างนั้น ข้าคงต้องรบกวนผู้อาวุโสแล้ว”
เมื่อได้ยินวิธีการกล่าวของเฉินซี หัวใจของหัวเจี้ยนคงก็กระตุกวูบทันที “นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ ท่านอาจารย์ได้บอกข้าทุกอย่างแล้ว นอกจากนี้เมื่อถึงเวลา จ้าวไท่ฉือ อ๋าวจิ่วหุย และฉือฉางเซิงจะช่วยเหลือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”
สิ้นเสียงพูด เฉินซีก็สงบลงอย่างสมบูรณ์ และเมื่อคิดถึงท่าทางก่อนหน้านี้ ก็รู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง เพราะเขามุ่งความสนใจไปที่การเชิญสืออวี๋และคนอื่น ๆ มาก จนลืมไปว่ามีเหล่าผู้อาวุโสมากมายในสำนักที่สามารถช่วยเหลือตนได้…
หลังจากนั้น เขาก็ทิ้งความคิดที่กวนใจทั้งหมด “ผู้อาวุโส เช่นนั้นออกเดินทางกันเถอะ!”
หัวเจี้ยนคงรู้สึกอึดอัดในใจเมื่อได้ยินเฉินซีเรียกตนว่า ‘ผู้อาวุโส’ อีกครั้ง “อย่าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีก”
เฉินซีตกตะลึง จากนั้นจึงตบหน้าผากตัวเอง เนื่องจากเขาเป็นศิษย์น้องเหมิงซิงเหอ ดังนั้นในฐานะศิษย์ของเหมิงซิงเหอ หัวเจี้ยนคงจึงกลายเป็นศิษย์หลานของเขาโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม เฉินซีรู้สึกอึดอัดมากที่ต้องเรียกหัวเจี้ยนคงในฐานะศิษย์หลาน!
หลังจากนั้น ทั้งสองซึ่งเป็นอาจารย์อาและศิษย์หลานในนาม ก็ทะยานออกไป และเหลือไว้เพียงความเงียบงัน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ อาซิ่วก็จากไปอย่างเร่งรีบ พร้อมกับตราคำสั่งที่เฉินซีมอบให้
ก่อนที่พวกเขาจะออกจากสำนัก เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และกลับไปที่ห้องกระบี่ แล้วจึงทิ้งหม้อใบจิ๋วและเคหาไว้ที่นั่น
การทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้ตนเองมีหนทางหลบหนี
เห็นได้ชัดว่าเฉินซีได้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงชีวิตในการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้น!
…
ภายในดินแดนเร้นลับ เหมิงซิงเหอเอามือไพล่หลัง ขณะจ้องมองด้วยดวงตาที่เหมือนมหาสมุทรแห่งปัญญาผ่านชั้นบรรยากาศ หลังจากที่ส่งเฉินซีและหัวเจี้ยนคงออกไป เขาก็พึมพำด้วยเสียงอันแผ่วเบา “เหตุแห่งความโกลาหลได้ลงมาสู่โลกแล้ว และโอกาสที่พวกเจ้าทั้งสามรอคอยก็มาพร้อมกับสิ่งนี้ ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะต้องยืดเส้นยืดสายเสียที”
น้ำเสียงราบเรียบคล้ายธรรมดา แต่มันกลับเต็มไปด้วยท่วงทำนองของเต๋าที่แผ่ออกไปในระยะไกล และไปยังสถานที่บ่มเพาะที่แตกต่างกันสามแห่งภายในสำนัก
จ้าวไท่ฉือ อ๋าวจิ่วหุย และฉือฉางเซิงที่อยู่ในการปิดด่านบ่มเพาะ พลันลืมตาตื่นขึ้นในเวลาเดียวกัน เหมือนกับทวยเทพสามองค์ที่ตื่นจากการหลับใหล…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...