บทที่ 1445 การต่อสู้ที่สิ้นหวัง
บทที่ 1445 การต่อสู้ที่สิ้นหวัง
ตึง! ตึง!
ภายในทะเลทรายเนตรสวรรค์ เพลิงกาฬแห่งสงครามเดือดพล่านจากการปะทะกันของสมบัติอมตะจำนวนมากบนอากาศ รัศมีเซียนทั้งหลายปะทุคลั่งในขณะที่พลังซึ่งเป็นผลพวงจากแรงโจมตีได้เปลี่ยนให้พื้นที่มิติกลายเป็นผุยผง ความรุนแรงของมันทำลายแม้แต่ฟ้าดินให้พังทลาย คลื่นแห่งความโกลาหลซัดสาด ผืนปฐพีทั่วระแหงตกอยู่ใต้เงามืด
การต่อสู้ที่ดุเดือดดำเนินไปกว่าสามวันสามคืน ทั่วทุกพื้นที่ของทะเลทรายเนตรสวรรค์อาบนองไปด้วยโลหิตเซียน พวกมันย้อมแผ่นฟ้าให้กลายเป็นสีแดงสดคล้ายกับตกอยู่ใต้แดนชำระล้าง พื้นที่โดยรอบกำจายซ่านไปด้วยกลิ่นอายแห่งสงคราม เลือด และความตาย
หากการต่อสู้ระหว่างสุดยอดผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งภพเซียนนี้เกิดขึ้นในโลกภายนอก มันคงจะทำลายดินแดนนับไม่ถ้วนและกวาดล้างผู้บริสุทธิ์จนแทบหมดแผ่นดิน
โชคดีที่ที่นี่คือทะเลทรายเนตรสวรรค์ซึ่งมีพื้นที่ทอดไกลกว่าสิบล้านลี้ สภาพแวดล้อมของมันเลวร้ายอย่างยิ่ง ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มีไม่มากนัก ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าการต่อสู้จะรุนแรงหรือเลือดสาดมากเพียงใด มันก็จะไม่ส่งผลกระทบออกไปยังภายนอก
แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อการต่อสู้ที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลกานี้ปะทุขึ้น ทั่วทั้งทะเลทรายเนตรสวรรค์ก็พลันถูกทำลายด้วยไฟแห่งสงคราม และเสื่อมสลายไปจากโลกด้วยถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นห้วงแห่งซากปรักรกร้าง
กาลเวลาผ่านไปถึงสามวันเต็ม!
ที่ด้านนอกสนามรบ จั่วชิวเฟิง ผู้นำตระกูลจั่วชิวทอดมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเยือกเย็นตลอดสามวัน กระทั่งการต่อสู้มาถึงจุดที่พลังหลักของฝ่ายจั่วชิวเฟยหมิงถูกทำลายไปจนใกล้จะหมดสิ้น ในตอนนี้พวกเขาเหลือเพียงกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่กำลังต่อสู้ด้วยความสิ้นหวัง
ผิดกับฝ่ายของจั่วชิวเฟิงที่แม้จะสูญเสียกำลังสำคัญไปมากเช่นกัน แต่หากเทียบกันแล้ว มันยังเป็นความสูญเสียในระดับที่ยังยอมรับได้
อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่มีความปีติยินดีใดปรากฏขึ้นในห้วงใจแม้แต่น้อย เหตุผลน่ะหรือ ง่ายมาก การต่อสู้ครั้งนี้อย่างไรก็เกิดจากความขัดแย้งภายในของตระกูลจั่วชิว ไม่ว่าจะฝั่งของตนหรือคู่ตรงข้ามก็ล้วนแต่เป็นคนของตระกูลจั่วชิวทั้งสิ้น เลือดที่นองท่วมพื้นก็เป็นเลือดของตระกูลจั่วชิว จะมีใครที่ไหนยินดีจากเบื้องแท้ของใจที่ได้ฆ่าคนในตระกูลกันเล่า?
พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าหากจั่วชิวเฟิงไม่ถูกสถานการณ์บีบคั้น เขาก็คงไม่เลือกใช้วิธีการที่รุนแรงและป่าเถื่อนเช่นนี้แน่!
แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อสหายเต๋าเหล่านี้เป็นผู้บีบให้ข้าต้องทำ!
จั่วชิวเฟิงกวาดมองยังสมรภูมิที่อยู่ห่างไกลออกไปทั้งสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยแห่งความเวทนาใดปรากฏในยามที่เสียงครวญไห้กระทบโสตประสาท นับแต่อดีตกาลจนถึงตอนนี้ ผู้ที่ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ล้วนแล้วแต่ต้องโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน และไร้เมตตาทั้งสิ้น!
ดั่งคำกล่าวที่ว่า กองทัพไม่อาจบัญชาด้วยความปรานี
จั่วชิวเฟิงเชื่อว่าหากใครสักคนต้องขึ้นมาอยู่จุดเดียวกับตน คนผู้นั้นก็คงจะต้องเลือกวิธีการที่โหดร้ายไม่ต่างกัน แน่นอน ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงภายในของตระกูลจั่วชิว และเขาคือคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของผู้นำตระกูล
เขามีแต่ต้องทำมันเท่านั้น!
หากจะโทษใครสักคน ก็จงโทษตัวเองเถิดที่กล้ามาต่อกรกับข้า แม้ว่าหากบรรพชนตระกูลจั่วชิวตื่นขึ้นมาจากหลุม พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะเอาผิดข้าได้… จั่วชิวเฟิงพึมพำกับตัวเองในใจ
“รายงานท่านผู้ประมุข ตอนนี้ศัตรูเหลืออยู่เพียงสิบเจ็ดคนเท่านั้น กบฏจั่วชิวเฟยหมิงยังคงปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อความตายและยังคงดิ้นรนด้วยความสิ้นหวัง ในขณะเดียวกัน ฝ่ายของพวกเราสูญเสียราชันเซียนครึ่งขั้นไปหกคน ส่วนราชันเซียนครึ่งขั้นอีกสามสิบห้าคนและท่านบรรพบุรุษหวงหลินยังคงอยู่ในการต่อสู้ นับว่าพวกเราอยู่จุดที่ยังได้เปรียบขอรับ” ตอนนั้นเอง บุรุษวัยกลางคนร่างกำยำก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางอากาศเบาบางและประสานมือคำนับระหว่างที่รายงานสถานการณ์ต่อจั่วชิวเฟิง
จั่วชิวเฟิงตกอยู่ในภวังค์ความคิดลึกซึ้ง เขายังคงพูดเช่นเดิม “กดดันคนพวกนั้นต่อไป อย่าให้ใครหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
“รับทราบ!” ชายวัยกลางคนรับบัญชาด้วยความเคารพก่อนจะหายไปในทันที
“ฮ่า ๆ ๆ! ขอแสดงความยินดีกับประมุขจั่วชิว ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ ผลลัพธ์คงกระจ่างในอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยาม!” ทันทีที่เว่ยซิงได้ยินเช่นนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาและรีบแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย
จั่วชิวเฟิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจากเบื้องลึกของจิตใจต่อคำพูดเหล่านั้น กระนั้นเขาก็ยังคงตอบเว่ยซิงด้วยเสียงเรียบเฉย “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการช่วยเหลือของใต้เท้าเว่ย”
ขณะที่จั่วชิวเฟิงพูด เขาก็มองไปที่ด้านหลังของเว่ยซิงโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดวงตาสะท้อนภาพของคนเก้าคนที่สวมผ้าคลุมสีดำ คนเหล่านั้นเปี่ยมไปด้วยรัศมีที่สลัวรางอย่างยิ่ง แม้แต่ผ้าคลุมก็อัดแน่นไปด้วยพลังประหลาดที่ทำให้ผู้คนไม่อาจตั้งตัวถึงการมาถึงของพวกเขาได้ ช่างเป็นกลุ่มคนที่ดูลึกลับไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม จั่วชิวเฟิงนั้นตระหนักดีว่าร่างลึกลับในผ้าคลุมทั้งเก้าคนนั้นอยู่ในขอบเขตราชันเซียน! พวกเขาคือหมากหลักที่นิกายอำนาจเทวะวางไว้ให้เป็นสุดยอดขุมพลังแห่งภพเซียนมาตลอดหลายปีที่ผ่าน!
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่วงรู้ถึงตัวตนของพวกเขา
จั่วชิวเฟิงไม่เห็นความสำคัญใดที่จะต้องสนใจถึงตัวตนภายใต้ชุดคลุมของคนซึ่งอาศัยอยู่ในภพเซียน แต่กระนั้นใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะคลางแคลง พูดกันตามตรง ตั้งแต่ที่เว่ยซิงนำหมากหลักเหล่านี้มาด้วย มันก็ทำให้ใจของเขาบังเกิดความระแวงอย่างยิ่ง
ตอนนี้เว่ยซิงมีร่างลึกลับใต้ผ้าคลุมอยู่เก้าคน ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมีราชันเซียนครึ่งขั้นจำนวนหกสิบเก้าคนอยู่ในฝั่งของตน ยอดฝีมือเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สวมผ้าคลุมสีดำทั้งสิ้น พวกเขาคือหมากที่นิกายอำนาจเทวะวางไว้ในภพเซียนอย่างแน่นอน
กล่าวโดยสรุป บรรดายอดฝีมือทั้งหลายที่เว่ยซิงเป็นผู้นำมานั้นประกอบไปด้วยผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตราชันเซียนเก้าคน และขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นหกสิบเก้าคน หากพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ประสานกันเป็นหนึ่งแล้วละก็ มันก็เพียงพอจะกวาดล้างกองกำลังขนาดใหญ่ในภพเซียนได้มากมายเลยทีเดียว!
เมื่อต้องเผชิญกับพลังเช่นนี้ มีหรือที่จั่วชิวเฟิงจะไม่นึกระแวง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...