บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1470

บทที่ 1470 การเรียกเชิญแผนภาพวารีหลาก

……………………………………………………………………..

บทที่ 1470 การเรียกเชิญแผนภาพวารีหลาก

หายนะกวาดกระหน่ำไปทั่วทั้งสามภพดำเนินอยู่มาสามวันแล้ว

เฉินซีนั่งขัดสมาธิอยู่ในซากของทะเลทรายเนตรสวรรค์ ปกคลุมด้วยรัศมีเซียนทองเข้มเฉิดฉัน ปกคลุมทั่วกายทั้งนอกใน

ขณะนี้ หมู่ดาวอันดารดาษทั่วท้องนภาไร้ขอบเขตก่อตัว ณ จักรวาลในร่างของเขาแล้ว พวกมันทั้งหลายล้วนปกคลุมด้วยรัศมีเต๋าทองเข้ม ดูเหมือนจักรวาลทองเข้มอันกระจ่างชัด

ใจกลางแห่งจักรวาลนี้ หนึ่งดวงดาวซึ่งแผ่ปราณราชันในเต๋าปราชญ์ลอยอยู่ ขนาดใหญ่มหึมา เจิดจรัสชัดเจน สาดส่องรัศมีเจิดจ้าทั่วจักรวาล

ดาวดวงนี้สร้างขึ้นจากเต๋าแห่งปราชญ์ยันต์อักขระของเฉินซี สังเกตเห็นสามเต๋าราชันเซียนม้วนพันรายล้อม

ซึ่งก็คือกฎสูงสุดแห่งกาลเวลา มิติ ชีวิตและความตายตามลำดับ

เทียบกับในอดีต สามกฎสูงสุดนี้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอำนาจหรือบรรยากาศจากพวกมันต่างแสดงสัญญาณการพัฒนาสมบูรณ์

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากปราณของโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชา มันบรรจุแก่นแห่งบัญชาซึ่งทั้งดำเนินและคงสภาพภพทั้งสาม เมื่อยามนี้ถูกเขาดูดซับอย่างสมบูรณ์ มันก็พัฒนาความเข้าใจในสามกฎสูงสุดของเฉินซีอย่างมหาศาล

เปรี้ยง!

วันที่เจ็ดนับแต่หายนะบังเกิด เฉินซีซึ่งทำสมาธิเงียบงันมาตลอดลืมตาขึ้นกะทันหัน ทันใดนั้น ทั่วร่างพลันแผ่รัศมียิ่งใหญ่หนาแน่น เรืองรองดุจทองคำ ทำให้เขาดูประหนึ่งเกิดขึ้นจากมหาเต๋า

ปราณเต๋าสายหนึ่งแผ่พุ่งจากภายในราวบุปผาเบ่งบาน นี่คือการปรากฏลักษณ์ของความสำเร็จมหาเต๋าสูงสุดสู่สรรพสิ่งในโลกภายนอก

ปกติแล้ว มีเพียงตัวตนในขอบเขตราชันเซียนที่สามารถสร้างความสำเร็จเช่นนี้ได้ แต่เฉินซียังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตราชันเซียน

การจะเป็นราชันเซียนโดยไร้ชะตา เป็นไปไม่ได้เลย

ขณะนี้ เฉินซีได้ ‘มหาชะตากรรม’ มาแล้ว กระทั่งขัดเกลาร่างกาย ขยายจักรวาลในร่างจนถึงจุดสูงสุดเหนือใดเปรียบในขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น

ทำให้ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาสามารถรุ่งโรจน์เรืองอำนาจ ก้าวขึ้นสู่ขอบเขตราชันเซียนได้อย่างรวดเร็ว

ทว่าสัจธรรมไม่ได้เป็นเช่นนั้น เหตุผลก็คือ แม้ความเข้าใจต่อสามกฎสูงสุดจะแสดงสัญญาณเจียนสมบูรณ์ แต่มันก็ยังมีเค้าความบกพร่องด่างพร้อย

เฉินซีตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนเช่นกัน เพราะรู้ดีว่าตนสามารถแก้ไขร่องรอยจุดบกพร่องนี้ได้ทุกเมื่อ แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาอันสมควร เขาตระหนักแจ้งอย่างกะทันหันในระหว่างทำสมาธิบ่มเพาะเจ็ดวันนี้ และพบวิธีอันสมบูรณ์ในการสำเร็จเต๋าเข้า ดังนั้นเขาจึงฝืนระงับความรู้สึกในใจที่จะพัฒนาสู่ขอบเขตราชันเซียน และทิ้งร่องรอยความไม่สมบูรณ์นี้ไว้

วิธีอันสมบูรณ์ในการสำเร็จเต๋าที่ว่านี้ ก็คือการหลอมรวมสามกฎสูงสุดด้วยเต๋าแห่งปราชญ์ยันต์อักขระที่เขาสร้างขึ้น เพื่อก่อเป็นมหาเต๋าราชันเซียนอันสมบูรณ์ที่สุด!

เมื่อมหาเต๋านี้ก่อตัวขึ้นสำเร็จ มันจะพัฒนาไปเป็นแก่นเต๋าบรรพกาล ณ จักรวาลในร่างนี้ หลอมรวมกับความโกลาหล ดูดซับสุญตา อำนาจแข็งแกร่งยิ่งจนเกินเชื่อลง

อย่างน้อยที่สุด จากความรู้ของเฉินซี ในหมู่ราชันเซียนมากมายในทั้งสามภพตลอดอดีตกาล น่าจะไม่มีผู้ใดสามารถสร้างแก่นเต๋าบรรพกาลได้สักคน

สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เส้นทางสู่เต๋านี้ยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด

ทว่าในขณะนี้ มันไม่อาจสร้างความยากเย็นใด ๆ ต่อเฉินซีได้ ชายหนุ่มได้ชะตากรรมแห่งสวรรค์อันเลิศล้ำ มีมหาชะตากรรมจะได้เป็นราชันเซียนจากหายนะ ยิ่งกว่านั้น เขายังขัดเกลารากฐานราชันเซียนลึกล้ำสุดขั้ว ในยามนี้เหลือเพียงก้าวที่ต้องผนวกรวมสามกฎสูงสุดด้วยเต๋าแห่งปราชญ์ยันต์อักขระ ความปรารถนาก็จะสัมฤทธิผล!

“ข้าเพียงขาดความสำเร็จไปเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป” เฉินซีไม่ลังเล ชายหนุ่มลุกขึ้นทันที รัศมีทองเรืองจากทั่วร่างถูกดึงคืนสู่ร่าง ทำให้เขาหวนคืนสู่รูปลักษณ์เดิมในพริบตา

แต่สิ่งที่แตกต่างจากกาลก่อนคือ ดวงตาของเขาลึกล้ำขึ้นกว่าเดิม เผยความแปรเปลี่ยนในระบบจักรวาล ประหนึ่งสามารถมองทะลุความลับการขับเคลื่อนของทั้งสามภพ เพียงยืนเฉย แต่กลับแผ่บรรยากาศยิ่งใหญ่ไร้ลักษณ์ ขยี้หัวใจสะท้านวิญญาณออกมา!

นี่คือผลประโยชน์ที่เขาได้หลังพัฒนาหนนี้ เมื่อการบ่มเพาะพัฒนายิ่งใหญ่ ความเข้าใจในทั้งสามภพลึกล้ำขึ้น เฉินซีก็บังเกิดบรรยากาศยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานเพิ่มขึ้นมา

ในฟ้าดินนี้ หายนะยังคงดำเนินต่อ แต่เมื่อเทียบกับไม่กี่วันก่อนแล้ว มันก็ทุเลาลงอย่างมากจนเห็นได้ชัด

ประตูอันตั้งตระหง่านกลางนภา เหนือโลกหล้าในจักรวาลยังคงมีโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาหนาแน่นมหาศาลพุ่งออกมา แต่ก็ยากนักที่พวกมันจะหาและพันธนาการเทพเพิ่มได้

เห็นได้ชัดว่าเทพแทบทั้งหมดในทั้งสามภพถูกพันธนาการ พาตัวไปในเจ็ดวันที่ผ่านมาแล้ว

แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ประตูกลางนภาก็ยังไม่สูญสลาย โซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาก็ยังคงอยู่ เหมือนพวกมันจะสังเกตเห็นบางสิ่งและรวบรวมกำลังรอ ขณะที่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีเทพผู้ใดหลบรอด

สถานการณ์นี้ทำให้หัวใจผู้พบเห็นหนาวเยือก ทั่วร่างประหนึ่งถูกนาบด้วยน้ำแข็ง เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่คิดละเว้นผู้ใด และแสดงให้เห็นชัดเจนว่าหายนะนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใด กล่าวได้ว่าเป็นหายนะสูงสุดเกินครั้งใดนับแต่บรรพกาลจวบปัจจุบัน!

หายนะนี้มุ่งเป้าที่ทวยเทพในภพทั้งสามเป็นเหยื่อ แสดงความไร้ปรานีออกมาอย่างถึงแก่น เฉินซีเบนสายตาขึ้นมองท้องนภา ขณะที่หัวใจปรากฏร่องรอยความขุ่นเคืองไม่พอใจ ชายหนุ่มรู้ว่ายามทวยเทพถูกพันธนาการ ดึงหายเข้าสู่เขตแดนโลกาวินาศหมดสิ้น หายนะนี้ก็จะบังเกิดกับผู้บ่มเพาะในขอบเขตราชันเซียน…

หลังจากนั้น เฉินซีก็หยุดคิดเรื่องนี้ และมองไปด้านข้าง

จั่วชิวเฟยหมิงและผู้อาวุโสขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นคนอื่น ๆ ยังคงทำสมาธิบ่มเพาะ ร่างของพวกเขาแต่ละคนล้วนมีปราณเต๋าพลุ่งพล่านไพศาล ไม่เผยสัญญาณการฟื้นจากภวังค์ในเร็ว ๆ นี้

เฉินซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจไม่รบกวน ชายหนุ่มโบกมือตั้งค่ายกลปกป้องคนทั้งหลายไว้ภายใน แล้วร่างของเขาก็วูบไหวหายสู่ผืนปฐพี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]