บทที่ 1493 ความแตกต่างภายในขอบเขต
……………………………………………………………………..
บทที่ 1493 ความแตกต่างภายในขอบเขต
เพียงการตวัดกระบี่คราเดียว โซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาก็ขาดผึ่งและค่อย ๆ พังทลายลงทีละข้อปล้อง!
เมื่อภัยพิบัตินี้ขยายตัวไปทั่วทั้งสามภพ ไม่ว่าใครก็ต้องได้ยลกับเหตุการณ์อันน่าสะเทือนขวัญของเทวาที่กำลังถูกกวาดล้างครั้งใหญ่
ภายในหัวใจของผู้คน โซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาเป็นเสมือนการดำรงอยู่ที่ไม่มีวันแตกดับ ไหนเลยจะคิดว่าทันทีที่เฉินซีบรรลุสู่ขอบเขตราชันเซียน เขาจะสามารถทำลายมันได้ผ่านการโจมตีเพียงครั้งเดียวเช่นนี้
ทุกคนตะลึงลาน ร่างกายแข็งค้างไม่ต่างรูปปั้น
พลังโจมตีจากกระบี่เล่มนี้เกินขอบเขตของสามภพไปแล้ว และยังเกินจินตนาการไปมากโข มันเหมือนกับการโจมตีจากทวยเทพก็มิปาน ไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูดใดได้!
ขวับ!
เหนือท้องฟ้าขึ้นไป หลังจากที่เฉินซีฟันโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาให้ขาดจากกันในคราเดียวแล้ว เขาก็สะบัดมือและกางตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ ตาข่ายขนาดมหึมา ซึ่งมีลักษณะลวงตาและเยือกเย็นราวแสงดาวพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และดักจับเศษซากของโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาทั้งหมดในทันที
เมื่อบรรดาศิษย์และอาจารย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอีกครั้ง ให้ตายเถิด ใครจะคาดคิดว่าโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาจะสามารถถูกดักจับไว้ได้เช่นนี้
ความสามารถนี้ลบล้างความรู้ความเข้าใจแต่ก่อนที่เคยมีมาอย่างสิ้นเชิง
“ท่านหวังต้าวหลู โจวจื่อหลี เซวียนหยวนพั่วจวิน เสิ่นฮ่าวเทียน… พวกท่านทุกคนจงเตรียมตัวขัดเกลาชะตากรรมแห่งสวรรค์นี้!” เฉินซีออกคำสั่งถึงชื่อต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะมอบชิ้นส่วนของโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาที่ดักไว้ได้ให้แก่คนเหล่านี้
พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็นอาจารย์อาวุโสของสำนักศึกษาที่มีระดับการบ่มเพาะในขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น รากฐานพลังต่างลึกล้ำเกิดหยั่ง ขาดแต่เพียงมหาชะตากรรมที่จะนำไปสู่ขอบเขตราชันเซียนเท่านั้น
ตามที่เคยกล่าวไว้ หากขาดซึ่งโชคชะตาแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุขอบเขตราชันเซียน
ถึงอย่างนั้น มหาชะตากรรมก็เป็นสิ่งที่ยากจะนำมาครอบครอง มันหายากยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลกใบนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว คนแข็งแกร่งอย่างพวกเขาก็คงไม่ได้หยุดอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นอย่างเช่นตอนนี้
ที่เฉินซีทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการที่จะพัฒนาระดับความแข็งแกร่งของสำนักศึกษาโดยเร็วที่สุด อย่างน้อยก็ควรที่จะมีราชันเซียนเพิ่มขึ้นมาสักสองสามคน
หวังต้าวหลู โจวจื่อหลี และคนอื่น ๆ ตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชั่วขณะหนึ่งหัวใจพลันไหวระริกด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่คิดเลยว่าเฉินซีจะมอบมหาชะตากรรมแสนพิเศษให้ในตอนนี้!
“ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก!” หวังต้าวหลูและคนอื่น ๆ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะแสดงความขอบคุณด้วยความเคารพต่อเฉินซีอย่างจริงใจ
เฉินซียิ้มและบอกให้พวกเขาเข้าฌานบ่มเพาะ ชายหนุ่มแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง ประตูยังคงตั้งตระหง่านอยู่เช่นนั้น โซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาหนาหนักที่พันอยู่รอบ ๆ ทำให้มันดูลึกลับและน่าสะพรึงกลัว
เดิมทีเฉินซีตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ในการครอบครองโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชา ทว่าหลังจากการโจมตีครั้งก่อน ประตูบานนั้นก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบงัน ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นหลังจากนั้น ช่างเป็นสถานการณ์ที่ชวนให้ประหลาดใจไม่น้อย
“โธ่! นี่สินะพวกที่ชอบรังแกคนอ่อนแอแต่เกรงกลัวคนที่แข็งแกร่งกว่า เจ้าคงจะรู้ตัวแล้วสินะว่าเจ้าไม่สามารถทำอะไรข้าได้ จึงได้ล่าถอยและหลบซ่อนเช่นนี้?” มุมปากเย้ยหยันประทับลงบนใบหน้าของเฉินซี
แต่ถึงอย่างนั้น ภายในใจกลับมีเพียงเสียงทอดถอนใจ เขาตระหนักดีว่าประตูบานนั้นอาจจะกำลังสั่งสมความแข็งแกร่งจากผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ถูกดูดกลืนเข้าไปสู่แดนโลกาวินาศอยู่ และด้วยเหตุนี้ ก็ทำให้มันยุ่งเกินกว่าจะสนใจผู้ใด
ไม่อย่างนั้นแล้ว มันคงไม่มีทางปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่นอน
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนไปทั้งฟ้าดินก็พลันหายไป ประตูที่ตั้งตระหง่านบนท้องฟ้านั่นยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ คล้ายทุกอย่างได้กลับคืนสู่สภาวะปกติ
“ยินดีกับท่านเจ้าสำนักที่บรรลุขอบเขตราชันเซียน!” ทันใดนั้น เสียงแซ่ซ้องก็ดังก้องจากทุกแห่งหนในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า นอกจากความเคารพและชื่นชมแล้ว ใบหน้าของเหล่าอาจารย์และศิษย์ทั้งหลายยังเอ่อล้นไปด้วยความภาคภูมิและมั่นใจ
ใช่ มันคือความมั่นใจ!
หลังจากที่พวกเขาได้เห็นการกระทำของเฉินซีในการทำลายโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวหลังจากบรรลุขอบเขตราชันเซียน ความมั่นใจก็พลันก่อตัวขึ้นในทันที มันลบล้างความกังวลที่เกิดขึ้นในใจไปหมดสิ้น
คล้ายว่าตราบใดที่เฉินซียังยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ต่อให้ท้องฟ้าต้องพังทลาย ก็ไม่มีสิ่งใดให้กลัวเกรง
บนท้องฟ้า เฉินซีกวาดสายทอดมองออกไปโดยรอบสำนักศึกษา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่ยากจะอธิบาย มันพลุ่งพล่านเข้าไปสู่ใจราวกระแสแห่งผืนสมุทร รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันหลังกลับและลงไปยังเบื้องล่าง
…
ความก้าวหน้าของเฉินซีในการก้าวสู่ขอบเขตราชันเซียนเป็นไปอย่างราบรื่นมาก เขาใช้เวลาเพียงสามเดือนเท่านั้นในการปิดด่านบ่มเพาะ แน่นอน การที่ไม่พบอุปสรรคใด ๆ ตลอดเส้นทางนั่นก็เพราะการเตรียมตัวที่เพียงพอ
หลังจากบรรลุขอบเขตราชันเซียน การเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดเห็นทีจะเป็นจักรวาลภายในร่างกาย!
ขณะที่เฉินซีดำรงอยู่ในขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น จักรวาลในร่างกายเพิ่งจะก่อตัวเป็นรูปร่างที่ไร้ความเสถียร ทว่าตอนนี้มันแตกต่างออกไป จักรวาลในร่างกายบัดนี้สามารถทำงานด้วยตัวเองและหมุนวนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันเต็มไปด้วยดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่โคจรอยู่ด้านในและปราณเซียนสีทองอันพิสุทธิ์ แม้แต่นิมิตแห่งมหาเต๋าและพลังชีวิตก็กระจายอยู่ในนั้นทั่วบริเวณ
ไม่เพียงเท่านี้ กฎแห่งกาลเวลา กฎแห่งปริภูมิ และกฎแห่งชีวิตและความตายก็กลายสภาพเป็นบัญชาแห่งจักรวาล ซึ่งครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่และรักษาการไหลเวียนรวมไปถึงการทำงานทั้งหลายของจักรวาลภายในร่างกายอย่างต่อเนื่อง
ณ ใจกลางของจักรวาล หลุมดำที่วิสุทธิ์ สลัวรางและเก่าแก่หมุนวนอย่างเดือดพล่าน สายใยแห่งพลังลึกลับถูกปลดปล่อยออกมาจากภายในโดยไม่มีท่าทีจะสิ้นสุด มันกระจายตัวไปรอบและค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงทั้งจักรวาลอย่างช้า ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...