บทที่ 1512 จิตสังหาร
……………………………………………………………………..
บทที่ 1512 จิตสังหาร
หญิงสาวอดตะลึงไปไม่ได้ยามได้ยินการตัดสินใจของเฉินซีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นางเม้มปาก ขณะที่สายตายามมองมายังอีกฝ่ายอ่อนลงหลายส่วน
“ข้าจะออกไปสักพัก สำนักศึกษาฝากเจ้าด้วย” เฉินซีหันตัวไปมองชิวเสวียนซู
“อาจารย์อา โปรดเดินทางอย่างสบายใจเถิด” ชิวเสวียนซูตอบรับฉับไว ในที่สุดยามนี้ เขาก็ได้ทราบว่าแท้จริง หญิงสาวผู้นี้ก็คือบุตรสาวของอาจารย์อาของตน และอดทอดถอนใจขณะรู้สึกละอายในอกไม่ได้
เพราะถึงอย่างไร นี่ก็ถือได้แล้วว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเฉินซี มิใช่เรื่องดีที่จะให้คนนอกอย่างเขามาข้องเกี่ยว
“ไปกันเถอะ” เฉินซีสะบัดแขนเสื้อ พาหญิงสาวเคลื่อนย้ายจากสำนักศึกษาทันใด
เห็นได้ชัดว่าการบ่มเพาะปัจจุบันของอาจารย์อาย่างเท้าเข้าสู่ขอบเขตครึ่งเทวาแล้ว สงสัยจริงว่าผู้ใดจับตัวมารดาของหญิงสาวผู้นั้นไป เขาแตะเกล็ดย้อนของอาจารย์อาเข้าแล้วจริง ๆ… ชิวเสวียนซูยืนนิ่งกับที่ ขณะครุ่นคิดลึกล้ำไม่จบสิ้น
ก่อนหน้านี้ ยามพบเฉินซี เขาก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศของอีกฝ่ายแปรเปลี่ยนไปหลังกลับจากเขาเทพพยากรณ์ มันเหนือล้ำเกินขอบเขตราชันเซียน เหยียบย่างสู่ขอบเขตครึ่งเทวา!
นี่หมายความว่า ต่อให้ทวยเทพในสามภพลงมือกับเฉินซี พวกเขาก็มิอาจเอาชีวิตของเฉินซีได้!
และจากความเข้าใจนี้เอง จู่ ๆ ชิวเสวียนซูจึงรู้สึกสงสารศัตรูที่มาแตะเกล็ดย้อนของเฉินซีขึ้นมานิดหน่อย เพราะนี่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย?
โดยเฉพาะเมื่อชิวเสวียนซูก็สังเกตเห็นเช่นกันว่า อารมณ์ของเฉินซีในขณะนี้… เลวร้ายยิ่ง!
…
“ผู้ใดจับมารดาเจ้าไป?”
“คนต่างพิภพ”
“คนต่างพิภพ?”
“อืม”
“ยามใด?”
“ห้าวันก่อน”
“รู้หรือไม่ว่านางถูกพาตัวไปที่ใด?”
“สมรภูมินอกพิภพ”
วูบ!
หนึ่งแสงสว่างเรืองรุ่งวูบไหวผ่านมิติ เฉินซีเคลื่อนย้ายมิติด้วยความเร็วอันไม่น่าเชื่อ มุ่งหน้าสู่สมรภูมินอกพิภพอย่างเต็มความเร็ว
เฉินซีเคยมายังสมรภูมินอกพิภพในอดีต ขณะนั้นเขายังเป็นศิษย์สายนอก และมาเข้าร่วมการสอบเป็นศิษย์สายในกับเหล่าอาจารย์แห่งสำนักศึกษา
และยามนั้นเช่นกัน ที่เขาได้รับหม้อกลั่นเก้าทวีปศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิอวี่มาครอบครอง
ขณะนี้ ยามมุ่งหน้าไปที่นั่นอีกครั้ง เฉินซีก็ไม่อาจเทียบกับอดีตได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพลังดวงใจหรือการบ่มเพาะล้วนเหยียบย่างสู่จุดสูงส่งอันสามารถทอดสายตามองลงมายังราชันเซียนทั้งมวลในสามภพได้อย่างภาคภูมิ เขาจึงมิได้มองผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพเหล่านั้นจริงจัง
ระหว่างทาง เฉินซีพยายามสนทนากับหญิงสาว แต่น่าเสียดายที่นอกเหนือจากเรื่องเกี่ยวกับการลักพาตัวฟ่านอวิ๋นหลาน นางก็เอาแต่เม้มปากไม่พูดไม่จา
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีรำพึงในใจอีกครั้ง เขาหวังเพียงว่าหลังช่วยฟ่านอวิ๋นหลานออกมาได้ เขาจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์นี้ระหว่างตนและบุตรสาวซึ่งดูเหมือนกำลังอยู่ใน ‘สงครามเย็น’ ได้
“ไยจู่ ๆ คนต่างพิภพจึงมาจับแม่เจ้าไป?” ขณะนี้เฉินซีทำได้เพียงสนทนาด้วยหัวข้อเหล่านี้ อันที่จริง เขาจะได้คำตอบหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ เพราะตั้งแต่ที่เขารู้ว่าฟ่านอวิ๋นหลานถูกคนต่างพิภพจับตัวไป ก็เป็นเหตุผลเพียงพอให้ลงมือสังหารแล้ว
“หลังอาจารย์ของท่านแม่จากไป ข้ากับท่านแม่ก็ออกจากภพมารมาใช้ชีวิตในดาวใกล้เคียงสมรภูมินอกพิภพ เดิมทีเราคิดว่าจะอยู่กันแบบนั้นได้ แต่มิคาดคิดเลยว่าหายนะจะบังเกิดขึ้นในสามภพ แล้วคนต่างพิภพซึ่งอยู่อีกฝั่งของธารแยกแดนดินจะฉวยโอกาสนี้กระหน่ำโจมตีหลายบริเวณของมิติที่สาม และโลกที่ข้ากับท่านแม่อยู่ก็มิอาจหนีพวกมันพ้นเช่นกัน…” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ประหนึ่งกำลังเผยสัจธรรม
ทว่าท้ายที่สุด นางก็ปริปากพูดอยู่ดี และนั่นทำให้เฉินซีสุดปลาบปลื้มอยู่ในใจ แต่หลังจากนั้น ความสนใจของเขาก็มุ่งเป้าไปยังคนต่างพิภพ
ช่วงเวลานี้ เขาประชันกับนิกายอำนาจเทวะอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกือบลืมการมีอยู่ของคนต่างพิภพไปเสียสนิท ทว่าในที่สุดเขาก็ตระหนักว่ายามสามภพโกลาหลอลหม่าน คนต่างพิภพย่อมไม่ทิ้งโอกาสนี้ในการบุกรุกสามภพเป็นแน่
“ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นเช่นไร?” เฉินซีถามต่อ
“มีผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพซึ่งเทียบชั้นราชันเซียนอยู่สองสามคน หากไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่อาจทำอะไรท่านแม่ข้าได้” เมื่อนางพูดถึงตรงนี้ หญิงสาวพลันเงยหน้าขึ้นมองเฉินซีราวมีบางสิ่งอยากพูด แต่กลับยั้งปาก ก้มหน้ากลับลงไปอีกครั้ง
แต่การกระทำนี้ของนางทำให้เฉินซีใจชื้น เมื่อครู่นาง… เป็นห่วงว่าข้าจะรับมือผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพไม่ไหวอยู่หรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความยินดีอย่างมิอาจนิยามได้ก็พลุ่งพล่านขึ้นในใจ ถึงขนาดรู้สึกลิงโลดยิ่งกว่ายามการบ่มเพาะพัฒนาเสียอีก ยิ่งกว่านั้น รอยยิ้มบางยังอดปรากฏที่มุมปากไม่ได้
“อย่าเข้าใจผิดเชียว ข้าแค่กังวลว่าเจ้าตายไป จะช่วยท่านแม่ข้าไม่ได้เท่านั้น” หญิงสาวเหลือบมองแล้วกล่าวเสียงเย็น ขณะที่เรือนผมสีแดงนุ่มสลวยพัดพลิ้วตามสายลม ทำให้ใบหน้าขาวจิ้มลิ้มของนางดูเหนือธรรมดาไปใหญ่
เฉินซีนิ่งไป ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อย่าห่วงไป ต่อให้ข้าต้องทะลวงสวรรค์ ข้าก็จะช่วยแม่เจ้าให้ได้”
น้ำเสียงสุขุมของเขาหามีความเฉียบขาดไม่ แต่กลับเผยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เจือด้วยความรู้สึกดุจอยู่เหนือสรรพชีวิตในสามภพจาง ๆ
ไม่อาจทราบว่าเพราะนางได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศของเฉินซีหรือไม่ ทว่าสีหน้าของหญิงสาวอ่อนโยนลงมาก กล่าวขึ้นหลังเงียบไปเนิ่นนาน “ข้าหวังว่าเจ้าจะทำได้จริง”
เฉินซีแย้มยิ้ม ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
เขารู้ว่าตนและบุตรสาวห่างเหินกันเกินไป ไม่มีทางเปลี่ยนมุมมองที่นางมีต่อเขาได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ขอเพียงพยายามอย่างหนักและสม่ำเสมอ เขาจะทำให้นางยอมรับได้อย่างแท้จริงแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...