บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1524

สรุปบท บทที่ 1524 เหมือนว่าคนรู้จักเก่าผู้หนึ่งจะมาแล้ว: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

อ่านสรุป บทที่ 1524 เหมือนว่าคนรู้จักเก่าผู้หนึ่งจะมาแล้ว จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บทที่ บทที่ 1524 เหมือนว่าคนรู้จักเก่าผู้หนึ่งจะมาแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย novelones อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 1524 เหมือนว่าคนรู้จักเก่าผู้หนึ่งจะมาแล้ว

……….

บทที่ 1524 เหมือนว่าคนรู้จักเก่าผู้หนึ่งจะมาแล้ว

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

อสูรบรรพกาลขนาดแสนลี้ซึ่งมีรูปร่างคล้ายเต่าเยื้องย่างจากไป ทุกย่างก้าวสะท้านมิติแหลกร้าวเป็นเสี่ยง ไม่ได้ด้อยไปกว่าการเคลื่อนย้ายมิติเลย

เฉินซีนั่งขัดสมาธิบนศีรษะของอสูรกลืนสวรรค์ ทอดสายตามองไปไกล

ก่อนหน้านี้ อสูรกลืนสวรรค์ตอบรับเงื่อนไขของเขาแล้ว ทว่าหากเฉินซีต้องการให้มันจำนน ดังนั้นเฉินซีจะต้องชิงแก่นวิญญาณของมันมาจากนิกายอำนาจเทวะให้ได้ก่อน

เฉินซีย่อมไร้ข้อโต้แย้งใด ๆ

หนนี้ เขามายังแดนอำนาจเทวะหมายทำลายล้างนิกายอำนาจเทวะ เขาจึงเต็มใจที่จะช่วยอสูรบรรพกาลอันเจียนสูญสลายจากบรรพกาลระหว่างทาง

เจ้านี่มีพลังสูงส่งเพียงพอประมือราชันเซียนเป็นกลุ่มได้ ดังนั้นหากเฉินซีให้มันคุ้มครองสำนักศึกษา เช่นนั้นแม้เฉินซีจะมุ่งหน้าสู่แดนโลกาวินาศ เขาก็สามารถทำใจสบาย ๆ ได้อย่างสมบูรณ์

……

ขณะนี้ อสูรกลืนสวรรค์แบกร่างเฉินซีข้ามผ่านทะเลทรายกลืนสวรรค์

ครู่สั้น ๆ ต่อมา ซากปรักหักพังประหลาดก็ปรากฏในสายตาของเฉินซี

ในซากหักพังนั้นมีดินแดนเร้นลับอันเสียหายละล่องอยู่มากมาย พวกมันสร้างเป็นกลุ่มสสารอันดูหนาแน่นไร้ขอบเขต

ดินแดนเร้นลับที่เสียหายทุกแห่งเผยทิวทัศน์แตกต่าง บ้างแผ่ปราณกระบี่ไร้ขอบเขต บ้างมีสมุทรศิลาหลอมไหลทะลัก บ้างมีหนึ่งขุนเขาอันปกคลุมด้วยพืชพรรณประหลาดนานา…

เหตุการณ์ทั้งหลายปนเปกันอยู่ท่ามกลางซากความพินาศ เผยทิวทัศน์ประหลาดผิดปกติ ทว่าก็งดงามออกมา ประหนึ่งสารพัดโลกใบน้อยปรากฏแก่สายตา

ซากปรักหักพังแห่งความโกลาหล!

เฉินซีรู้ชื่อของที่นี่ทันที จากที่หนานกงเลี่ยว่าไว้ ทางเข้าแดนอำนาจเทวะถูกซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังแห่งความโกลาหล

“ที่นี่มีแต่ตายกับตาย นิกายอำนาจเทวะจงใจทิ้งมันไว้เพื่อให้เหล่าผู้พยายามเข้าสู่นิกายอำนาจเทวะผ่านที่นี่ต้องตกตายอย่างอเนจอนาถไร้การละเว้น” เมื่อมาถึง อสูรกลืนสวรรค์พลันหยุดลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงกึกก้อง

เฉินซีเลิกคิ้ว “เช่นนั้น เส้นทางที่ถูกต้องอยู่หนใด?”

“ใต้ซากปรักหักพัง” อสูรกลืนสวรรค์กล่าว และทันใดนั้น ร่างของมันก็สั่นสะท้าน แปรเปลี่ยนเป็นเส้นลำแสงหนาทะลวงมิติชั้นแล้วชั้นเล่าลงสู่ใต้ซากปรักหักพัง

สิ่งนี้ทำให้เฉินซีตกตะลึง ใครเล่าจะคาดคิดว่าแท้จริงแล้ว แดนอำนาจเทวะอยู่ใต้พิภพ?

แต่พริบตาต่อมา ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่าแม้อสูรกลืนสวรรค์ดูเหมือนพุ่งทะลวงสู่เบื้องล่างตลอดทาง ทว่าแท้จริง ตำแหน่งของพวกเขากลับเป็นการเคลื่อนขึ้นเสมอ

ข้อจำกัดอันพลิกโลกตาลปัตร… มิน่าเล่า ท้องนภาจึงถูกพลิกต่ำ แดนดินหวนสู่เวหา สิ่งสำคัญสูงสุดคือไร้ร่องรอยข้อจำกัดให้ตรวจจับใด ๆ และดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หากไม่อาจมองทะลุความลับของมันได้ ก็คงไม่มีใครหาเส้นทางสู่แดนอำนาจเทวะแห่งนี้พบ เฉินซีเหมือนจะหลงลืมตนในภวังค์ความคิด การบรรลุในเต๋าแห่งยันต์อักขระของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่ง จึงพออนุมานความลับของซากปรักหักพังแห่งความโกลาหลได้ในอึดใจ

……

“เจ้าหนู ข้าส่งเจ้าได้เพียงที่นี่นะ” ไม่นานนัก อสูรกลืนสวรรค์ก็หยุดเคลื่อนไหว เอ่ยขึ้นเสียงเบา

เฉินซีสังเกตเห็นว่าขณะนี้ พวกเขามาถึงสถานที่อันสุดลึกล้ำและเงียบงัน ปกคลุมในความมืด ขณะที่ดวงเพลิงอันดูคล้ายกระดูกมากมายละล่องอยู่รอบบริเวณ นอกจากนั้น เปลวเพลิงเหล่านั้นยังเจือด้วยบรรยากาศแห่งหายนะ

บริเวณแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาล เมื่อมองจากไกล ๆ ดวงเพลิงแห่งนั้นดูประหนึ่งเพลิงวิญญาณท่ามกลางความมืด ดูแปลกตาและน่าสะพรึงอย่างยิ่ง

ยิ่งกว่านั้น หนึ่งสายธารทอดตัวยาวแสนไกล ยิ่งใหญ่และเชี่ยวกรากด้วยโลหิตเข้มข้น โครงกระดูกมากมายละล่องทั้งลอยจมอยู่ภายใน ดูประหนึ่งธารโลหิตในปรภพ

“ข้ามแม่น้ำภัยพิบัติไป แล้วด่านแรกจากสามสิบสามด่านของแดนอำนาจเทวะ แสงชาดประหารสวรรค์จะอยู่บนฝั่งอีกด้านของแม่น้ำ… หืม? เดี๋ยวก่อนนะ เหมือนจะมีศึกหนึ่งเกิดขึ้นใกล้ ๆ กับแม่น้ำภัยพิบัติ!” อสูรกลืนสวรรค์เอ่ยปาก ก่อนจะพลันเหมือนสังเกตเห็นบางสิ่ง แล้วเสียงของมันก็ดังขึ้นกะทันหัน

ศึก? เฉินซีหรี่ตาลง ขณะที่พลังใจอันใหญ่หลวงของเขาจะกวาดออกไป และจริงเช่นนั้น เขาสังเกตเห็นว่าในบริเวณรอบธารโลหิตอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งสงคราม ยิ่งกว่านั้น ยังมีซากศพไม่สมประกอบ ร่องรอยเลือดสด ๆ และหลุมมากมายอยู่ในบริเวณใกล้ฝั่งธาร…

หรือจะมีผู้ใดล่วงล้ำเข้าสู่นิกายอำนาจเทวะก่อนหน้าข้าแล้ว? เฉินซีตกตะลึงอยู่ในใจ เพราะเรื่องนี้น่าตกใจอย่างยิ่ง ขณะนี้หายนะมาสู่สามภพ และนิกายอำนาจเทวะดูร้ายกาจไร้เทียมทานเป็นพิเศษ

ในสถานการณ์เช่นนี้ การที่มีใครสักคนไร้ความกลัวต่อนิกายอำนาจเทวะและบุกทะลวงเข้าสู่นิกายอำนาจเทวะจึงเกินความเข้าใจไปไม่น้อย

คนผู้นี้เป็นใคร?

หรือคนผู้นี้จะมีจุดประสงค์เดียวกันกับข้า?

แต่ในภพเซียนขณะนี้ มีราชันเซียนผู้ใดเด็ดเดี่ยวอหังการเพียงนี้อยู่ด้วยหรือ?

“ศึกเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ดูเหมือนจะมีใครสักคนบุกรุกสู่นิกายอำนาจเทวะเหอะ ใจกล้าเสียจริง หากนิกายอำนาจเทวะรับมือง่ายนัก มีหรือข้าจะถูกกำราบไว้นานแสนนาน?” อสูรกลืนสวรรค์แค่นหัวเราะเสียงเย็น น้ำเสียงของมันมีทั้งความดูแคลน โทสะ ไม่เต็มใจ กระทั่งเจือความขุ่นแค้น คลุมเครือถึงขีดสุด

เฉินซีเมินคำพูดเหล่านั้นไปสิ้น ถามขึ้นว่า “นี่เป็นเส้นทางเดียวสู่แดนอำนาจเทวะหรือ?”

“ย่อมไม่ จากที่ข้ารู้ มีสี่เส้นทางนำมาสู่ที่นี่ แบ่งออกเป็นสี่ทิศ อุดร ทักษิณ บูรพา ประจิม เส้นทางที่เรามานั้นอยู่ทิศประจิม และเป็นเส้นทางมรณะที่น้อยคนยิ่งจะล่วงรู้” อสูรกลืนสวรรค์ตอบเรียบ ๆ

“มิน่าเล่า ห้าในสิบศิษย์นิกายอำนาจเทวะจึงล่วงหน้าจากไปก่อนในศึกก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่ารู้ตัวแล้วว่ามีผู้บุกรุกเข้าสู่นิกายอำนาจเทวะ จึงแยกตัวออกไปสนับสนุน” เฉินซีครุ่นคิดลึกล้ำอยู่ครู่สั้น ๆ จึงตัดสินใจแล้วมุ่งหน้าสู่แม่น้ำ

“เจ้าหนู เจ้าต้องระวังตัวนะ ท้ายที่สุด นี่ก็คือถิ่นฐานของนิกายอำนาจเทวะ เต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมาย อย่าพยายามอวดดีแล้วเอาชีวิตไปทิ้ง…” เสียงเตือนของอสูรกลืนสวรรค์สนั่นขึ้นเบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เฉินซีกำลังจะทำเท่าไหร่นัก

……

ร้ายกาจยิ่งนัก! อำนาจสังหารนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง กล้าแกร่งเพียงนี้ บุคคลนี่ไม่มีทางเป็นคนทั่วไปในภพเซียนแน่นอน แต่ผู้ใดกันเล่า? เหตุใดข้าจึงไม่อาจอนุมานสิ่งใดเกี่ยวกับคนผู้นี้ได้เลย? เฉินซี ยิ่งรู้สึกฉงนใจเกี่ยวกับ ‘ยอดฝีมือ’ ผู้บุกรุกสู่นิกายอำนาจเทวะมากขึ้นทุกขณะ

หลังจากนั้น เขาก็เลิกลังเล ทะลวงขึ้นสู่ด่านถัด ๆ ไปของแดนอำนาจเทวะ

เพลิงสุญตาแยกสวรรค์

ดาวฤกษ์พร่างสวรรค์

มงคลโลกกำเนิดสรวง

……

สรุปคือเฉินซีทะลวงเข้าสู่ด่านต่าง ๆ มากมายอย่างไม่หยุดพัก และสังเกตพบร่องรอยศึกสังหารสารพัดตลอดทาง ความตื่นตะลึงในใจทบทวีขึ้นเรื่อยๆ

ณ ด่านสิบแปด พรหมไร้ลักษณ์เรืองสวรรค์

เมื่อเฉินซีมาถึง ชายหนุ่มสัมผัสคลื่นสงครามอันดุเดือดได้ทันที

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเขาตกตะลึง เข้าใจทันทีว่าขณะนี้ ‘ยอดฝีมือ’ ซึ่งบุกรุกเข้าสู่นิกายอำนาจเทวะกำลังประชันศึกอยู่ในด่านสิบแปดของแดนอำนาจเทวะ

เฉินซีไม่กล้าโอ้เอ้ ร่างสูงใหญ่วูบไหวทะยานไกล

ตู้ม!

ที่แห่งนี้เป็นที่ราบเขียวขจีทอดยาวแสนไกล ขณะนี้มันกลายไปเป็นสมรภูมิอันกว้างใหญ่ รัศมีปราณเซียนพิสุทธิ์ปะทุขึ้นทั่วที่ราบ ขณะที่อำนาจอันแปรปรวนพลุ่งพล่านขึ้นฟ้า ยิ่งกว่านั้น คลื่นข้อจำกัดยังปกคลุมทั่วทิศ สมบัติอมตะกระทบกระทั่ง วิชาต่าง ๆ อลหม่านทั่วนภา สับสนปนเปไปหมด

ศิษย์นับพันคนของนิกายอำนาจเทวะร่วมมือกับสร้างข้อจำกัดสารพัดเพื่อจองจำหนึ่งบุคคลร่างอรชร แสงสว่างเจิดจรัสครอบคลุมทั่วพื้นที่ ทำให้คนอื่น ๆ ไม่สามารถประจักษ์แก่ศึกที่บังเกิดที่นั่นได้เลย

ทว่าเมื่อเฉินซีมุ่งหน้าเข้ามาและเห็นภาพนี้จากไกล ๆ ม่านตาของเขากลับหดตัว เพราะสมรภูมินั้น… แผ่พล่านไปด้วยพลังแสงอันบริสุทธิ์เหนือใดเทียม!

หรือ ‘ยอดฝีมือ’ ผู้นี้จะมาจากตำหนักเต๋าหนี่หวา?

หลังจากนั้น พลังใจอันร้ายกาจก็กวาดเข้าสู่สมรภูมิอันห่างไกล จนเมื่อในที่สุดเขาก็ได้เห็นร่างซึ่งถูกล้อมอยู่กลางสมรภูมิถนัดตา เฉินซีชะงักค้าง ม่านตาหดวูบ ประหนึ่งถูกฟ้าผ่าในทันใด

ที่แท้…. ก็เป็น… นาง? เฉินซีเผลอตัวร้องออกมา เสียงของเขาสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น มันยังเจือด้วยความตื่นเต้นอย่างเกินบรรยาย ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาพบนางที่นี่ยามนี้

มันเกินกว่าความคาดหมายข และทำให้เขาตกตะลึงอย่างยิ่ง ร่างกายแข็งค้างในทันใดขณะที่หัวใจเต้นกระหน่ำด้วยคลื่นอารมณ์

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]