บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1523

บทที่ 1523 อวตารเป็นคุนเผิง

……….

บทที่ 1523 อวตารเป็นคุนเผิง

ผู้กลืนกินสวรรค์!

เหตุการณ์ที่ดูราวกับจะกลืนกินสวรรค์และโลกลงไปในคราวเดียว นี้ชวนน่าตกใจยิ่ง

นี่คือทักษะต้องห้ามแต่กำเนิดของสัตว์อสูรกลืนสวรรค์ มันทั้งทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว ประกอบกับร่างกายขนาดใหญ่มหึมาที่กินพื้นที่กว่าแสนลี้แล้ว พลังที่ก่อขึ้นนี้จึงดูน่ากลัวอย่างยิ่ง

โครม!

ท้องฟ้าแตกสลาย แผ่นดินแยกออก ทุกสิ่งพุ่งเข้าหาปากของสัตว์อสูรกลืนสวรรค์อย่างไม่อาจควบคุมได้

ในเวลานี้ เฉินซีผู้ถูกสัตว์อสูรกลืนสวรรค์ผนึกพลังไว้ จึงได้รับผลกระทบจากแรงดูดน่าสะพรึงกลัวอย่างไม่อาจต้านทานได้ ร่างของเขาแกว่งไปแกว่งมาและเกือบจะถูกลากเข้าไปในปากใหญ่ของอสูรกลืนสวรรค์

แรงดูดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างมาก มันบรรจุพลังของมหาเต๋า ที่บิดเบี้ยวและผันผวน ราวกับว่าจะฉีกทุกสิ่งเป็นชิ้น ๆ และบดทุกอย่างให้กลายเป็นผง

หากเป็นราชันเซียนคนอื่นแทนเฉินซี คนผู้นั้นคงไม่อาจต้านทานได้อย่างแน่นอน

เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการที่มดตัวหนึ่งพยายามจะต้านทานกระแสน้ำวนของพายุ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองนั้นใหญ่เกินไป

“ฆ่ามัน! เร็วเข้า ฆ่ามัน!”

“ผู้กลืนกินสวรรค์! มันสมควรที่จะได้รับชื่อนี้จริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะกฎของนิกาย ข้าก็อยากจะฆ่าสัตว์อสูรตัวนี้ และเลาะกระดูกต้นกำเนิดของมันออกมาทำความเข้าใจพลังกลืนกินนี้เสียจริง บางทีมันอาจจะช่วยให้การฝึกฝนของข้าก้าวหน้าขึ้นอย่างก้าวกระโดดได้สักครั้ง”

“ตอนนี้ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่า เฉินซีจะจัดการกับมันอย่างไร!”

ห่างไกลออกไป ชายวัยกลางคนและคนอื่น ๆ ต่างตื่นเต้นและเฝ้ารอคอย พวกเขาทุกคนรู้ว่าสัตว์อสูรกลืนกินสวรรค์ได้ตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง และเริ่มใช้ไพ่ตายของมันแล้ว

แม้พวกเขาทั้งหมดจะรวมพลังกัน ก็ยังไม่กล้าอวดอ้างว่าจะต้านทานการโจมตีนี้ได้!

……

“ผู้กลืนกินสวรรค์? ฮึ่ม! ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าทักษะการกลืนกินที่แท้จริงเป็นอย่างไร!”

ท่ามกลางพลังกลืนกินที่รุนแรงไม่มีใครเทียบ ผมยาวของเฉินซีปลิวว่อนพลิ้วไหว ราวกับว่าวที่กำลังดิ้นรนอยู่ท่ามกลางพายุ ใบหน้าของเขามืดลงทันที ก่อนจะส่งเสียงในลำคออย่างเย็นชา

เสียงคำรามดังขึ้น ก่อนที่พลังราชันเซียนสีทองเข้มสุกใสจำนวนมาก จะระเบิดออกมาจากร่างกายของเฉินซี ทั้งยังแฝงกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ไว้จาง ๆ ด้วย

จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ไหววูบและหายไป

แต่ในขอบเขตการมองเห็นของชายวัยกลางคนและคนอื่น ๆ กลับเห็นเป็นคุนเผิงที่ครองพลังแห่งสวรรค์และโลกกู่ร้องร่อนลงมาจากท้องฟ้า!

นั่นคือคุนเผิง มันได้ชื่อว่าเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายที่สุดในช่วงหลังความวุ่นวายของยุคบรรพกาล ลำตัวแผ่ขยายไปทั่วจักรวาล ปีกกางออกคลุมผืนฟ้ากินพื้นที่ไปหลายพันลี้

ทันทีที่มันปรากฏตัว ทั่วทั้งสวรรค์และโลกก็ถูกบดบังไปด้วยรูปร่างอันใหญ่โตของมัน ราวกับกำลังจะบีบรัดโลกออกเป็นชิ้น ๆ !

วิชาศักดิ์สิทธิ์คุนเผิง!

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ร่างของพวกเขาก็แข็งทื่อไปราวกับถูกฟ้าผ่า

“วิชาศักดิ์สิทธิ์คุนเผิง!?” ทันใดนั้น สัตว์อสูรกลืนสวรรค์ก็ส่งเสียงคำรามดังก้อง ด้วยความโกรธเกรี้ยวสุดขีดออกจากปากที่เปื้อนเลือดดุจเหวลึกไร้ก้นบึ้ง ขณะที่มันเคลื่อนตัวพุ่งเข้าหาเฉินซีเพื่อที่จะกลืนเขาลงไป

มันเป็นสิ่งที่มีอยู่มาจนมานานจนไม่อาจนับ จึงไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าวิชาศักดิ์สิทธิ์คุนเผิงนั้นน่ากลัวเพียงใด ในบรรดาสัตว์อสูรจากยุคบรรพกาล แม้ด้วยต้นกำเนิดของมัน จะไม่ได้เป็นตัวตนพิเศษอย่าง ปักษาเพลิงหรือเซี่ยจื้อ แต่ในแง่ของพลัง ก็ต้องยอมรับว่าพวกมันด้อยกว่าคุนเผิงอยู่มาก!

คุนเผิงเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายที่สุดในยุคบรรพกาล ด้วยพลังอันดุร้าย มันทั้งกลืนกินพื้นที่รกร้างและสังหารเทพมามากมายจนนับได้ไม่ถ้วน

ดังนั้น เมื่อเห็นว่าเฉินซีใช้วิชาศักดิ์สิทธิ์คุนเผิงจริง ๆ สัตว์อสูรกลืนสวรรค์จึงไม่กล้าที่จะลังเล และใช้กำลังทั้งหมดเพื่อสังหารอีกฝ่ายในคราวเดียว

และเหตุผลที่มันกล้าทำเช่นนี้ ก็เพราะมันรู้สึกว่าเฉินซีไม่ใช่คุนเผิงตัวจริง ฉะนั้นในแง่ของความสามารถและรากฐาน เขาย่อมไม่อาจเปรียบเทียบกับคุนเผิงตัวจริงอยู่แล้ว

ในเวลาเดียวกัน เฉินซีในร่างแปลงคุนเผิงก็ส่งเสียงหวีดร้อง ก่อนจะกวาดหางขนาดมหึมาที่ดูราวกับธารดารา ที่ไหลบ่าตกลงมาจากห้วงจักรวาลด้านบนใส่สัตว์อสูรกลืนสวรรค์

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว สวรรค์และโลกก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย มิติและเวลาผันผวนพังทลาย ทุกสิ่งถูกบดขยี้เป็นผงทันที!

โครม! โครม! โครม!

สัตว์อสูรกลืนสวรรค์และคุนเผิงโรมรันต่อสู้กัน ราวกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปะทะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อให้เกิดความผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทุกทิศทุกทาง ทำลายพื้นที่ในรัศมีกว่าล้านลี้ ให้สับสนวุ่นวาย กลายเป็นพื้นที่แห่งการทำลายล้างและความโกลาหล

หากมีใครหลงอยู่ในพื้นที่ ณ เวลานี้ บุคคลนั้นคงจะสูญสลายไปทันที!

เหตุการณ์นี้น่ากลัวเกินไปจริง ๆ หากได้ลองมองลงมาจากท้องฟ้า ก็จะพบว่าสัตว์อสูรกลืนสวรรค์และเฉินซีในร่างแปลงคุนเผิงนั้น ดุจดั่งวังวนพายุใหญ่สองลูกเลยทีเดียว

หนึ่งครองพลังกลืนกินสวรรค์

ส่วนอีกหนึ่งนั้นครองพลังที่กลืนกินทุกสิ่ง

การเผชิญหน้ากันระหว่างทั้งสองล้วนมี ‘การกลืนกิน’ อยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกฉีกออกและวุ่นวายถึงขีดสุด ด้วยพละกำลังของสองฝ่ายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทว่ากลับน่าสะพรึงกลัวไม่แพ้กัน

การแสดงออกของชายวัยกลางคนและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไป พวกเขาล่าถอยกลับอย่างต่อเนื่องเพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ครั้งนี้ไปด้วย ในตอนนี้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่ธรรมดา แต่ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวและหวั่นเกรงอยู่ดี

นี่เป็นเพียงการต่อสู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ ราชันเซียนธรรมดาทั่วไปจึงทำได้เพียงเฝ้าดูจากระยะไกลเท่านั้น และไม่กล้าขยับเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย

“พลังกลืนกินสวรรค์ของเจ้า เป็นเพียงหนึ่งในเสี้ยวของมหาเต๋าแห่งการกลืนกินเท่านั้น แต่พลังกลืนกินของข้า สามารถกลืนกินพลังของสวรรค์และปฐพี เพื่อใช้ขัดเกลาได้ นี่คือความแตกต่างระหว่างเรา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจ้าจะมาสู้ข้าได้อย่างไร?” เฉินซีในร่างแปลงคุนเผิงพูดด้วยเสียงดูถูกเหยียดหยาม เผยให้เห็นความเย่อหยิ่งและกลิ่นอายของอำนาจสูงสุดหนึ่งเดียวในโลก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]