บทที่ 1522 กลืนกินใต้หล้าอย่างบ้าคลั่ง
……….
บทที่ 1522 กลืนกินใต้หล้าอย่างบ้าคลั่ง
อสูรกลืนสวรรค์นับว่าเป็นอสูรหายากกว่าสัตว์เทวะบรรพกาลและอสูรร้ายอย่างวิหคเพลิง หยาจื้อ เซี่ยจื้อ ยาอวี่ จิ่วอิงเสียอีก เพราะมันสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ยุคบรรพกาลแล้ว
ตามตำนานแล้ว สัตว์อสูรนี้เกิดขึ้นจากความวิบัติยามกำเนิดโลก มันกลืนกินทุกสิ่งอย่าง มีอำนาจสูงส่งถึงขั้นที่แกร่งกว่าคุนเผิง!
ด้วยเหตุนี้ เฉินซีจึงประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเห็นอสูรกลืนสวรรค์ปรากฏตัวขึ้น ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นสัตว์อสูรหายากในนิกายอำนาจเทวะได้
“อสูรเอ๋ย ได้เวลาเจ้าไถ่ถอนความผิดแล้ว หากเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!” ชายวัยกลางคนร่างกำยำตะโกนลั่น
ว่าแล้วเขาและเก้าศิษย์นิกายอำนาจเทวะก็แวบร่างหายไปไกล ทิ้งให้เฉินซีต่อสู้กับอสูรกลืนสวรรค์
เห็นได้ชัดว่ารู้ดีว่าเฉินซีไม่อาจทัดเทียมอสูรกลืนสวรรค์ได้
เฉินซีไม่ได้ห้ามอะไร เพียงมองอสูรกลืนสวรรค์แล้วตกลงห้วงภวังค์ความคิด ที่ชายกลางคนร่างกำยำว่าไว้ทำให้เขาเข้าใจได้เรื่องหนึ่ง
อสูรกลืนสวรรค์ตัวนี้ถ้าไม่ได้ถูกนิกายอำนาจเทวะเลี้ยงจนเชื่อง ก็คงจะถูกขังอยู่ที่นี่แน่!
กรร!!!
ท่ามกลางเสียงคำรามลั่น นัยน์ตาขนาดใหญ่ของอสูรกลืนสวรรค์ก็จ้องเฉินซีเขม็ง มันคำรามเสียงเหี้ยมออกมา ปลดปล่อยจิตสังหารหนาแน่นเข้าใส่
ครืน!
กรงเล็บยักษ์มันบดบังฟ้า ซัดลงมาใส่เฉินซี ดั่งราตรีมืดมิดกำลังกลืนฟ้า บดขยี้ทุกสิ่งอย่างเป็นผุยผง
มันมีขนาดตัวใหญ่มาก กินพื้นที่กว่าแสนลี้ทีเดียว แค่กรงเล็บขวาข้างเดียวก็บดบังฟ้าจนมืดมิด พอมันตะปบลงมาก็เหมือนฟ้าถล่ม เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวยิ่ง
“ก็ยังเป็นสัตว์อยู่วันยังค่ำ!” เฉินซีเอ่ยเสียงเย็นชาและไม่ได้หลบแต่อย่างไร เขาสะบัดแขนขวาผลักท่าฝ่ามือขึ้นฟ้า คิดเข้าปะทะกับการโจมตีของอสูรกลืนสวรรค์โดยตรง
หากมองจากไกล ๆ ก็เหมือนมดกระโดดเข้าใส่ช้าง เหมือน ‘ตั๊กแตนตำข้าวพยายามหยุดรถม้าศึก’ ดูไม่น่าเทียบชั้นกันได้
ชายกลางคนร่างกำยำและพวกยังไม่จากไปไหน เพียงแต่ออกห่างไปไกลเท่านั้น พอเห็นเหตุการณ์นั้นเข้าก็ตกใจจนไม่อยากเชื่อสองตา หรือคนผู้นี้จะกลัวจนเสียสติไปแล้ว?
ครืน!
ยังไม่ทันได้หายตกใจดี เฉินซีก็เข้าปะทะกับอสูรกลืนสวรรค์แล้ว แรงพลังผันผวนอันน่าหวาดกลัวดีดตัวออก เหมือนภูเขาไฟหลากหลายลูกปะทุออกมา ฟ้าดินสะเทือนเลือนลั่นไม่หยุดหย่อน
ตอนนี้พื้นพสุธาในระยะหลายหมื่นลี้ถูกทำลายล้างเป็นผุยผงไม่เหลือสิ่งใด แสดงให้เห็นถึงความน่าหวาดหวั่นของแรงปะทะเมื่อครู่
“อสูรร้ายเอ๋ย ข้าจะให้โอกาสเจ้ากลับตัวเสียใหม่ ยอมจำนนแก่ข้า แล้วข้าจะพาเจ้าออกจากนิกายอำนาจเทวะ ไม่ต้องทุกข์ทรมานอีก!” ท่ามกลางฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ได้ยินเสียงก้องกังวานของเฉินซีดังขึ้น ทำให้ชายกลางคนร่างกำยำและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดหวั่น มุมปากที่ยกยิ้มแข็งค้างไปทันใด
พวกเขาเห็นเฉินซียังคงยืนหยัดอยู่ตรงจุดเดิม อาภรณ์เนื้อดีพลิ้วไปตามแรงลม ทว่าว่าไร้รอยขีดข่วนใด แต่พื้นดินใต้สองเท้านั้นยุบลงไปจนกลายเป็นหุบเหว
นี่เขา… ป้องกันการโจมตีจากอสูรกลืนสวรรค์ได้อย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ทุกคนเบิกตากว้างมองเหตุการณ์นั้นด้วยความตะลึง ด้วยรู้ดีว่ายามนิกายอำนาจเทวะตั้งแดนอำนาจเทวะขึ้นมา เจ้านิกายอำนาจเทวะเป็นคนฝึกอสูรตัวนี้ภายในแดนเร้นลับบรรพกาลด้วยตนเอง ก่อนจะนำมาไว้ที่นี่ มันได้รับคำสั่งให้เฝ้าทางเข้านิกายอำนาจเทวะไว้ ซึ่งก็ผ่านมานานหลายปีแล้ว
และก็เป็นเพราะเจ้าตัวนี้ ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหลายที่ก้าวเท้าเยื้องกรายเข้ามาที่นี่นับตั้งแต่บรรพกาลมา คิดว่าจะหานิกายอำนาจเทวะให้พบ จึงต้องเอาชีวิตมาทิ้งกับอสูรตัวนี้ ไม่มีใครรอดกลับไปได้สักคน!
เท่านี้ก็มากพอจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความน่ากลัวของมันได้แล้ว ขนาดราชันเซียนเจ็ดแปดคนร่วมมือกันยังโค่นมันไม่ได้ แต่เฉินซีตัวคนเดียวกลับสามารถรับมือกับมันได้อย่างสูสี พวกเขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร?
“เจ้าบ้า! กล้ายั้งมือหรือ! หากยังทำเช่นนั้นต่อไปข้าทำลายวิญญาณเจ้าแน่!!” ชายวัยกลางคนร่างกำยำขู่คำรามเสียงเข้ม ด้วยรู้สึกว่าอสูรกลืนสวรรค์จงใจยั้งมือไว้
แส้สีดำพลันปรากฏขึ้นในมือ ก่อนจะซัดเข้าใส่อสูรกลืนสวรรค์!
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
อสูรกลืนสวรรค์อำนาจสูงส่งขนาดนั้นกลับถูกแซ่ฟาดจนร่างสั่นสะท้าน ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ไป! ฆ่าไอ้เด็กนั่นซะ! เร็วเข้า!” ชายกลางคนร่างกำยำด่ากราด
ครืน!
ซึ่งก็ไม่จำเป็นให้เขาสั่งอยู่แล้ว เพราะอสูรกลืนสวรรค์เข้าสู่สภาวะคลั่ง แขนขาสั่นสะท้าน เตรียมกระโจนเข้าโจมตีเฉินซีด้วยท่าทางดุร้าย ทุกส่วนในร่างของมันเต็มไปด้วยพลังแห่งการกลืนกิน บิดห้วงอากาศรอบกายจนบิดเบี้ยว ปลดปล่อยกลิ่นอายน่าหวาดกลัวของมหาเต๋าออกมา คล้ายจะทำลายให้สิ้นทั้งโลกา
ฟ่าว!
อาภรณ์ของเฉินซีสะบัดพลิ้วยามเหินร่างขึ้นฟ้า เข้าปะทะกับอสูรกลืนสวรรค์ไม่หยุดหย่อนด้วยมือเปล่า ทุกท่วงท่าการโจมตีอาจดูอ่อนแอเหมือนมด แต่กลับทัดเทียมอสูรกลืนสวรรค์ได้ไม่ยาก
ทั้งหินดินทรายลอยตลบคลุ้งอยู่ชั่วขณะ ลมหมุนพุ่งผ่านฟ้าดิน ตะวันจันทราหม่นแสงยามเทียบเคียง ถึงขั้นเห็นเป็นภาพทวยเทพกรีดเสียงคำราม ภาพโลหิตเจิ่งนอง เสียงเต๋าล่มสลายกระจายไปรอบทิศ
ทันใดนั้นเอง กระทั่งชายวัยกลางคนร่างกำยำและพวกที่อยู่ห่างไกล ๆ ยังกระโดดหลบเป็นพัลวัน กลัวว่าจะถูกแรงกระทบไปด้วย
พวกเขาล้วนเป็นราชันเซียน แต่กลับเลือกหลีกเลี่ยง เห็นได้ชัดว่าแรงปะทะระหว่างเฉินซีกับอสูรกลืนสวรรค์รุนแรงเพียงใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...