บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1547

สรุปบท บทที่ 1547 ผลึกศักดิ์สิทธิ์: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปเนื้อหา บทที่ 1547 ผลึกศักดิ์สิทธิ์ – บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บท บทที่ 1547 ผลึกศักดิ์สิทธิ์ ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย novelones อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1547 ผลึกศักดิ์สิทธิ์

……….

บทที่ 1547 ผลึกศักดิ์สิทธิ์

ขณะสติพร่าเลือน เฉินซีก็ได้ยินเสียงบทสนทนาดังมาจากที่ไกล ๆ

“ชายหนุ่มผู้นี้มีวาสนากับข้า หลังจากข้าไปแล้วอย่าแตะต้องสมบัติบนร่างของเขา” เสียงนี้สงบและจริงจัง เปี่ยมด้วยพลังที่เข้าถึงหัวใจของผู้คน เจ้าของเสียงดังกล่าวย่อมเป็น ‘เทพธิดา’

“ท่านเทพธิดาไม่ต้องห่วง”

เสียงนี้ลุ่มลึกทุ้มต่ำประหนึ่งเสียงเสียดสีของโลหะดูไม่คุ้นหูเป็นอย่างยิ่ง

“ฮุ่ยฉง ไปกันเถอะ”

“ช้าก่อน”

ในตอนนี้ เฉินซีไม่ทราบว่าพลังมาจากที่ใดก่อนจะพลันลืมตา เขาพยายามลุกขึ้นแล้วเอ่ยคำ “ผู้มีพระคุณทั้งสองอย่าเพิ่งไป ช่วยบอกชื่อพวกท่านให้ทราบได้หรือไม่ หากภายภาคหน้ามีโอกาส ข้าย่อมตอบแทนคืนเป็นสิบเท่าอย่างแน่นอน”

ขณะเอ่ยคำ ความคิดของเขาก็สับสนอีกครั้งขณะการมองเห็นเลือนราง ชายหนุ่มมองเห็นร่างทั้งสองได้อย่างแจ่มชัด ถึงกระนั้นก็มองเห็นใบหน้าได้ไม่ชัดเจน

มันทำให้รู้สึกขมขื่นอีกครั้ง เขาเพิ่งไปถึงแดนโลกาวินาศแต่กลับตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ ช่างโชคไม่ดีเอาเสียเลย

“ตอบแทนหรือ? คิกคิก ไม่จำเป็นหรอกคุณชาย แค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว” ฮุ่ยฉง สาวน้อยผมมวยคู่ ใบหน้าละเอียดอ่อน สวมชุดสีครามและถือตะกร้าดอกไม้เอ่ยคำพลางแย้มยิ้ม

“ไปกันเถอะ”

‘เทพธิดา’ เอ่ยคำอย่างสงบขณะเมินคำขอของชายหนุ่ม แม้จะไม่ได้แสดงอำนาจอันหยิ่งผยอง แต่โดยรวมแล้วนางก็มีท่าทีถือตัวอยู่ในที

ดูเหมือนนางจะคิดว่าคำพูดของเฉินซีเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น

หรือจากมุมมองของนางแล้ว ด้วยสถานการณ์ที่อีกฝ่ายประสบ ต่อให้บาดแผลจะหายดีแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบแทนแม้แต่นิดเดียว

“พวกนางถึงกับจากไปทั้งอย่างนี้…”

เฉินซีตกตะลึงขณะจิตใจสับสนงุนงง เขาพึมพำอยู่ในใจ “ต่อให้ไม่สนใจ ข้า เฉินซี ก็จะต้องตอบแทนความเมตตาที่ติดค้างไว้อย่างแน่นอน”

ตุบ!

สิ้นคำชายหนุ่มก็หมดสติไปอีกครั้ง

เมื่อเฉินซีได้สติอีกครั้ง เวลาก็ล่วงเลยมาสองวันแล้ว

ชายหนุ่มพบว่าตัวเองอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขนาดของมันไม่ใหญ่โต มีผู้อยู่อาศัยหลายร้อยชีวิต ดูเหมือนเป็นชนเผ่าขนาดเล็กมากกว่า

มีทุ่งสมุนไพรหนึ่งพันหมู่อยู่ตรงหน้าหมู่บ้าน โดยมีสมุนไพรและพืชพรรณแปลกประหลาดถูกปลูกเอาไว้เป็นจำนวนมาก พวกมันเปล่งแสงหลากสีสันอันเจิดจ้านานาชนิดออกมา

ผู้คนนับร้อยในหมู่บ้านดูแลทุ่งสมุนไพรแห่งนี้ พูดให้ถูกก็คือพวกเขาเหมือนกับกลุ่มข้ารับใช้ที่คอยคุ้มกันพวกมัน ทั้งเวลา พลังงาน และความคิดต่างถูกใช้ไปกับงานเหล่านี้

“ที่นี่… ยังเป็นแดนโลกาวินาศอยู่หรือ?”

เมื่อได้สติกลับคืนมา เฉินซีก็รู้สึกงุนงงสับสนเป็นอย่างมาก

เขาสังเกตเห็นว่าทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ต่างออกไป ทั่วร่างถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ แต่ทุกการกระทำกลับไม่แตกต่างจากคนธรรมดา พวกเขาไม่รู้แม้แต่วิธีใช้พลังเทวะแม้แต่น้อย

“น่าแปลก ทั่วทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีกลิ่นอายแห่งชีวิตเลย ราวกับไม่หลงเหลือพลังอย่างไรอย่างนั้น…” เฉินซียิ่งคิดก็ยิ่งสับสน

“เจ้าได้สติแล้ว”

ฉับพลันนั้นเสียงแหบพร่าประหนึ่งโลหะเสียดสีดังอยู่ในหูของเขา

เฉินซีพลันเงยหน้าก่อนจะพบชายวัยกลางคนผลักประตูเดินเข้ามาในห้อง คนผู้นั้นมีวงแหวนทองแดงบนหน้าผาก สีหน้าเด็ดเดี่ยว ผิวพรรณหมองคล้ำประหนึ่งหินเหล็ก

ชายวัยกลางคนมีกลิ่นอายแข็งแกร่ง เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากคนอื่นที่อยู่ในหมู่บ้าน เขาให้ความรู้สึกเหมือนกับอาวุธสังหารที่เต็มไปด้วยโลหิตขณะกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ยังคงอบอวลทั่วร่าง เขาครอบครองพลังที่ทัดเทียมกับผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ขอบเขตเทวา

สำหรับเฉินซี มันคือกลิ่นอาย ‘แบบเดียวกัน’

ส่วนคนอื่นในหมู่บ้านเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ขอบเขตเทวา

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ทันทีที่ชายวัยกลางคนเปิดปาก เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือเจ้าของน้ำเสียงที่เอ่ยคำว่า ‘ท่านเทพธิดา’ ก่อนที่ตนจะหมดสติไป

“ข้าคือเถี่ยคุน เป็นผู้ดูแลที่นี่ ข้าไม่สนว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างไรหรือมาจากที่ไหน แต่หลังจากรักษาตัวจนหายดีแล้วก็จรจากจากที่นี่เสีย”

ชายวัยกลางคนผู้เรียกตัวเองว่าเถี่ยคุนมีสีหน้าเย็นชายิ่ง มันทั้งเย็นยะเยือกและไร้อารมณ์

เฉินซีตกตะลึงแต่ก็ยังพยักหน้า “ขอบคุณมาก”

สีหน้าของเถี่ยคุนยังคงเย็นชาขณะเอ่ยคำ “บาดแผลจะหายดีภายในเจ็ดวันหรือไม่?”

“อาจจะมากพอที่ทำให้ขยับได้” เฉินซีสูดหายใจเข้าหลังจากรับรู้ถึงพลังในร่างกายจึงเอ่ยคำอย่างเนิบช้า

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มันก็ไม่ได้รับความเสียหายจนถึงดวงจิตแห่งเต๋า ประกอบกับรากฐานที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ในช่วงสองวันที่ผ่านมา บาดแผลทั้งภายนอกและภายในได้รับการซ่อมแซมในระดับที่ดีทีเดียว

สิ่งเดียวที่ขาดไปก็คือพลังศักดิ์สิทธิ์

เขาไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้ ต้นอ่อนเงาทมิฬที่อยู่ในร่างกายทำได้เพียงปลดปล่อยปราณเซียนออกมาเท่านั้น ในอดีตที่ผ่านมา ต้องใช้ปราณเซียนถึงสิบเท่าถึงจะสามารถกลั่นเป็นกลุ่มพลังศักดิ์สิทธิ์ได้

ด้วยความเร็วระดับนี้ ระดับการบ่มเพาะน่าจะฟื้นคืนกลับมาราวเจ็ดส่วนได้ภายในเจ็ดวัน

ในโลกใบนี้ พลังศักดิ์สิทธิ์เบาบางยิ่ง มันไม่เพียงพอที่เฉินซีจะดูดกลืนได้ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว จึงทำได้เพียงพึ่งต้นอ่อนเงาทมิฬเพื่อหล่อเลี้ยงพลังเอาไว้

“เอาละ เจ้าจะต้องไปภายในเจ็ดวัน” สิ้นคำของเถี่ยคุน เขาก็หันหลังแล้วจากไป

“สหายเต๋า ที่นี่ยังเป็นแดนโลกาวินาศใช่หรือไม่?” เฉินซีรีบถาม

“ถูกต้อง”

เถี่ยคุนยืนนิ่งคล้ายกับกำลังครุ่นคิดและลังเล ผ่านไปสักพัก เขาก็โยนหินผลึกห้าก้อนมาให้ “นี่คือผลึกศักดิ์สิทธิ์ หากทำการฝึกฝนก็จะทำให้ฟื้นตัวได้ไว จำไว้ อย่าให้คนอื่นเห็นสิ่งนี้เป็นอันขาด”

ปึง!

กล่าวจบ ประตูก็ปิดลง เฉินซีอยู่ในห้องเพียงลำพังอีกครั้ง

ชายร่างผอมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

แย่ล่ะ!

หัวใจของเฉินซีสั่นสะท้าน เขายื่นมือออกไปปิดปากของอีกฝ่าย ทำให้เสียงกรีดร้องเงียบหายไป

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ถึงเสียงกรีดร้องของชายร่างผอมจะดังเพียงชั่วครู่ แต่มันก็ดังมากพอที่จะกระจายออกไปนอกบ้าน ทำให้ผู้คนทั้งหลายในหมู่บ้านได้ยิน

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เสียงของอูอวี่นี่!”

“ไปเถอะ ไปดูกัน!”

ไม่ช้า เสียงทั้งหลายผสานเข้ากับเสียงฝีเท้ารวมตัวมาแต่ไกล

สีหน้าของเฉินซีก็พลันมืดมนหลังจากสัมผัสทั้งหมดนี้ได้ แล้วจิตสังหารก่อตัวขึ้นภายใน แม้จะอยากสังหารชายร่างผอมตรงหน้าเสียให้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องยั้งมือเอาไว้

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงอึกทึกทั้งหลายก็มาถึงนอกประตูพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่หยุดลง

“ทุกท่าน รีบมาช่วยข้าที!”

ชายร่างผอมตะโกนสุดเสียง

การกระทำนี้ทำให้สีหน้าของเฉินซียิ่งมืดมน ร่างของเขาวูบไหวก่อนจะกดชายร่างผอมลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังปัง

“อูอวี่หรือ? ทำไมเจ้าถึง…”

“เจ้าคนบัดซบ พวกข้าอุตส่าห์หวังดีช่วยเจ้า แต่กลับมาทำตัวเช่นนี้!”

“ตาย! มาช่วยกันฆ่าเจ้าคนเนรคุณนี่ด้วยกันเถอะ!”

เมื่อผู้คนในหมู่บ้านเห็นเหตุการณ์นี้ก็พากันเดือดดาล พวกเขาชี้นิ้วมาที่เฉินซีโดยไม่สนใจว่าความจริงแล้วมันเป็นเช่นไร จากนั้นจึงพุ่งเข้ามาภายในบ้าน

ครืนนน!

ก่อนเฉินซีจะทันได้อธิบาย คนเหล่านี้ก็โจมตีเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกับทุบบ้านจนวินาศสันตะโร ทำให้ห้วงอากาศสั่นไหวก่อนสถานการณ์จะตกอยู่ในความโกลาหล

“เจ้าสารเลวพวกนี้!”

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเดือดดาลหลังจากเห็นเช่นนี้ เขาเตะชายร่างผอมอย่างแรง จากนั้นจึงออกจากห้องไปในพริบตา

“ทุกท่าน โปรดฟังข้าอธิบายก่อน…”

เฉินซีอยากแก้ต่างให้ตัวเอง

แต่สิ่งที่ทำให้เขาขนลุกก็คือชาวบ้านเหล่านี้ไม่ฟังคำอธิบายแม้แต่น้อย พวกเขาแผดเสียงคำรามขณะพุ่งเข้ามาหาคนแล้วคนเล่าประหนึ่งอีกฝ่ายเป็นศัตรูตัวฉกาจ

สถานการณ์ตกอยู่ในความโกลาหลทันที

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]