บทที่ 1554 สินสงคราม
……….
บทที่ 1554 สินสงคราม
เหรียญทองแดงโปรยสมบัติ
สมบัตินี้รอบนอกเป็นวงกลม รอบในเป็นสี่เหลี่ยม พื้นผิวตราอักขระโกลาหลไว้อย่างคลุมเครือ เหรียญทองแดงทั้งสามเผยปรากฏการณ์แห่ง ‘สวรรค์’ ‘โลก’ และ ‘มนุษย์’ ทั้งบริสุทธิ์ หนักหนา และลึกล้ำสุดขั้ว
เนิ่นนานแต่บรรพกาล เจ้านิกายอำนาจเทวะอาศัยสมบัตินี้ในการชิงสมบัตินับไม่ถ้วนจากเหล่าตัวตนยิ่งใหญ่ ณ ขณะนั้น ฤทธายิ่งใหญ่เลิศล้ำนั้นกล่าวกันว่าอยู่เหนือสมบัติวิญญาณประดิษฐ์ทั้งปวง
ขณะเดียวกัน ในหมู่สมบัติวิญญาณธรรมชาติร้อยแปดชิ้นอันเป็นที่รู้จักในสามภพ ฤทธิ์ของเหรียญทองแดงโปรยสมบัติกระทั่งอยู่ในลำดับที่ยี่สิบสี่ เพียงลำดับนี้ลำพังก็เห็นได้ไม่ยากว่าสมบัตินี้ไม่ธรรมดาเพียงไร
ทว่าขณะนี้ หลังเฉินซีใช้ตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ออกมา เขาก็ใช้เหรียญทองแดงโปรยสมบัติสยบอวี้เฉินตามออกมาทันที และมันก็ได้ผลเลิศล้ำ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เหรียญทองแดงทั้งสามดูเหมือนเล็กจ้อย ทว่าแต่ละเหรียญล้วนมีอำนาจขยี้โลกหล้า ทันทีที่สำแดงพลัง พวกมันก็เหมือนสามขุนเขาศักดิ์สิทธิ์สีทองสามลูกกดกระแทกลงผนึกร่างอวี้เฉินจากทั้งเหนือศีรษะและใต้เท้า ยิ่งกว่านั้นมันกระทั่งสยบบริเวณรอบข้างจนระเบิดบี้ทีละน้อย ส่งเสียงเลื่อนลั่นเช่นอัสนีฟาด
“เหรียญทองแดงโปรยสมบัติ! ไม่ใช่ว่ามันเป็นของนิกายอำนาจเทวะหรือ? มันมาอยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร?” อวี้เฉินรู้จักสมบัติศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ นางกรีดเสียงสนั่นอย่างสุดตกใจ ดูไม่อยากเชื่อ
ขณะเดียวกัน นางก็ดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แก่นโลหิตทั่วกายเรืองโรจน์เยี่ยงตะวันฉายกลางเวหา ขณะที่โคจรพลังบ่มเพาะเต็มกำลัง พยายามทะลวงหนีผ่านพันธนาการ
น่าเสียดาย นี่คือสมบัติวิญญาณธรรมชาติอันลือลั่นในสามภพ ถูกส่งผ่านจากมือสู่มือมาแต่บรรพกาล อำนาจของมันทรงพลังเสียจนมิเพียงกลบรัศมีสมบัติวิญญาณประดิษฐ์ทั้งมวลเสียสิ้น ยังเผยอำนาจจองจำแรงกล้ายามใช้กับศัตรู
พรวด!
อวี้เฉินกระอักโลหิตคำโต รัศมีศักดิ์สิทธิ์จากทั่วร่างสั่นสะท้าน ประหนึ่งดวงตะวันอันเจียนถูกขยี้แหลก
นางดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ใช้พลังอิทธิฤทธิ์ชั้นยอดสารพัด แต่ก็ไม่อาจส่งผลใด ๆ ต่อเหรียญทองแดงโปรยสมบัติได้ ในทางกลับกัน นางถูกบดขยี้เสียจนร่างหดลงไม่จบสิ้น พื้นที่ดิ้นรนของนางลดน้อยลงทุกที
“หรือว่า… เจ้าจะเป็นศิษย์นิกายอำนาจเทวะ?” ใบหน้าของอวี้เฉินซีดขาว แผดเสียงด้วยสีหน้าหวาดผวา ฟังดูเหมือนเสียงอันสิ้นหวังของสัตว์ร้ายติดกับดักใกล้สิ้นลม
“เหรียญทองแดงโปรยสมบัติ นิกายอำนาจเทวะ…. หรือตัวตนแท้จริงของเขาก็คือ… เดี๋ยวก่อน หากเขาเป็นสมาชิกนิกายอำนาจเทวะ เช่นนั้นเหตุใดเขาจึงตกต่ำถึงเพียงนี้ในแดนโลกาวินาศ?” เมื่อเห็นเฉินซีใช้เหรียญทองแดงโปรยสมบัติสยบอวี้เฉินจนจวนปราชัย สีหน้าของเถี่ยคุนก็แปรเปลี่ยนเล็กน้อย มีทั้งความตกใจ และความตกตะลึงอันมากยิ่งกว่านั้น
เขาเองก็มองเหรียญทองแดงโปรยสมบัติออกเช่นกัน และรู้ว่ามันเป็นของเจ้านิกายอำนาจเทวะ ทว่าเขาไม่อาจคิดออกได้เลยว่าเหตุใดสุดยอดสมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้จึงมาอยู่ในมือเฉินซี
เฉินซียังคงเงียบกริบ ตั้งสมาธิควบคุมเหรียญทองแดงโปรยสมบัติสยบอวี้เฉินอย่างสุดกำลัง
เสียงอึกทึกจากศึกนี้เลื่อนลั่นเกินไป เขาต้องจัดการกับนางโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นหากคณะของนายน้อยสามจากตระกูลอี้เร่งรุดมาทันกาล ผลที่ตามมาจะเกินคาดคิด
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เหรียญทองแดงโปรยสมบัติระเบิดรัศมีสีทองเรืองโรจน์ บดขยี้ลงมาอย่างไม่จบสิ้น อักขระโกลาหลอันคลุมเครือนับไม่ถ้วนเฉิดฉายขึ้นบนพื้นผิวของมัน เผยบรรยากาศน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ อวี้เฉินจึงไม่มีแม้แต่โอกาสพูด นางก็ถูกบดขยี้จนแผดร้องซ้ำไปมา เส้นผมยาวหลุดลุ่ยเหนือบ่า หยาดโลหิตย้อยหยดจากทั่วร่าง กระดูกทุกชุ่นในร่างส่งเสียงแหลกร้าว จวนไม่อาจยื้อไว้ได้ต่อ
“ร้ายกาจยิ่งนัก!”
“ที่มาของเด็กนี่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ เขาจึงมีเหรียญทองแดงโปรยสมบัติในมือได้! ไม่น่าเชื่อเลย”
“ไม่ใช่แค่เหรียญทองแดงโปรยสมบัติ ตาข่ายที่เขาใช้เมื่อครู่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเหรียญทองแดงโปรยสมบัติเลย อาจเหนือกว่าด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่ามันก็ต้องเป็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติอันหายากยิ่งไม่ต่างกัน ลองคิดดูสิ เทวารู้แจ้งโลกาจากภพเบื้องล่างผู้ใดบ้างถือครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นได้เหมือนเขา?”
“พอเจ้าพูดออกมาเช่นนี้ ที่มาของเจ้าเด็กนี่ดูลึกลับยิ่งจริง ๆ”
“ข้าว่า ข้าเคยได้ยินเรื่องตาข่ายนั้นมาก่อน เหมือนมันจะเป็นของฝูซี ประมุขเขาเทพพยากรณ์ มีชื่อว่าตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ กล่าวกันว่าสามารถจับร่องรอยเต๋าสวรรค์และชะตากรรมแห่งสรรพสิ่งได้ ทว่าข้าไม่กล้ายืนยันข้อสันนิษฐานนี้ เพราะถึงอย่างไร สมบัติที่ว่ามานี่สุดยอดกว่าเหรียญทองแดงโปรยสมบัติอีกนะ”
“ตาข่ายครอบคลุมสวรรค์? แม่เจ้า! หนึ่งชิ้นมาจากเขาเทพพยากรณ์ อีกชิ้นมาจากนิกายอำนาจเทวะ หากเขาเป็นศิษย์จากหนึ่งในสองนิกายศักดิ์สิทธิ์นี่ เช่นนั้น เหตุใดเขาจึงถูกคนจากตระกูลอี้ไล่ล่าในแดนโลกาวินาศได้เล่า?”
“แปลก แปลกจริง ๆ”
แม้เหล่าชาวบ้านจะเสียความสามารถต่อสู้กันไปนานแล้ว แต่ทุกคนล้วนเป็นเทพผู้ทรงพลังอันเรืองอำนาจในภพเบื้องล่างมาก่อน ยังมีความสามารถในการแยกแยะและประสบการณ์ส่วนตัว จึงสามารถตรวจพบปริศนาและความผิดปกติมากมายจากเฉินซีได้
สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกทั้งประหลาดใจ ตกใจและสับสน ภาพลักษณ์ของเฉินซีในใจเหมือนจะยิ่งลึกลับขึ้นกว่าเก่า
ตู้ม!
ขณะที่พวกเขาทั้งหลายต่างตกตะลึง ทันใดนั้น เสียงสนั่นสั่นโลกาก็กึกก้องมาจากสมรภูมิอันห่างไกล รัศมีสีทองเฉิดฉายเต็มนภา ย้อมบริเวณแสนลี้รอบข้างเป็นสีทองอร่ามจรัส
ขณะเดียวกัน เสียงกรีดร้องโหยหวนอันแสนขุ่นเคืองใจของอวี้เฉินก็แทรกออกมาท่ามกลางความอึกทึก
หลังจากนั้น เสียงเปรี้ยงก็ดังสนั่น ร่างของนางถูกขยี้เป็นชิ้น ๆ กลายเป็นก้อนเลือดเนื้อกระจัดกระจาย ทว่าคนทั้งหลายก็ต้องประหลาดใจเมื่อก้อนเลือดเนื้อเหล่านี้เหมือนมีชีวิตของตนเอง พวกมันแปรเป็นศรสีเลือดนับไม่ถ้วน ระเบิดทะยานไปทั่วทิศในฉับพลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...