บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1558

สรุปบท บทที่ 1558 ได้มาซึ่งพฤกษาฤทัย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอน บทที่ 1558 ได้มาซึ่งพฤกษาฤทัย จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1558 ได้มาซึ่งพฤกษาฤทัย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1558 ได้มาซึ่งพฤกษาฤทัย

……….

บทที่ 1558 ได้มาซึ่งพฤกษาฤทัย

ตู้ม!

คนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาทั้งหลายโจมตีพร้อมกัน แสงสีเขียวแผ่ออกจากร่างคล้ายกิ่งไม้เขียวและใบไม้ที่สั่นไหวไปมาราวกับโซ่สาย ก่อนจะซัดลงมาใส่เฉินซีอย่างแรง

ร่างที่แท้จริงของพวกเขาคือต้นไม้โบราณสูงตระหง่าน แม้จะดูไม่แกร่งอะไรนัก แต่พอโจมตีออกมาก็ดูมีอำนาจสูงส่งเหมือนเทพแห่งพฤกษา ดูแล้วน่าเกรงขามอยู่เช่นกัน

ทันใดนั้น ทั้งผืนป่าก็กลายเป็นผุยผง ฟ้าดินมืดมนลงในพลัน ม่านราตรีถูกแสงเรืองสีเขียวส่องสว่าง

“ฆ่ามัน! ฆ่าเจ้าเด็กนี่เลย!”

“มันแอบฟังเราคุยกัน จะปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้!”

“ใช่ ต้องฆ่าเท่านั้น”

เฉินซีเลิกคิ้วขึ้นสูง เขาแวบร่างไป เงื้อยันต์ศัสตราเข้าปะทะจนเกิดเสียง

ฟ่าว!

กระแสปราณกระบี่กว้างใหญ่ไพศาลเหมือนมหาสมุทรกรีดผ่านฟ้า

กระบวนท่าที่สอง ของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ สงัดก่อนพายุโถม!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

การโจมตีเหล่านั้นถูกทำลายสลายไปด้วยกระแสปราณกระบี่โดยไม่อาจต้านทานอย่างไรได้เลย

จากนั้นเสียงลั่นครืนโกดังก้อง คนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษากว่าสิบคนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ถูกปราณกระบี่ซัดกระเด็นไปจนกิ่งก้านสาขาบนร่างถูกฉีกกระชาก

คนพวกนี้ไม่ชำนาญเรื่องการต่อสู้เลย เรียกได้ว่าเป็นเทวารู้แจ้งโลกาที่มีพลังเพียงธรรมดาเท่านั้น เฉินซีโจมตีครั้งเดียวก็สามารถล่วงรู้ถึงความแกร่งศัตรูได้แล้ว

ทำให้ในใจเขาโล่งอกขึ้นมา จริง ๆ แล้วเขารู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านี้เก่งกาจด้านการซ่อนตัวและเปลี่ยนร่างมากที่สุด

แต่น่าเสียดายที่ถูกเฉินซีมองออกแล้ว ดังนั้นหากต้องปะทะกันโดยตรง ถึงพวกเขากว่าสิบคนจะร่วมแรงกันก็คงทำอะไรเฉินซีไม่ได้

“แกร่งยิ่ง!”

“เวรแล้ว หากครั้งนี้ต้องเอาชีวิตมาทิ้งเล่า?”

“หากเป็นเช่นนั้นก็เหมือนราชาเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ ต้องถูกเอาไปกลั่นโอสถทิพย์หรือ?”

“ไม่! ไม่ใช่หรอก! หากเราถูกสังหาร อย่างมากก็ถูกเอาไปทำเป็นหน้ากากหนังไว้หลอกคนอื่น มีหรือจะเอาไปทำโอสถทิพย์ได้?”

“อ้อ นั่นก็ไม่ใช่เหมือนกัน หนังของเราคือสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว”

“เจ้าโง่! ไอ้พวกกะโหลกกะลา! นี่เป็นการต่อสู้นะ! พวกเจ้า… พวกโง่พวกนี้นี่มันสมควรถูกฆ่าถลกหนังแล้ว!”

หลังคนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาแพ้จากการปะทะ พวกเขากลับถกเถียงกันเสียงดัง จนทำให้ ‘พี่ใหญ่’ โมโหตวาดออกมาไม่หยุด

จริง ๆ แล้วเฉินซีไม่รู้ว่าเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาเป็นเผ่าประหลาดภายในแดนโลกาวินาศ พวกเขาเกิดจากร่างของทวยเทพ ทุก ๆ สามพันปีจะสามารถสร้างพฤกษาฤทัยขึ้นมาได้

มีแต่ต้องสร้างพฤกษาฤทัยสามสิบหกกลีบให้ได้ถึงจะกลายเป็นเทพที่แท้จริง เพื่อให้สามารถสร้างพฤกษาฤทัยที่แท้จริงขึ้นมา ถึงตอนนั้นก็จะมีความรู้กว้างขวาง เริ่มทำความเข้าใจกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้

ทว่าสติปัญญาของคนที่ยังไม่สามารถกลั่นพฤกษาฤทัยที่สมบูรณ์ได้เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นย่ำแย่ ถึงแม้จะมีร่างแห่งเทพ แต่สติปัญญาและจิตใจก็ไม่ต่างจากอสูรธรรมดาเลย

หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ คนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาที่ยังไม่มีพฤกษาฤทัยสมบูรณ์ล้วนเป็นพวกโง่เขลา

ในหมู่คนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษา มีเพียงพี่ใหญ่ที่กลั่นพฤกษาฤทัยจนสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจึงด่าว่าคนอื่นโง่ได้

แต่ถึงเฉินซีจะไม่รู้ ก็พอคาดเดาได้ว่า ‘พี่ใหญ่’ ที่ว่าคงไม่เท่าไหร่ ส่วนคนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาก็คงไม่ต่างจากอสูรป่าทั่วไป

ฟ่าว!

ชายหนุ่มคิดได้เช่นนั้น แต่ท่วงท่าไม่ช้าลงสักนิด หลังประเมินกำลังศัตรูได้แล้ว เขาก็คิดว่าจะรีบจบการต่อสู้ลงเสีย

กระแสปราณกระบี่พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

ห้วงอากาศคล้ายภาพวาด ปราณกระบี่เหมือนกระบี่คมแห่งใต้หล้า

ฟึบ!

มันกรีดผ่านอากาศ ปลายแหลมรุดเข้าหาคนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษา

“อ๊าก!!!”

“หนี! เร็วเข้า! ข้าเหมือนจะตายแล้ว!”

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวน ปราณกระบี่ฟันขนานเส้นขอบฟ้าใส่ศัตรูได้คนหนึ่งจนร่างแยก

จากนั้นก็เกิดเสียงดังฉัวะ ร่างนั้นพลันกลายเป็นแสงสีเขียว จากนั้นก็กลั่นแน่นกลายเป็นพฤกษาฤทัยที่ดูคล้ายหยกใส มันหมุนคว้างอยู่กลางอากาศคล้ายว่าพยายามหนี

ฟึบ!

ตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ครอบลงมากักพฤกษาฤทัยนั่นไว้จนเฉินซีคว้ามันไว้ได้

พฤกษาฤทัยนั้นมีอยู่สามกลีบ ไม่แน่ว่าสมบัติชิ้นนี้อาจจะเป็นแก่นพลังสสารของมัน… เฉินซีมองมันเล็กน้อยแล้วเก็บลงคลัง

“สวรรค์โปรด! น้องเก้าถูกสังหารแล้ว!”

เฉินซีเห็นแล้วก็ส่ายหน้า คนพวกนี้ขี้ขลาดตาขาว ก่อนหน้านี้ยังทำทีเป็นเข้มแข็ง อึดใจต่อมาก็ดีแตกเสียแล้ว

วิ้ง!

กระแสพลังผันผวนประหลาดลอยตัว พี่ใหญ่อ้าปากคายบางอย่างออกมา มันคือพฤกษาฤทัยที่รูปร่างคล้ายดอกบัว มันหมุนวนปลดปล่อยแสงสีเขียวเข้มออกมา เฉินซีเห็นได้ชัดเจนว่าพฤกษาฤทัยนี้มีสามสิบหกกลีบ แต่ละกลีบเต็มไปด้วยเส้นเลือดและแผนภาพที่ดูเหมือนอักขระเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ปลดปล่อยกลิ่นอายบริสุทธิ์ออกมา

มองแค่ปราดเดียวเฉินซีก็เห็นภาพหลากหลายปรากฏขึ้นสู่สายตา มันเป็นภาพสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกและความต้องการได้อย่างชัดเจน

ถึงขั้นที่หากดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซีไม่แกร่งพอก็คงถูกดูดวิญญาณเข้าไปแล้ว

“นี่มันผิวไร้ลักษณ์หรือ?” เฉินซีสะบัดแขนเสื้อสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนแสงสีน้ำเงินจะพุ่งออกไปรับพฤกษาฤทัยมาสังเกตดู

ทว่าพี่ใหญ่เผ่าหน้ากากหนังพฤกษาเหมือนเสียพลังทั้งชีวิตไป กลิ่นอายจากร่างเขาจางลงมาก ผิวพรรณบนร่างเองก็ซีดลงเหมือนใกล้ตาย

“นั่นเป็นพฤกษาฤทัยของข้า หากเจ้าใช้มันก็จะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นใครก็ได้ กระทั่งบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลก็ไม่อาจล่วงรู้” พี่ใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง “แต่หากตกอยู่ในมือมนุษย์เช่นเจ้า จะสามารถใช้งานได้เพียงสามครั้งเท่านั้น จากนั้นมันก็จะหายไป…”

ว่าจบน้ำเสียงเขาก็เจือแววเศร้า มันคือพลังแก่นแท้สสารของเขาเชียว สามพันปีจะกลั่นได้หนึ่งกลีบ แล้วนั่นมีตั้งสามสิบหกกลีบ นั่นคือเขาต้องใช้เวลากว่าหนึ่งแสนแปดพันปีเชียวนะ!

แต่ตอนนี้กลับถูกศัตรูชิงพฤกษาฤทัยไป ในใจย่อมรู้สึกแย่ยิ่ง

คนอื่นเห็นก็รู้สึกเศร้าเช่นกัน บางคนก็ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเห็นใจ

เฉินซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นโยนกระเป๋าไป “คิดเสียว่าเป็นค่าตอบแทนจากข้า รับไปเถอะ”

ว่าจบแล้ว ร่างสูงใหญ่ก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ภายในกระเป๋าสัมภาระคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้จากพวกอวี้เฉิน อาจจะไม่ได้มีค่าอะไรนัก แต่ที่มอบให้คนเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาก็เรียกได้ว่าใจดีมากพอแล้ว

บางทีการหยุดมือไม่ให้สังหาร ก็ต้องใช้ความกล้าหาญมากกว่าการลงมือเสียอีก

เมื่อไหร่ที่มีพลังได้เทียบเท่าเฉินซี ความคิดอ่านก็จะเปลี่ยนผัน ได้ความเข้าใจเรื่องการสังหารมาใหม่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สำหรับเขาก็แค่ไม่ทรยศต่อจิตใจตนเองเป็นพอ

……

มีผิวไร้ลักษณ์และเหรียญทองแดงโปรยสมบัติแล้ว ข้าก็ปลอมตัวเป็นอินไฮว่คงได้ ไม่แน่ว่าอาจจะหาทางไปถึงเส้นทางนั้นได้… เฉินซีรู้สึกยินดีอยู่ในใจระหว่างเหินร่างไปกลางอากาศ

เหรียญทองแดงโปรยสมบัติเป็นของนิกายอำนาจเทวะ ส่วนอินไฮว่คงก็เป็นศิษย์ชั้นสูงของที่นั่น ตอนนี้เฉินซีมีพฤกษาฤทัยเผ่าหน้ากากหนังพฤกษาแล้ว ก็สามารถแปลงเป็นอินไฮว่คง ผ่านเส้นทางที่นิกายอำนาจเทวะคุมอยู่ได้

หากโชคดีก็คงเข้าเอกภพมสิหิมไปได้ไม่ยาก!

หือ? มีกลิ่นอายทรงพลังอยู่แถบนี้เต็มไปหมด ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นพื้นที่ล่าสินะ… เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป เฉินซีก็หยุดเคลื่อนไหวแล้วมองไปไกล ๆ ภาพตรงนั้นคืออะไรที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนเป็นโลกที่ถูกพลิกกลับอย่างไรก็อย่างนั้น

มันเป็นเหมือนเส้นที่มองไม่เห็นอยู่ไกล ๆ แยกฟ้าดินออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งสีดำหมึก อีกครึ่งแดงเหมือนโลหิต ทิวทัศน์ยังคงเหมือนเดิม แต่บรรยากาศกลับเพิ่มความลึกลับน่ากลัวเข้าไป

เฉินซีรู้ว่าพื้นที่ล่าแดนโลกาวินาศนั้นอยู่ในพื้นที่สีแดงเลือดนั่นเอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]