หญิงสาวในชุดเรียบง่าย ไม่ได้สนใจต่อสายตาของผู้คนที่อยู่โดยรอบ ขณะที่นางเอื้อมมือไปหยิบยันต์เกราะดินและศึกษามันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นร่องรอยของความสับสนก็ปรากฏขึ้นในแววตาของนาง เห็นได้ชัดว่านางไม่สามารถจำแนกโครงสร้างสัญลักษณ์บริเวณด้านบนของตัวยันต์ออก
แปลกมาก! สัญลักษณ์บนเครื่องรางนี้เรียบง่ายและดูเป็นธรรมชาติ รอยหมึกมีความสมมาตรและเป็นมันเงา ขั้นตอนการใช้พู่กันนั้นแม่นยำและคล่องแคล่ว และมีมาตรฐานที่สูงมากขนาดนี้ จะเป็นงานหลอกลวงได้เยี่ยงไร
ความอยากรู้อยากเห็นผุดขึ้นมาในใจของหญิงสาว ก่อนที่นางจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “เจ้าของร้าน ท่านจะรังเกียจหรือไม่ หากข้าจะทดลองอำนาจของแผ่นยันต์นี้”
เมื่อได้ยิน จางต้าหยงก็รู้สึกตกใจ จากนั้นก็กล่าวอย่างทอดถอนใจ “แม่นางไม่ต้องพยายามหรอก ตัวข้านั้นดูแลร้านเล็ก ๆ แห่งนี้มาสามสิบปี และได้จับต้องยันต์มานับไม่ถ้วน ข้าจะไม่สามารถแยกยันต์เกราะดินของจริงกับปลอมออกได้อย่างไร? แม้แต่ตัวท่านก็เคยเห็นมัน โครงสร้างของสัญลักษณ์บนแผ่นยันต์เกราะดินเหล่านี้ผิดไปโดยสิ้นเชิง ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะทดสอบอีก”
“ใช่แล้ว! ใช่แล้ว! ท่านลุงจางกล่าวถูกอย่างแน่นอน แผ่นยันต์อักขระที่เจ้าเฉินซีสร้างขึ้นในวันนี้เป็นการหลอกลวงอย่างแน่แท้ ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะทดสอบ”
เหล่าศิษย์นักสร้างยันต์ที่อยู่รายรอบต่างยืนกรานพร้อมกัน ด้วยฐานะอันต่ำต้อยของพวกเขา และไม่เคยสัมผัสกับสาวงามใกล้ชิดเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงคว้าโอกาสทั้งหมดเพื่อที่จะทำให้นางสนใจ
“ท่านจะรู้ความจริงแท้ของมันโดยที่ไม่ได้ทดสอบได้อย่างไร?” หญิงสาวในชุดเรียบง่ายยิ้มบาง ๆ ราวกับดอกบัวที่ผลิบานหลังฝนตก ทั้งสง่าและประณีต ขณะที่กล่าวคำ นางก็ก้าวมาถึงพื้นที่ว่างแล้ว และด้วยการโบกมือของนาง คลื่นปราณแท้ได้หลั่งไหลลงในแผ่นยันต์
ฉากอันน่าตกใจพลันปรากฏขึ้น ทันใดนั้นยันต์ก็เปลี่ยนเป็นแสงสีเหลืองนวลที่ปกคลุมอย่างอ่อนโยน ม้วนตัวอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงควบแน่นเป็นโล่ขนาดมหึมาที่มีรูปร่างเหมือนเต่า แสงไฟสว่างจ้าขดตัวอยู่รอบ ๆ เมื่อมันเปล่งกลิ่นอายที่หนาทึบออกมา
ฟุ่บ!
ความเย้ยหยันในแววตาของทุกคนแปรเปลี่ยนไป ราวกับมิอาจเชื่อในสิ่งที่เห็น และใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเซียวราวกับเห็นภูตผี
จางต้าหยงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจอย่างยิ่ง ‘แท้จริงแล้วมันคือยันต์เกราะดินจริง ๆ หรือ? เป็นไปได้ไหมที่ข้าจะคิดผิดก่อนหน้านี้?’
เป็นอย่างที่คาดไว้! ราวกับว่าการคาดเดาในใจของนางได้รับการยืนยัน ดวงตาของหญิงสาวก็ส่องประกายในทันที และโดยไม่ลังเล มือซ้ายของนางก็เต็มไปด้วยอำนาจของปราณแท้ก่อนที่จะฟาดฝ่ามือลงบนโล่รูปเต่าอย่างเต็มแรง
ปังงงงงงง!!
เสียงดังกึกก้องกังวานดังขึ้นและระลอกคลื่นที่ผันผวนอย่างรุนแรงก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของโล่รูปเต่า ทว่ามันก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
‘หากเป็นยันต์เกราะดินทั่วไป มันคงไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของข้าได้ถึงหนึ่งในสิบ ยันต์เกราะดินอันแปลกประหลาดนี้ช่างน่าเกรงขามอย่างที่คาดไว้!’
ดวงตาของหญิงสาวในชุดเรียบง่ายสว่างขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้ จากนั้นจึงกระตุ้นปราณแท้ของนางอีกครั้งก่อนจะสับสันมืออันบอบบางฟันใส่พื้นผิวของโล่
ฉัวะ! ฉัวะ!
โล่ทรงกระดองเต่าสั่นสะท้านอย่างรุนแรง มวลพลังที่อยู่ภายในยันต์เหือดแห้งลงใกล้จะพังทลาย
‘สามารถต้านทานสองในสิบส่วนของความแข็งแกร่งของข้าได้เชียวหรือ? ยันต์พื้นฐานเช่นนี้เพียงพอแล้วที่จะเทียบเท่ากับยันต์ระดับสอง!’
หญิงสาวดูงุนงง จากนั้นความตื่นเต้นก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนางก่อนจะพลันทุบโล่ทรงกระดองเต่าจนแหลกสลาย ก่อนจะก้าวไปที่หน้าโต๊ะเก็บเงินและกล่าวว่า “เจ้าของร้าน ข้าต้องการยันต์เกราะดินเหล่านี้ทั้งหมด!”
จางต้าหยงรู้สึกตกตะลึงอยู่เนิ่นนานจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันตรงหน้า และเขาก็ได้สติด้วยตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แต่เขาพลันลังเลและนิ่งเงียบ
จากการทดสอบของหญิงสาวก่อนหน้านี้ เขาจึงเข้าใจแล้วว่า ยันต์เกราะดินที่เฉินซีสร้างขึ้นในครั้งนี้มีพลังที่เหนือชั้นกว่าปกติมาก ถึงขั้นเทียบได้กับระดับสอง อย่างไรก็ตามยันต์เยี่ยงนี้ราคา… มันควรจะเพิ่มขึ้นสักเล็กน้อยใช่หรือไม่?
หญิงสาวในชุดเรียบง่ายขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เจ้าของร้าน ท่านอย่าคิดเกี่ยงเรื่องราคา อย่างมากที่สุด ข้าจะให้ศิลาวิญญาณแก่ท่านหนึ่งก้อนสำหรับยันต์เกราะดิน”
จางต้าหยงไม่ได้พยายามปกปิดเมื่อความคิดของเขาถูกมองออก และยิ้มแย้มตอบ “แม่นางข้าสามารถขายยันต์เกราะดินนี้ให้แก่ท่านได้ แต่ข้าไม่สามารถขายให้ได้ทั้งหมด ยันต์เกราะดินที่อยู่เบื้องหน้าพวกเรานี้ไม่ต่างจากปาฏิหาริย์ โครงสร้างใหม่ของสัญลักษณ์บนแผ่นยันต์นี้ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ข้าต้องเก็บมันไว้และใช้มันเพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้ร้านของข้าบ้าง!”
ยิ่งเขาพูดมากเท่าไร จางต้าหยงก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ความหวังอันไร้ที่สิ้นสุดปรากฏขึ้นในดวงตาของชายวัยกลางคน ราวกับว่าเขาได้เห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์แล้ว
หญิงสาวแค่นเสียงผ่านจมูกของนาง และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประนีประนอม ในท้ายที่สุด นางก็ได้ซื้อยันต์เกราะดินสิบห้าแผ่น เป็นราคาศิลาวิญญาณสิบห้าก้อน
“ท่านลุงจาง สิ่งที่นางกล่าวมัน… มันเรื่องจริงหรือ?” เด็กฝึกหัดสร้างยันต์เดินขึ้นไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ยันต์เกราะดินที่เฉินซีสร้างขึ้นมันไม่ได้น่าตะลึงอย่างที่นางกล่าวใช่ไหมขอรับ? ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็เป็นเพียงยันต์พื้นฐานเท่านั้น มันจะเรียกว่าปาฏิหาริย์ได้อย่างไร?”
ผู้ฝึกสร้างยันต์คนอื่น ๆ ก็พูดออกมาเช่นกัน ยันต์ที่เดิมทีไม่ต่างกับการฉ้อโกง ทันใดนั้นก็ได้กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สามารถปลุกเร้านักสร้างยันต์ทั้งมวล ชั่วขณะนั้นพวกเขารู้สึกอับอายจนอยากหาอะไรมาคลุมศีรษะเสีย
ที่สำคัญที่สุดคือ ยันต์เกราะดินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยเฉินตัวซวย ด้วยเหตุนี้ จะกล่าวถึงเจ้านั่นว่าอย่างไรดี?
จางต้าหยงกวาดสายตามองทุกคน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทุกคนคิดว่าเฉินซีเป็นตัวซวย และยังมองว่าต้อยต่ำกว่า พวกเจ้าจึงคิดว่าเขาสมควรถูกดูแคลนใช่หรือไม่?”
“เอาเป็นว่าข้าจะบอกพวกเจ้าทุกคนเช่นนี้ก็แล้วกัน ถ้าพวกเจ้ายังอยากทำงานที่นี่ต่อ อย่าให้ข้าได้ยินคำพูดที่ไม่ดีเกี่ยวกับเฉินซีอีก ไม่อย่างนั้นก็เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วไสหัวออกไปได้เลย!” เสียงของจางต้าหยงเย็นชาและเคร่งขรึมอย่างฉับพลัน
ทุกคนพลันเงียบเหมือนจักจั่นในสภาพอากาศอันหนาวเย็น แต่จางต้าหยงยังคงรู้สึกโกรธและละอายใจ เขาไม่ได้รู้สึกแย่เพราะคนเหล่านี้เท่าไหร่ แต่รู้สึกขุ่นเคืองใจที่ตัวเองเกือบจะเข้าใจเฉินซีผิดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...