บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 17

บทที่ 17 การทดสอบ
บทที่ 17 การทดสอบ

ณ ร้านอาหารนทีกระจ่าง ภายในชั้นสองของครัวทางด้านหลัง

ยามเมื่อเฉินซีและไป๋หว่านฉิงเดินเข้ามาในห้อง ผู้เฒ่าหม่า เฉียวหนานและเพ่ยเพ่ยได้รออยู่ในที่แห่งนั้นแล้ว มุมริมฝีปากของเฉียวหนานยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส ขณะที่ผิวปากอย่างมีชีวิตชีวา “หญิงงามไป๋ ไม่ได้เจอเจ้าเพียงสิบวันก็เหมือนนานนับสิบปี ข้านั้นคิดถึงเจ้ายิ่งนัก เจ้าสุขสบายดีไหม?”

เพ่ยเพ่ยกลับแสดงสีหน้าแลดูกรุ้มกริ่ม ขณะที่นางจดจ้องไปยังเฉินซีด้วยความหลงใหลและบ่นพึมพำว่า “ฮืม เฉินซีน้อย ดูเหมือนเจ้าจะหล่อเหลาดูเป็นลูกผู้ชายยิ่งขึ้นมากกว่าคราวที่แล้วที่พบเจอกัน!”

ผู้เฒ่าหม่าตีตะหลิวเหล็กในมือจนก่อเสียงดังกังวาน ขณะที่เขากระทืบเท้าและคำรามเสียงก้องราวกับฟ้าร้อง “ไม่อยากจะเชื่อว่าคนไร้ยางอายอย่างพวกเจ้าจะเป็นศิษย์น้องของข้า! บัดซบเอ๊ย พวกเจ้าทั้งคู่หุบปากไปซะ!”

เฉียวหนานและเพ่ยเพ่ยเม้มปากด้วยความขุ่นเคืองอย่างอธิบายไม่ถูก

เฉินซีเคยประสบกับเหตุการณ์เยี่ยงนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจกับฉากที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกผิดแปลกกับการกระทำของหญิงสาวที่บอบบางและมีเสน่ห์เยี่ยงเพ่ยเพ่ย เขาจึงครุ่นคิดในใจว่า ‘เมื่อผู้เฒ่าหม่ากลายเป็นอาจารย์ของข้า ท่านย่อมเป็นอาจารย์อา เหตุใดถึงไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจยามเมื่อท่านกล่าวสิ่งใด?’

“ข้าคิดว่าเจ้าได้เรียนรู้คัมภีร์ประกอบอาหารขั้นสุดยอดและบันทึกของเปลวเพลิงวิญญาณอย่างถ่องแท้เปรียบดั่งหลังมือของเจ้าภายในระยะเวลาสิบวันที่ผ่านมา ดังนั้นข้าจะถามคำถาม หากเจ้าตอบได้ ข้าจะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ ถ้าตอบไม่ได้ก็รีบไสหัวออกไปซะ จะได้ไม่เป็นการเสียเวลาแก่กัน!” การแสดงออกของผู้เฒ่าหม่าเริ่มจริงจัง จากนั้นเขาเริ่มทดสอบสิ่งที่เฉินซีเรียนรู้ตลอดสิบวันที่ผ่านมา

เฉินซีพยักหน้ารับด้วยท่าทีอันสงบ ในช่วงสิบวันที่ผ่านมานี้ จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าจากการเฝ้ามองรูปปั้นเทพเจ้าฝูซี ด้วยเหตุนี้เอง ชายหนุ่มจึงเข้าใจถึงความกว้างใหญ่ไพศาลดั่งมหาสมุทรของคัมภีร์ประกอบอาหารขั้นสุดยอดและบันทึกของเปลวเพลิงวิญญาณภายในระยะเวลาอันสั้น

เฉินซีมั่นใจว่าตราบใดที่คำถามมาจากภายในตำราสองเล่มนี้ เขาจะไม่ทำผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย!

คำถามของผู้เฒ่าหม่าที่ถูกตั้งขึ้นมีเพียงสองคำถามเท่านั้น คำถามแรก ‘ธารสายรุ้ง’! สิ่งนี้คือชื่ออาหารที่มีเพียงพ่อครัววิญญาณระดับ 5 ใบไม้เท่านั้นที่สามารถปรุงได้ เนื่องจากส่วนผสมและเปลวเพลิงจิตวิญญาณที่ต้องใช้มีข้อกำหนดเฉพาะ อาหารจานนี้จึงมักจัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผู้บ่มเพาะขอบเขตแก่นทองคำ

อย่างไรก็ตาม ภายในคัมภีร์ประกอบอาหารขั้นสุดยอด การจัดอันดับของธารสายรุ้งท่ามกลางบรรดาอาหารมากมาย ระดับของมันนับว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับอาหารจานอื่น ๆ สำหรับผู้บ่มเพาะขอบเขตแก่นทองคำ อีกทั้งธารสายรุ้งยังเป็นหนึ่งในอาหารที่มีกระบวนการทำยากลำบากที่สุด แค่เฉพาะส่วนผสมต่าง ๆ ที่ถูกใช้ยังมีมากกว่าร้อยชนิดและขั้นตอนในการปรุงก็สูงถึงหลักพัน หากไม่จำเป็นพ่อครัววิญญาณระดับ 5 ใบไม้มักที่จะไม่ยินยอมทำอาหารจานนี้ ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่แสดงความสนใจต่อธารสายรุ้ง

ตราบที่ผู้เฒ่าหม่ากังวล ถ้าเฉินซีเชี่ยวชาญคัมภีร์ประกอบอาหารขั้นสุดยอดอย่างถ่องแท้ การใช้ธารสายรุ้งเพื่อทดสอบเขาก็เหมาะสมอย่างยิ่ง

“ในหมู่พวกเราทั้งสามคน มีเพียงข้าเท่านั้นที่จำขั้นตอนในการปรุงอาหารจานนี้ได้แม้ว่าเจ้าเด็กนี้จะฉลาดเป็นกรด แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะเทียบเคียงกับข้า อย่างมากก็พอที่จะเทียบได้กับศิษย์พี่และศิษย์น้องหญิงเท่านั้น ท่านไม่คิดว่ามันยากเกินไปสำหรับเขาหรือ?” เฉียวหนานกล่าวท้วงอย่างเคารพแทนเฉินซี แต่คำกล่าวของเขาเต็มไปด้วยการยกย่องตนเอง เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้หาใช่คนดีโดยแท้จริง

“ใช่แล้วศิษย์พี่ ท่านคงไม่คิดอิจฉาที่น้องชายเฉินซีดูหล่อเหลากว่าจนใช้วิธีเยี่ยงนี้เพื่อบีบบังคับไล่เขาไปให้พ้นทางใช่หรือไม่? ข้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของท่านจริง ๆ” เพ่ยเพ่ยกลอกตาและเริ่มใช้วิธีของนางเองเพื่อทักท้วงแทนเฉินซี

เส้นเลือดบนหน้าผากของผู้เฒ่าหม่าปูดขึ้นมาขณะที่เขากัดฟันและตะโกนลั่นว่า “หุบปาก! อีกคนเป็นพวกหลงตัวเองและอีกคนก็ลุ่มหลงในชายหนุ่ม! พวกเจ้าทั้งสองมีคุณสมบัติอะไรจะมาสั่งสอนข้า? ข้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่ คำกล่าวของข้านั้นถือเป็นที่สิ้นสุด!”

เฉียวหนานและเพ่ยเพ่ยได้แต่นิ่งเงียบอย่างหมดหนทาง และยอมจำนนต่ออำนาจอันเด็ดขาดของผู้เฒ่าหม่า

“มันคงไม่เป็นปัญหากระมัง?” แม้ว่าไป๋หว่านฉิงจะไม่ทราบถึงระดับความยากของธารสายรุ้ง แต่จากพฤติกรรมของเฉียวหนานและเพ่ยเพ่ย นางก็สามารถคาดเดาความยากของมันได้อย่างคร่าว ๆ

นางอดไม่ได้ที่จะวิตกกังวลขณะที่นางจ้องมองไปยังเฉินซี และหญิงสาวก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าแก่ตัวเหม็นคนนี้ จงใจทำให้เฉินซีประสบความยากลำบากจริง ๆ?

เฉินซีพยักหน้ารับไป๋หว่านฉิง จากนั้นเรียบเรียงทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ และกล่าวอย่างไม่ลังเลว่า “ธารสายรุ้งนั้นทำขึ้นมาจากรากก้นหอยคราม หยาดของพวงกระวาน ผลเถาวัลย์สีม่วงเก้ากลีบ ก้านเกสรหนวดมังกร…”

เฉินซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอันสงบนิ่ง ถ้อยคำได้ผ่านเข้าสู่โสตของทุกคนที่เข้าร่วมอย่างชัดเจน

“ส่วนผสมนับร้อยรายการนี้ มีคุณสมบัติที่ประกอบด้วยธาตุทั้งห้า รวมไปถึงหยินและหยาง พวกมันจะต้องถูกหั่นเป็นเส้นที่มีสภาพพอเหมาะดั่งเส้นไหม และนี่เป็นขั้นตอนแรก ขั้นตอนที่สองคือการใช้น้ำจากหินย้อยอายุหมื่นปีมาเตรียมไว้ ก่อนจะคัดแยกส่วนผสมทั้งหลายตามคุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อนำไปแช่และบ่มในน้ำของหินย้อยอายุหมื่นปีจนถึงจุดที่เส้นไหมเรียบราวกับสายน้ำและยืดหยุ่นเหมือนเส้นเอ็น จากนั้นใช้เปลวไฟจิตวิญญาณพฤกษาคราม เปลวไฟจิตวิญญาณสายน้ำที่สิบ เปลวไฟจิตวิญญาณเพลิงแดงเข้ม…”

ใช้เวลาเพียงไม่นานเฉินซีได้กล่าวถึงส่วนผสมเกือบร้อยรายการที่มีคุณลักษณะต่างๆ แล้วจึงเริ่มกล่าวถึงวิธีการจัดการส่วนผสม ไป๋หว่านฉิงฟังแล้วก็ไม่เข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้ แต่นางเห็นชัดเจนว่าตลอดรายชื่อของส่วนผสมที่เฉินซีกล่าวออกมา การแสดงออกของผู้เฒ่าหม่าและคนอื่น ๆ ก็เริ่มจริงจัง ดวงตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นร่องรอยของความประหลาดใจ

นางอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และความรู้สึกภาคภูมิใจที่มีต่อตัวเฉินซีก็ผุดขึ้นในใจนางมากยิ่งขึ้น

“โอ้ ความจำของเจ้าเด็กคนนี้ไม่เลวเลย ในไม่ช้าเขาจะตามข้าทันในเร็ววันแน่” เฉียวหนานตกใจเมื่อเขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีร่องรอยของความผิดปกติ

“เป็นไปไม่ได้! ตอนนี้เจ้ายังกล้าเหลวไหลอยู่อีก? เท่าที่ข้าจำได้ว่า กว่าที่เจ้าจะจำขั้นตอนทั้งหมดของธารสายรุ้งได้ เจ้าเคยจำผิดมากกว่าสิบครั้ง กลับกันน้องชายเฉินซีไม่ได้กล่าวผิดพลาดเลยทั้ง ๆ ที่เพิ่งศึกษามัน!” เพ่ยเพ่ยเปิดเผยเขาอย่างไม่ลดละ

ความอับอายปรากฏบนใบหน้าของเฉียวหนาน จากนั้นใบหน้าของเขาก็มืดมนลง “จริง ๆ แล้วข้าจำมันได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่แรกแล้วแต่เป็นเพราะข้าหวังดีไม่อยากทำให้เจ้าและศิษย์พี่ใหญ่เสียหน้าต่างหาก ดังนั้นข้าก็เลยตั้งใจ…”

“หุบปากซะ!” ผู้เฒ่าหม่าตวาดลั่นและขัดจังหวะ “ข้าจะรับลูกศิษย์ ไม่ได้มาฟังเจ้ายกยอตัวเอง!”

เฉียวหนานถอนหายใจเบา ๆ แล้วลูบคางของเขาอย่างไม่เร่งรีบ สีหน้าของเขายังคงเยือกเย็นกับฉากที่เห็น แต่ในใจเขากลับร้อนรุ่มมิอาจอดทน เขาหงุดหงิดและโกรธเคืองก่อนจะถากถางว่า “เจ้าเด็กน้อย รีบทำผิดพลาดซะ ไม่เช่นนั้นภาพลักษณ์ที่น่านับถือและมีความสามารถของข้าจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แล้วข้าจะมีหน้าไปเสวนากับหญิงงามในอนาคตได้อย่างไร…?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]