บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 18

บทที่ 18 ตู้ชิงซี
บทที่ 18 ตู้ชิงซี

ทันทีที่หญิงสาวนางนี้ก้าวเข้ามา ห้องก็พลันเงียบทันใด และแม้แต่เฉียวหนานผู้หลงตัวเองและเพ่ยเพ่ยผู้คลั่งไคล้ในชายหนุ่ม ก็ได้แต่ปิดปากเงียบ

เฉินซีเงยหน้าขึ้น และก็พบกับหญิงสาวนางหนึ่งในชุดสีดำ ที่มีรูปร่างสูงและสัดส่วนดีเลิศยืนเด่นในระยะสายตา หญิงสาวนางนี้สง่างามราวกับภาพเขียน นางมีริมฝีปากสีแดงดั่งลูกเชอร์รี่ จมูกที่สวยเข้ารูป และผิวที่ขาวราวกับหิมะ เมื่อมองจากระยะไกล นางดูเหมือนดอกโบตั๋นสีดำที่บานสะพรั่งอยู่ห่างไกลอย่างหยิ่งทะนง เผยให้เห็นถึงความรู้สึกเย็นยะเยือกอันเป็นเอกลักษณ์

“นางผู้นี้คือตู้ชิงซี ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารนทีกระจ่าง นางมักจะอาศัยอย่างสันโดษไม่ค่อยมีผู้ใดพบเห็นเนื่องจากนางมักจะปิดด่านบ่มเพาะเกือบตลอดเวลาและไม่ค่อยเข้ามาในร้านอาหาร ที่มาของนางค่อนข้างลึกลับและไม่มีใครล่วงรู้ถึงความแข็งแกร่งของนาง แม้แต่ท่านแม่ทัพฉินแห่งจวนแม่ทัพ ก็ยังต้องสุภาพและให้เกียรติแก่นางด้วย” เสียงของไป๋หว่านฉิงที่อ่อนโยนและน่าฟังผ่านเข้าสู่หูของเฉินซีอย่างแผ่วเบา และเฉินซีก็เข้าใจตัวตนของหญิงสาวที่เพิ่งปรากฏกายตรงหน้าเขา ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ ความสามารถของสตรีนางนี้ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง เนื่องจากนางสามารถดูแลร้านอาหารอันดับหนึ่งในเมืองหมอกสนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

หลังจากที่ตู้ชิงซีก้าวเดินเข้ามาภายในห้อง นางเมินเฉยต่อคนอื่น ๆ และเหลือบมองเฉินซีอย่างลับ ๆ ก่อนที่จะจ้องมองไปยังผู้เฒ่าหม่าขณะที่นางกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ศิษย์ที่เจ้าได้รับคัดเลือกจะได้รับศิลาวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนต่อวันและวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการฝึกศิลปะการทำอาหารของเขาจะไม่มีการจำกัด แต่เขาต้องทำสัญญากับข้าเป็นเวลาสามปีและรับประกันว่าจะทำงานในร้านอาหารนทีกระจ่างแต่เพียงแห่งเดียวในช่วงเวลาสามปีนับจากนี้ ข้อเสนอเยี่ยงนี้นับว่าเป็นอย่างไรบ้าง” น้ำเสียงของนางดูเยือกเย็น และมันเผยให้เห็นถึงความรู้สึกอันไร้ข้อกังขา

ผู้เฒ่าหม่าส่ายหัว “ข้าเพียงแค่ถ่ายทอดศิลปะการทำอาหาร ท่านต้องปรึกษาเรื่องสัญญากับเด็กคนนี้เอง”

ตู้ชิงซีขมวดคิ้วขณะที่นางมองไปยังเฉินซี และกล่าวช้า ๆ ว่า “เจ้าคงได้ยินเงื่อนไขของข้าอย่างชัดเจน การจะลงนามตกลงทำสัญญาทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเจ้า”

ว่ากันตามจริง เงื่อนไขเหล่านี้เกินความคาดหมายของเฉินซียิ่งนัก ในตอนแรกเขาคิดว่าจะได้รับศิลาวิญญาณสักยี่สิบถึงสามสิบก้อน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตู้ชิงซีจะให้ค่าตอบแทนแก่เขาถึงศิลาวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนต่อวัน จึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก

เฉินซีไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆ อยู่ชั่วครู่ ก่อนตัดสินใจและตอบกลับว่า “ข้ายินดีตกลงทำงานที่ร้านอาหารนทีกระจ่าง แต่ข้าไม่อาจรับประกันช่วงเวลาได้ว่าจะนานเพียงใด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ข้ารับรองได้ก็คือตราบใดที่ข้ายังอยู่ในเมืองหมอกสน ข้าจะไม่ทำงานในร้านอาหารอื่นอีก”

เขาเลือกเหตุผลนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินใด ๆ ที่อาจเผชิญในภายภาคหน้า เนื่องจากเขาต้องแบกรับสิ่งต่าง ๆ บนบ่ามากเกินไป และไม่อาจรับประกันได้อย่างเต็มที่ว่าเขาจะสามารถเป็นพ่อครัววิญญาณฝึกหัดภายในระยะเวลาสามปี ตลอดเวลาที่เขาทำงานที่ร้านอาหารนทีกระจ่าง

ตู้ชิงซีรู้สึกประหลาดใจนัก และไม่เคยคาดคิดว่าเฉินซีจะกล้าเจรจากับนาง หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางจึงพยักหน้าอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า “หวังว่าเจ้าจะทำตามสัญญา!”

นางหันหลังและจากไปทันทีหลังจากที่กล่าวจบ การกระทำของนางนับว่าเด็ดขาดปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย

เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ นับตั้งแต่ตู้ชิงซีเดินเข้ามาและออกจากห้องไป แต่ความยิ่งใหญ่ของการปรากฏตัวของนางและความเด็ดขาดในคำพูดก็แสดงออกอย่างชัดเจน นางเปรียบเสมือนราชินีที่ยืนอยู่เหนือฝูงชนขณะที่ออกตรวจตราดินแดนของนาง ทำให้ผู้คนรู้สึกยอมจำนนโดยไม่รู้ตัว

แต่ทั้งหมดนี้มีผลเพียงเล็กน้อยต่อเฉินซี เนื่องจากเขาได้กลายเป็นพ่อครัววิญญาณฝึกหัดที่ได้รับค่าตอบแทนเป็นศิลาวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนต่อวัน ดังนั้นเขาจึงมีความสุขอย่างยิ่งและจิตใจของเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกตู้ชิงซีครอบงำแต่อย่างไร

“คุณหนู ข้าได้ตรวจสอบเสร็จแล้ว นี่คือข้อมูลโดยละเอียดของเฉินซี” อู๋เฟิงแสดงความเคารพและยื่นแผ่นกระดาษให้

ตั้งแต่ตู้ชิงซีเกิดมา อู๋เฟิงถูกจัดให้เป็นดั่งเงาที่คอยเฝ้าอารักขานาง

“เฉินซีเดิมทีนั้นเป็นลูกของลูกชายคนโตของตระกูลเฉินแห่งเมืองหมอกสน…”

แผ่นกระดาษได้บันทึกทุกอย่างเกี่ยวกับเฉินซีไว้อย่างละเอียด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนบัดนี้ล้วนปรากฏบนกระดาษแผ่นบาง

หลังจากที่ตู้ชิงซีอ่านจนจบ ร่องรอยของความประหลาดใจที่หาดูได้ยากก็ปรากฎขึ้นในดวงตาแสนเย็นชาของนาง “ตระกูลถูกทำลาย พ่อแม่พลัดพราก สัญญาหมั้นถูกฉีกสะบั้น ปู่ถูกฆ่า… คนผู้นี้ช่างโชคร้ายเสียจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจที่คนอื่นเรียกเขาว่าตัวอัปมงคล”

อู๋เฟิงขมวดคิ้ว “คุณหนูเพราะท่านรู้สึกสงสารเขาถึงได้ให้เงื่อนไขอันเอื้อเฟื้อแก่เขาหรอกหรือ? วัตถุดิบเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มูลค่าสูง การที่ให้เขาไปเยี่ยงนี้… ไม่ใจดีเกินไปหรือ?”

ตู้ชิงซีกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ตราบใดที่เขาสามารถเรียนรู้ศิลปะการทำอาหารของผู้เฒ่าหม่าได้หนึ่งในสิบส่วนก่อนที่บททดสอบของดินแดนรกร้างใต้พิภพจะเปิดขึ้น มันจะนับว่าสิ้นเปลืองวัตถุดิบได้อย่างไร”

ดูเหมือนว่าอู๋เฟิงจะตระหนักถึงบางสิ่งได้ ในขณะที่เขาอุทานด้วยความตกใจ “คุณหนู ท่านอยากจะไปที่ดินแดนรกร้างใต้พิภพจริง ๆ หรือ?”

ตู้ชิงซีกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “แน่นอน ข้าได้รับเม็ดยาผนึกแก่นแท้แล้ว ดังนั้นการลดระดับบ่มเพาะของข้าไปสู่ขอบเขตก่อกำเนิดจึงไม่เป็นปัญหา แต่อย่างที่เจ้ารู้ ปราณวิญญาณในดินแดนรกร้างใต้พิภพได้เหือดแห้งไปเนิ่นนานและถูกแทนที่ด้วยปราณชั่วร้ายหนาแน่น ถ้าข้าไม่ได้ไปพร้อมกับพ่อครัววิญญาณ การใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นสามปีมันจะยากลำบากแสนเข็ญและมีแต่เพียงรอความตายเท่านั้น”

อู๋เฟิงประหลาดใจ “เหตุใดถึงสามปี? โดยปกติเมื่อบททดสอบของดินแดนรกร้างใต้พิภพเปิดขึ้น มันมักจะปิดภายในสามเดือน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในภายหน้า?”

ตู้ชิงซีชำเลืองมองอู๋เฟิงอย่างเย็นชาอยู่สักพัก จากนั้นจึงกล่าวขึ้น “เรื่องนี้ได้รับฟังจากท่านพ่อโดยตรง แน่ใจหรือว่าเจ้าอยากรู้?”

ดูเหมือนว่าอู๋เฟิงจะนึกถึงบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว พลันตัวสั่นอย่างรุนแรง จากนั้นจึงรีบส่ายหัว “ข้ารับใช้ผู้นี้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณหนูเพียงเท่านั้น และไม่มีเจตนาที่จะละเมิดแต่อย่างใด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]