บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 19

บทที่ 19 ห้องอันเงียบสงัด
บทที่ 19 ห้องอันเงียบสงัด

“ข้าวรัญจวนแปดสมบัติ มังกรม้วนตุ๋นในน้ำราดสีน้ำตาล หมึกแมงป่องวิญญาณผัดแห้ง แกงตุ๋นใยไหมคราม…”

ศิลปะการทำอาหารของผู้เฒ่าหม่ามีระดับที่ไม่ธรรมดา ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เขาก็ได้ปรุงอาหารแสนอร่อยอีกถึงสิบสามรายการ

เฉินซีรู้สึกมีความสุขอย่างขีดสุด ความสุขที่เขาไม่เคยรู้สึกตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จานต่อจานของอาหารอันโอชะที่เขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อนในชีวิต พวกมันไม่เพียงแต่ทำให้สัมผัสทั้งหกของเขาได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด แต่ปราณวิญญาณที่บริสุทธิ์และหนาแน่นที่บรรจุอยู่ภายในจานเหล่านั้น เป็นเหมือนสายฝนหลังจากความแห้งแล้งขณะที่พวกมันรวมตัวกันภายในตันเถียนของเขา ผ่านไปไม่นานมันก็ค่อย ๆ ควบแน่นเป็นเมฆม่วงก้อนที่สี่ในตันเถียน!

ทุกครั้งที่เพิ่มระดับของขอบเขตก่อกำเนิด เมฆสีม่วงที่ควบแน่นจากปราณแท้จะปรากฏขึ้นภายในตันเถียน ซึ่งเรียกว่าบันไดเมฆาแห่งรากฐาน มันจะถูกสร้างต่อไปจนกระทั่งเกิดเมฆเก้าก้อน จากนั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นตำหนักอินทนิล หรือก็คือกลายเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลผู้ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นอมตะอย่างเป็นทางการ

เฉินซีได้หยุดนิ่งอยู่ที่ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสามเป็นเวลาห้าปีแล้ว ซึ่งไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ของเขาด้อยแต่อย่างใด ทว่าเนื่องจากจี้แม่กุญแจอายุยืนที่แม่ของเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มันได้ดูดซับปราณแท้ภายในร่างกายของเขาอย่างเงียบ ๆ และสั่งสมปราณแท้จนเต็มจี้แม่กุญแจอายุยืน เมื่อมันแตกสลายจึงเผยให้เห็นจี้หยกภายในและนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พันธนาการที่เคยรั้งให้ชายหนุ่มไม่ก้าวหน้าในเส้นทางการบ่มเพาะจึงสลายหายไป

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ที่เขาไม่มีศิลาวิญญาณเพียงพอหรือโอสถต่าง ๆ ไว้บ่มเพาะ ความก้าวหน้าในการฝึกฝนของชายหนุ่มจึงช้ามาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการกินอาหารมากกว่าสิบจานจะทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาทะลวงระดับได้อีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้เฉินซีรู้สึกประหลาดใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีความสุข เฉินซีก็รู้สึกว่าเป็นการทรมานทุกครั้งที่ผู้เฒ่าหม่าปรุงอาหารแสนอร่อย กลิ่นหอมหวนนั้นทำให้เขาหยุดไม่ได้แม้ว่าเขาต้องการจะทำ และความตั้งใจเดิมของชายหนุ่มที่จะชิมเพียงคำเล็ก ๆ นั้นกลับกลายเป็นการเพิกเฉยต่อกิริยาอันดีงามอย่างสิ้นเชิง เขากระทั่งเกือบจะเลียจานด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกละอายมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนละโมบซึ่งไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจได้

ผู้เฒ่าหม่าสับสนกับการกินของเฉินซีเช่นกัน เขามองไปยังจานหยกสิบสี่ใบอันว่างเปล่าด้วยสายตายากจะเชื่อ และพึมพำด้วยภาวะขาดสติ “บ้าเอ๊ย! นี่ท้องของเจ้าเป็นเหวลึกรึไง? เหตุใดลูกศิษย์ที่ข้ารับมานั้นช่าง… แปลกประหลาดขนาดนี้!”

เฉินซีรู้สึกละอายมากขึ้นในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าตายด้านของเขาที่ถูกเยาะเย้ยเสมอว่าไร้อารมณ์ขณะนี้แดงก่ำอย่างหายาก

เขารู้สึกว่ามันแปลกมากเช่นกัน หลังจากสวาปามทั้งหมดสิบสี่จาน ไม่เพียงแต่เขาจะไม่รู้สึกอิ่ม แต่กลับมีความอยากที่จะกินอาหารมากขึ้นแทนเสียอย่างนั้น

“ไอ้ตัวประหลาด! เหตุใดเจ้าประพฤติตัวเหมือนไอ้พวกไพร่ที่ฝักใฝ่ในการขัดเกลาร่างกาย เจ้ามันตะกละโดยสมบูรณ์!” ผู้เฒ่าหม่าตวาดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำเหล่านี้ เฉินซีก็ตระหนักได้ถึงปัญหาหนึ่งในใจ ดูเหมือนว่า… ตั้งแต่เขาฝึกฝนวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพ เขาก็ไม่เคยรู้สึกอิ่ม นี่อาจเป็นเหตุผลก็ได้?

เฉินซีตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเองอย่างถี่ถ้วน เขารู้สึกราวกับว่าเนื้อ เลือด และผิวหนังของเขาเต็มไปด้วยพลังที่ไร้ขอบเขต แม้แต่กระดูกของเขาก็ดูเบาลงและร่างกายของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยพละกำลังอันมหาศาล

ในเวลานี้ เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าอาหารเหล่านี้ที่อุดมไปด้วยปราณวิญญาณ ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อผู้ฝึกฝนปราณภายในเท่านั้น แต่ยังสามารถก่อให้เกิดผลการบำรุงที่ดีมากต่อร่างกายของผู้ขัดเกลาร่างกาย!

ผู้เฒ่าหม่ารู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นเฉินซีแสดงสีหน้าอับอายกระอักกระอ่วน เขาหยุดตำหนิเพื่อไม่ทำให้เฉินซีอับอายอีกต่อไป และเอ่ยถามเรื่องอื่นแทน “ในบรรดาวิธีการทำอาหารทั้งสิบสี่วิธี เจ้าจำวิธีการทำอาหารได้กี่วิธี?”

การเปลี่ยนเรื่องพูดเป็นเกี่ยวกับการทำอาหารทำให้สีหน้าของเฉินซีกลับมาเป็นปกติ จากนั้นเขาไตร่ตรองและพูดว่า “ข้าเกือบจะจำได้ทั้งหมดแล้วขอรับ”

“จริงรึ?” ดวงตาของผู้เฒ่าหม่าเบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน

เฉินซีครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง

ทว่าผู้เฒ่าหม่ากลับไม่เชื่อ และชี้ไปยังเตา “เจ้าไปทำอาหารซะ เอ่อ… ทำหมึกแมงป่องวิญญาณผัดแห้งก็แล้วกัน”

“ได้ขอรับ!” เฉินซีตอบรับอย่างว่าง่าย จากนั้นเขาก็เดินไปที่หน้าเตาทันที แล้วเริ่มลงมือทำอาหารตามตำราที่เขาอ่านมาทีละขั้นตอน

ทำความสะอาดและตัดหมึกแมงป่อง ผสมเครื่องปรุง ควบคุมเปลวไฟวิญญาณ…

ผู้เฒ่าหม่าจ้องมองไปที่วิธีการปรุงอาหารอย่างเป็นขั้นตอนของเฉินซี สีหน้าที่สงสัยของเขาในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นประหลาดใจเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาเห็นเฉินซีบังคับปราณแท้เพื่อดึงตะหลิวเหล็กเข้าสู่มือ จากนั้นจึงควบคุมตะหลิวเหล็กและกระทะเหล็กด้วยความแม่นยำและสมดุล

เห็นภาพนี้สายตาของผู้เฒ่าหม่าเปลี่ยนไปเป็นความตกใจอย่างสมบูรณ์

ขั้นตอนก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด!

ผู้เฒ่าหม่าอดไม่ได้ที่จะลอบพูดในใจว่า ‘ครั้งแรกเมื่อตอนข้าเริ่มเรียนรู้ศิลปะการทำอาหาร ข้าล้มเหลวมากกว่าสิบครั้งก่อนที่จะไปถึงระดับที่ไอ้เด็กนี่เป็นอยู่ในตอนนี้ เป็นไปได้ไหมที่ข้าโชคดีได้ศิษย์อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์อันน่าตื่นตะลึงในเต๋าแห่งการทำอาหาร?’

หัวใจของเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงตรงนี้ ‘บางที… เป้าหมายที่ข้าไม่สามารถบรรลุได้อาจเป็นไปได้โดยเจ้าเด็กคนนี้’

หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งธูปไหม้ หมึกแมงป่องวิญญาณผัดแห้งที่มีเนื้อกรอบชวนน้ำลายสอก็ออกมาจากกระทะ

ผู้เฒ่าหม่ารีบเดินเข้ามาหาอย่างไม่อดทน จากนั้นหยิบหมึกแมงป่องอันแวววาวไปด้วยน้ำซอสขึ้นมา แล้วยัดเข้าไปในปากของเขา ชายแก่ตกอยู่ในภวังค์หลังจากเคี้ยวช้า ๆ ครู่หนึ่ง รสชาติและระดับของปราณวิญญาณบริสุทธิ์… มันเท่ากับที่เขาปรุง!

ทางด้านของเฉินซีอดไม่ได้ที่จะขัดใจขณะที่เขาทำอาหารเมื่อครู่นี้ มีหลายครั้งที่เขาเกือบจะไม่สามารถควบคุมจังหวะของเปลวไฟวิญญาณได้ โชคดีที่สมาธิของเขามั่นคงและแน่วแน่ เขาจึงสามารถผ่านพ้นไปได้โดยไร้การผิดพลาดและสำเร็จได้ในที่สุด

“ข้าตั้งใจจะเปลี่ยนวิธีการสอนศิลปะการทำอาหารแก่เจ้า” ผ่านไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนผู้เฒ่าหม่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และเขาพูดช้า ๆ ว่า “การทำอาหารตามสูตรที่มีอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเจ้า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้เริ่มทำอาหารของเจ้าเองเสีย!”

เฉินซีตกใจ “เช่นนั้นข้าควรทำอย่างไร?”

“มันเรียบง่ายมาก ใช้ส่วนผสมพื้นฐานหนึ่งพันสามร้อยแปดอย่างปรุงอาหารของเจ้าเองตามคุณลักษณะของพวกมัน”

ผู้เฒ่าหม่าพูดอย่างเฉยเมยว่า “ตราบใดที่เจ้าสามารถทำให้อาหารที่เจ้าปรุงมีทั้งกลิ่นหอม รสชาติที่ยอดเยี่ยมและแฝงไปด้วยปราณวิญญาณถึงระดับที่เหมาะสม เจ้าจะถือว่าได้กลายเป็นพ่อครัววิญญาณระดับ 1 ใบไม้ที่แท้จริง!”

เฉินซีรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมเล็กน้อย เขาเพิ่งจะเป็นพ่อครัววิญญาณฝึกหัดและจดจำตำราเพียงสองเล่มเท่านั้น คือ คัมภีร์เคล็ดลับประกอบอาหารขั้นสุดยอดพร้อมภาพประกอบ และสารานุกรมเพลิงวิญญาณ ส่วนอาหารที่เขาทำได้ตอนนี้มีเพียงแค่สิบสี่อย่างซึ่งเป็นสูตรตายตัวที่มีคนคิดค้นขึ้นมาอยู่แล้ว เขาจึงไม่มีพื้นฐานอื่นอีกเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]