บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1617

บทที่ 1617 ถูกบดขยี้

…………….

บทที่ 1617 ถูกบดขยี้

ในพื้นที่ล่าแห่งนี้ เฉินซียังคงมีท่าทีไร้กังวลเมื่อเสวียนท่าจื่อใช้ความตายข่มขู่ และเขารู้ว่าอีกฝ่ายนั่นเสียสติจากความโกรธ

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ทำไมข้าถึงไม่ฆ่าเจ้า มันไม่ใช่เพราะข้ากลัว ข้าแค่อยากให้เจ้าได้ลิ้มรสความรู้สึกอับอายจากการถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี” เฉินซียิ้มพลางกล่าวอย่างไร้กังวล

สีหน้าของเสวียนท่าจื่อยิ่งมืดมนยิ่งขึ้น พลันขบฟันแน่นตะโกนว่า “อย่าริบังอาจ! แม้เจ้าจะรอดออกจากพื้นที่ล่านี้ได้ แต่อย่าได้หวังจะมีอยู่ชีวิตอยู่หลังจากที่ล่วงเกินข้าแล้ว!”

ความหมายที่อยู่เบื้องหลังวาจานี้ คือเขาจะตามล่าเฉินซีไปจนตาย

เฉินซีมีสีหน้าไม่แยแสและกล่าวว่า “โอ้”

ชายหนุ่มไม่อยากเสียเวลากับเสวียนท่าจื่ออีก เพราะตลอดเส้นทางแห่งการเข่นฆ่า คำขู่เช่นนี้ก็ลอยเข้าหูมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วเขาจะจริงจังกับมันได้อย่างไร?

ครืน!

นั่นเป็นเหมือนการเยาะเย้ยที่รุนแรงที่สุดซึ่งทำให้เสวียนท่าจื่อไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เขากำง้าวด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วพลิกตวัดฟันออกไปอย่างฉับพลัน ทำให้รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ซึ่งดูเหมือนกำลังจะผ่าโลกออกเป็นสองส่วน!

ชั่วขณะหนึ่ง เงาง้าวทับซ้อนกันเต็มผืนฟ้า และร่างของเทพอสูรก็ปรากฏกายขึ้น พวกมันกำลังสวดภาวนา และแผ่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างความหวาดกลัวในหัวใจ ส่งผลให้การโจมตีครั้งนี้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้น

ในระยะไกล หัวใจของเถี่ยอวิ๋นผิงเต้นอย่างรุนแรงเมื่อเห็นฉากนี้ และคลื่นความหนาวเย็นก็กลืนกินร่างกายของนาง ไยพลังยุทธ์ของเสวียนท่าจื่อถึงดูแข็งแกร่งกว่าเดิมนัก มันประหลาดเกินไปแล้ว..

ฟิ่ว!

ร่างของเฉินซีก็ขยับในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มสืบเท้าก้าวผ่านอวกาศอย่างต่อเนื่อง และปะทะกับการโจมตีของเสวียนท่าจื่อด้วยการชกกำปั้นเข้าหามัน

ครืน!

กำปั้นที่ปกคลุมไปด้วยยันต์อักขระลึกลับนับไม่ถ้วนได้ปะทะเข้ากับเงาง้าวที่มีมากมายเกินคณานับ บังเกิดเป็นเสียงฟ้าร้องดังสนั่น และมันดังก้องกังวานไปทั้งสวรรค์ทั้งเก้า ในขณะที่แสงศักดิ์สิทธิ์จากการโจมตีเหล่านี้ก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ

ดูเหมือนว่าพลังงานที่เกิดขึ้นจากภายในร่างกายจะค่อนข้างผิดปกติ… หลังจากการปะทะครั้งนี้ ร่างของเฉินซีสั่นสะท้านเล็กน้อย เลือดลมปั่นป่วน ดวงตาหรี่ลง แต่กลับไม่มีทีท่าหวาดกลัวมากนัก

ส่วนเสวียนท่าจื่อทั่วทั้งร่างกายเปี่ยมล้นไปด้วยกลิ่นอายของลัทธิเต๋า สีหน้ากลับหมองคล้ำมืดมน แววตาดูเหมือนจะพลุ่งพล่านด้วยไฟโทสะที่ลุกโชติช่วง

เฉินซีต้านการโจมตีได้อีกครั้ง!

นี่คือไพ่เด็ดของเขา และเป็นพลังจากผู้อาวุโสของอารามเต๋าสัจวิญญาณ ซึ่งถูกประทับไว้ภายในร่างกาย เมื่อใดที่มันสำแดงเดช ก็เพียงพอที่จะทำให้ต่อสู้กับบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลได้ชั่วขณะหนึ่ง!

ทว่าบัดนี้ เขายังคงไม่สามารถทำอะไรกับเฉินซีได้…

สิ่งนี้ทำให้เสวียนท่าจื่อไม่อาจยอมรับ

โครม!

ทันใดนั้น เขาแผดเสียงตะโกนลั่น เหวี่ยงง้าวในมืออีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้หลอมรวมพลังให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้มันกว้างใหญ่และทรงอานุภาพราวคลื่นทะเลที่ซัดสาด

ง้าวเปล่งประกายด้วยแสงอันเรืองรอง พร้อมกับมีอักขระเต๋าอันลึกลับปรากฏขึ้น มันเรียบง่ายและหนักหน่วง แต่ดูเหมือนว่าจะพลานุภาพที่สามารถแยกฟ้าดินออกจากกันได้ ส่งผลให้มันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่พลังที่เทวาวิญญาณจะครอบครองได้

คิ้วของเฉินซีเลิกขึ้น เนื่องจากเคล็ดวิชาดังกล่าวมีความคล้ายคลึงเล็กน้อยกับเคล็ดระเบิดสังหารเทวะที่ตนมี เนื่องจากมันสามารถเพิ่มพูนพลังยุทธ์ได้ในทำนองเดียวกัน แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ของพลังที่แท้จริงของเสวียนท่าจื่อ

ฆ่า!

เสวียนท่าจื่อพุ่งเข้ามาด้วยท่าทางที่ดุร้ายยิ่งขึ้น ซึ่งดูคล้ายกับเทพยุทธ์ที่จุติลงมายังโลกมนุษย์ และพลังของง้าวในมือที่สามารถทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้

ร่างของเฉินซีเปล่งประกายและหลบเลี่ยงการปะทะนี้ จากนั้นจึงใช้วิชาศักดิ์สิทธิ์คุนเผิง ทำให้ลมและสายฟ้าเกิดขึ้นพร้อมกัน ในขณะที่หยินและหยางหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว พร้อมกับทะยานจากไปทันที

ในสายตาของเสวียนท่าจื่อ นี่เป็นเหมือนการแสดงความอ่อนแอและความกลัว

“คิดหลบการโจมตีของข้าเหรอ?” เสวียนท่าจื่อเย้ยหยัน

โครม!

การเคลื่อนไหวของเขาไม่หยุดแม้แต่น้อย และโจมตีด้วยง้าวอีกครั้ง ในชั่วพริบตาเดียว ก็ฟาดฟันออกไปนับครั้งไม่ถ้วน บังเกิดเป็นประกายแสงที่ประดับประดาท้องฟ้า ประหนึ่งดาวหางที่พุ่งผ่านอวกาศ ซึ่งขับเน้นมันให้น่ากลัวยิ่งขึ้น

ฟ้าดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ กลับถูกระเบิดออกเสี่ยง ๆ บังเกิดเป็นเหตุที่น่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลให้เสวียนท่าจื่อเสมือนเทพสงครามซึ่งไร้ผู้ต้านทาน

เฉินซีขมวดคิ้วพลางหลบอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าพลังภายในร่างเสวียนท่าจื่อไม่สามารถคงอยู่ได้นาน แต่ผลลัพธ์ก็เกินความคาดหมายนัก เพราะพลังยุทธ์ของเสวียนท่าจื่อกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ชายหนุ่มอดตะลึงไม่ได้ นี่มันพลังเช่นใดกัน?

“อะไรกัน? นี่เจ้ากลัวเหรอ? ฮึ่ม! มันสายไปแล้ว! วันนี้เจ้าต้องชดใช้ด้วยเลือดสำหรับทุกสิ่งที่ทำลงไป!” ทั่วทั้งร่างกายของเสวียนท่าจื่อเปล่งประกายเรืองรอง เส้นผมยาวสลวยไหวกระพือ ในขณะที่การโจมตีก็ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

“ดูเหมือนเจ้าจะลืมความอับอายที่ถูกเหยียบย่ำไปแล้ว เจ้าเป็นคนจำพวกลืมความเจ็บปวดเมื่อบาดแผลหายสนิท ทั้งยังประเมินความสามารถของตัวเองสูงส่งเกินไป” เฉินซียิ้มอย่างไร้กังวล

“ตายซะ!” สีหน้าของเสวียนท่าจื่อเยือกเย็นจนสุดขั้ว สายตาคมกริบดุจดาบ และง้าวในมือก็ดูเหมือนกำลังลุกไหม้จนเกิดแสงเรืองรองบนมัน

เขาไม่คิดเสียเวลาอีกต่อไป เพราะความโกรธได้พุ่งจนถึงขีดสุดจนไม่ต้องการสิ่งใดมากกว่าฉีกกระชากเฉินซีออกเป็นชิ้น ๆ ที่นี่และเดี๋ยวนี้

เฉินซีหยุดหลบเมื่อเห็นสิ่งนี้ และตระหนักดีว่าหากยังเป็นเช่นนี้อีกต่อไป เสวียนท่าจื่อก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น และเขาไม่ต้องการเสียเวลาเช่นกัน

โครม!

ในเวลาต่อมา แสงศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขตได้ปะทุออกมาจากร่างของเฉินซี และยันต์เทวะอนันต์ก็โคจรอย่างเต็มพิกัด กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากมายเปรียบเสมือนโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ห่อหุ้มร่างกายทั้งหมด จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโชนอย่างไม่มีใครเทียบก็ระเบิดออกมาจากภายใน

ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็ยื่นมือโดยฝ่าการโจมตีของเสวียนท่าจื่อ ก่อนที่จะคว้าง้าวของเสวียนท่าจื่อในกำมือ นิ้วแกร่งดุจคีมเหล็กหนีบง้าวไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นก็ถ่ายพลังลงไปอย่างฉับพลัน ทำให้สมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ เถี่ยอวิ๋นผิงก็ตกตะลึงจนร่างกายแข็งทื่อ และนางก็ไม่สามารถหาคำมาบรรยายความรู้สึกในใจได้ “ผู้อาวุโสช่างน่ากลัวยิ่งนัก และแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าง้าวนี้เป็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติอย่างแน่นอน แม้มันจะไม่ได้รับความเสียหาย แต่มันทำให้สีหน้าของเสวียนท่าจื่อเปลี่ยนไป ไม่คิดเลยว่าเฉินซีจะผิดปกติถึงขั้นกล้าคว้าอาวุธด้วยมือเปล่า!

“ไสหัวไปซะ!” เขาคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับโคจรพลังในร่างกายทั้งหมด ใส่เข้าไปในง้าวอย่างท่วมท้น

บทที่ 1617 ถูกบดขยี้ 1

บทที่ 1617 ถูกบดขยี้ 2

บทที่ 1617 ถูกบดขยี้ 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]