บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1630

สรุปบท บทที่ 1630 ผลลัพธ์: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

อ่านสรุป บทที่ 1630 ผลลัพธ์ จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บทที่ บทที่ 1630 ผลลัพธ์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย novelones อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 1630 ผลลัพธ์

…………….

บทที่ 1630 ผลลัพธ์

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการชุมนุมล่าดารา

ในวันนี้ เฉินซีไม่เสียเวลาเลยสักนิด หลังจากพาเถี่ยอวิ๋นผิงออกจากดาววิญญาณมลทินมาได้ เขาก็เหินร่างไปยังดาวดวงอื่นทันที

เทียบกับดาววิญญาณมลทินแล้ว จำนวนอสูรในดาวดวงอื่นมีน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด และส่วนมากคนอื่นก็จัดการพวกมันไปหมดแล้ว ทำให้ยิ่งหาอสูรยากไปอีก

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในระยะเวลาเหลือไม่ถึงวันคงไม่อาจตามล่าหาฝูงอสูรจำนวนมากได้อีก

ผู้เข้าแข่งขันหลายคนถึงกับหยุดล่า เอาเวลามาฟื้นฟูพลังรอการจบลงของการชุมนุมล่าดาราด้วยซ้ำ

แต่เฉินซียังไม่ยอมแพ้เท่านี้ เขาพาเถี่ยอวิ๋นผิงเคลื่อนมิติไปเรื่อย ๆ ใช้เจตจำนงคอยเสาะหาอสูรที่อยู่เพียงลำพัง

แม้จะเสียทั้งพลังและเวลามาก ทั้งยังได้อสูรจำนวนไม่มาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย สุดท้ายจำนวนน้อย ๆ ก็สะสมจนกลายเป็นมาก ในที่สุดก็กลายเป็นเห็นผล

ก็เพราะเฉินซีมีความคิดเช่นนี้ พอหยุดลงมือล่าตอนย่ำค่ำ เฉินซีจึงนับได้ว่าพวกเขาสังหารอสูรร้ายขอบเขตเทวาวิญญาณตามทางไปได้อีกกว่าร้อยตัว นับว่าเกินคาดเป็นอย่างยิ่ง

อย่างที่เขาว่ากันว่า ‘เก็บเล็กผสมน้อย’ อาจจะเหมือนพวกเขาได้ทีละนิด แต่เพราะรวมกันแล้วกลับได้มากกว่าที่คิด

เริ่มเห็นแสงสีแดงแผ่ออกจากเส้นขอบฟ้า เผยความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวออกมา

ร่างสูงของเฉินซียืนอยู่เคียงข้างเถี่ยอวิ๋นผิงอยู่ในทุ่งกว้าง ทั้งสองมองขอบฟ้าด้วยสีหน้าสงบนิ่งไปพร้อมกัน

พวกเขาแสดงฝีมือเต็มกำลังไปในการชุมนุมล่าดาราแล้ว และตอนนี้ก็ได้เวลารอดูผล

จะว่าตื่นเต้นหรือตั้งตารอก็ไม่ใช่ เพียงแต่รอให้ถึงจุดจบเท่านั้น จะได้หยุดการเดินทางนี้เสียที

ตอนนี้ไม่ใช่เพียงเฉินซีกับเถี่ยอวิ๋นผิงเท่านั้น แต่ผู้เข้าร่วมทั้งหมดที่รั้งอยู่จนจบการชุมนุมล่าดาราได้ ยอดฝีมือทั้งหลายที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าพร่างดาว และผู้บ่มเพาะพลังทั้งหลายที่กระจายตัวอยู่ในหลายดาราจักร ล้วนแต่ก็มองขึ้นฟ้าไปพร้อมกัน

ย่ำค่ำมาถึงแล้ว ผลลัพธ์การชุมนุมล่าดาราครั้งใหญ่นี้กำลังจะตัดสิน

ทุกคนตั้งตารอคอยเป็นอย่างยิ่ง พากันคาดเดาผลรอบสุดท้ายในอันดับนักล่า

“เจ้าคิดว่าใครจะได้ยืนอยู่อย่างสง่าผ่าเผยบนอันดับแรก?” บทสนทนาเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่งในดาราจักร

“ย่อมต้องเป็นซูหว่านเอ๋อร์!” คนส่วนมากตอบออกมาเช่นนี้โดยไม่ลังเล เพราะกวนหงอวี่คอยอยู่ข้างกายซูหว่านเอ๋อร์ นางจึงคว้าอันดับหนึ่งในการชุมนุมล่าดาราตั้งแต่เริ่มต้นขึ้น ยังไม่เคยมีใครโค่นได้มาก่อน!

ทุกคนจะมั่นใจว่าซูหว่านเอ๋อร์คงจะรั้งอันดับหนึ่งอยู่ได้

“ซูหว่านเอ๋อร์? อาจไม่ใช่เช่นนั้น ด้วยฝีมือเฉินสวิน เถี่ยอวิ๋นผิงเองก็มีโอกาสขึ้นอันดับแรกได้เหมือนกันนะ”

หลากคนก็หลากความเห็น พวกเขารู้สึกว่าเถี่ยอวิ๋นผิงภายใต้การนำของเฉินซีอาจจะสร้างปฏิหารขึ้นได้เช่นกัน

ที่พวกเขากล้าเชื่อเช่นนี้ก็เพราะมีเหตุผล หลายวันที่ผ่านมานี้ อันดับของเถี่ยอวิ๋นผิงพุ่งขึ้นไม่หยุด อีกทั้งยังมีความเร็วในการขึ้นสูงแทบไม่น่าเชื่ออยู่ทุกวัน

อีกทั้งยังมียอดฝีมืออย่างเฉินสวินคอยช่วยเหลือ ทุกคนจึงมองนางเป็นม้ามืดที่สามารถรุดหน้าขึ้นสู่สิบอันดับแรกได้ อาจจะถึงขั้นประชันอันดับแรกกับซูหว่านเอ๋อร์ได้ด้วยซ้ำ

แต่น่าเสียดายที่เมื่อคืนเกิดการต่อสู้ดุเดือดขึ้น จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์หายากที่อันดับล่าไม่ปรากฏ ทำให้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร

จึงทำให้พวกเขาคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย

ส่วนเสี่ยวหลัวหลั่วกับอี้เทียน สองคนอันเลื่องชื่อนั้นรั้งอันดับสองและอันดับสามมาหลายวัน ตอนนี้จึงไม่มีใครสนใจพวกเขา

เหตุผลเป็นเพราะทั้งสองคนถูกคัดออกไปก่อนจะจบการชุมนุมล่าดารา ดังนั้นจึงไม่มีผลลัพธ์อะไรทั้งนั้น จะมีใครไปสนใจได้?

หรือก็คือในจังหวะก่อนที่ผลลัพธ์สุดท้ายจะปรากฏขึ้น สองคนที่ทุกคนต่างกล่าวถึงเสียส่วนใหญ่ก็คือซูหว่านเอ๋อร์กับเถี่ยอวิ๋นผิง

เพราะสองคนนี้อย่างไรก็ต้องได้อันดับหนึ่งกับอันดับสองแน่นอน!

ส่วนยอดฝีมือที่อยู่บนท้องฟ้าไม่ได้ถกเถียงกันเรื่องนี้เลย

เพราะพวกเขาเชื่อมานานแล้วว่าซูหว่านเอ๋อร์ต้องได้อันดับหนึ่งแน่ อย่างหนึ่งก็เพราะนางรั้งอยู่อันดับหนึ่งมาตลอด ทำผลลัพธ์ได้ยอดเยี่ยมยิ่ง

อย่างหนึ่งก็เพราะพวกเขาคิดเห็นเช่นนี้ ไม่ว่าเถี่ยอวิ๋นผิงจะไต่อันดับได้เร็วแค่ไหน แต่ก็ยังห่างจากซูหว่านเอ๋อร์อยู่ดี จึงไม่มีทางที่เถี่ยอวิ๋นผิงจะแซงหน้าภายในชั่วระยะเวลาไม่กี่วันได้เลย

แต่พวกเขาลืมนึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยไป เพราะการคาดคะเนทั้งหลายอิงจากผลลัพธ์จากอันดับนักล่าเมื่อสองวันก่อน ยังไม่ได้นับรวมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานและวันนี้เลย

หรือไม่แน่ก็อาจจะนึกถึงแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเวลาเพียงแค่สองวันสุดท้ายคงไม่มีอะไรมาพลิกสถานการณ์ได้

จักรพรรดินีอวี้เชอยังคงนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่ ไม่มีใครสังเกตเห็นด้วยว่าเมื่อนางได้ยินบทสนทนาเหล่านี้ มุมปากภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดงก็เผยยิ้มบาง ๆ ที่ไม่อาจอธิบายได้ขึ้นมา

ชิ้ง!

“นี่มัน…. เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร?” ณ ดวงดาวในพื้นที่ล่า กวนหงอวี่อึ้งไปอยู่บ้าง พอเห็นว่าเถี่ยอวิ๋นผิงคว้าอันดับหนึ่งไปครอง ไม่ใช่ซูหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ข้างกาย ก็ยากจะเชื่อสายตาอยู่เล็กน้อย

“ศิษย์พี่ ตอนได้เฉินสวินช่วยไว้บนดาววิญญาณมลทินวันนั้น ข้าก็คิดไปแล้วว่าอาจจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริง” ซูหว่านเอ๋อร์พยายามทำให้ใจตนสงบ แต่ในใจก็ยังเต็มไปด้วยขื่นขมไม่อาจยับยั้งไว้ได้

“อืม ข้าก็คิดไว้เช่นนั้น แต่พอมาเจอจริงมันก็ออกจะไม่เชื่ออยู่บ้าง” กวนหงอวี่ถอนใจเล็กน้อย จากนั้นก็มีสีหน้าซับซ้อน

เมืองประกายชลธี หมู่บ้านเมฆาวารี ผู้เข้าร่วมการแข่งทุกคนที่ถูกคัดออกจากการชุมนุมล่าดาราจะถูกส่งมาที่นี่หลังออกจากพื้นที่ล่าแล้ว

“ท่านพี่ ท่านพี่ จะทำอย่างไรดี? การชุมนุมล่าดาราจบแล้ว และข้า… ข้าแพ้!” ตอนนี้เสี่ยวเทียนหลงกำลังไม่พอใจและตกใจยิ่ง เขาคว้าแขนเสื้อเสี่ยวหลัวหลั่วไว้แน่น ทำเสียงเหมือนกำลังจะร้องไห้ ไม่อาจรักษาความสุขุมไว้ได้อีก

ก่อนหน้านี้ตอนถูกคัดออกจากการชุมนุมล่าดารา เขาก็รู้แล้วว่าตนเองแพ้พนันที่ท้าไว้กับเฉินซี แต่ในใจก็ยังพอมีหวัง หวังว่าเฉินสวินเองก็จะถูกคัดออกเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นก็จะนับว่าเสมอ

แต่ไม่คิดเลยว่าไม่เพียงไม่ถูกคัดออก แต่ยังช่วยให้เถี่ยอวิ๋นผิงคว้าอันดับหนึ่งในการชุมนุมล่าดารามาได้อีกด้วย! เขาจะยอมรับได้อย่างไร?

ตอนนี้ในใจเหมือนโดนค้อนทุบไม่หยุด จิตใจแทบแหลกสลาย ไม่มีหน้าและความกล้าที่จะทำตามผลพนัน

พอเห็นเสี่ยวเทียนหลงอยู่ในสภาพเช่นนั้น เสี่ยวหลัวหลั่ว เสวียนท่าจื่อ และลู่เยี่ยนก็ไม่ได้มีสีหน้าดีไปกว่ากัน ในใจเต็มไปด้วยความคิดฟุ้งซ่าน

ผลลัพธ์เช่นนี้… พวกเขาก็ไม่เคยคิดไว้เช่นกัน!

“ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว คงได้แต่ขอให้ผู้อาวุโสนิกายช่วยพูดแทนเรา ให้เขาช่วยล้างพนันที่เคยพูดไปได้จะดีที่สุด” เสวียนท่าจื่อสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม คำแนะนำนี้กลับทำให้เขารู้สึกอับอายขายหน้า แต่ก็ไร้ทางเลือกต้องยอมรับสถานการณ์

“ใช่แล้ว! ใช่เลย! ใช่! พี่เสวียนท่าจื่อพูดถูกต้องเลย!” เสี่ยวเทียนหลงเหมือนเจอขอนไม้ช่วยชีวิต จึงรีบพยักหน้าอย่างไม่รู้สึกละอายสักนิด

เห็นดังนั้นจึงทำให้เสวียนท่าจื่อมุ่นคิ้วโกรธ เจ้าบ้านี่มันไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี!

“ศิษย์พี่ หากผู้อาวุโสนิกายช่วยพูดไม่ได้จะทำอย่างไร?” เสี่ยวหลัวหลั่วรีบถาม นางเองก็รู้สึกทนไม่ได้กับสภาพของน้องชายเกินเช่นกัน

“เช่นนั้น…” เสวียนท่าจื่อเผยนัยน์ตาเย็นยะเยือก “เราก็ฆ่าเขาทิ้งเสีย!”

เสี่ยวเทียนหลงอึ้งไป จากนั้นเอ่ยเสียงเป็นกังวล “แต่หากทำเช่นนั้นก็ยังล้างผลพนันไม่ได้อยู่ดี…”

เสวียนท่าจื่อไม่คิดเสียเวลาอีก ก็แล้วตอนนั้นทำแบบนั้นลงไปทำไม? เขาเป็นคนนอก ช่วยขนาดนี้ก็นับว่ามากแล้ว

…………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]