บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1651

สรุปบท บทที่ 1651 เนตรโลหิตแปรเต๋า: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

บทที่ 1651 เนตรโลหิตแปรเต๋า – ตอนที่ต้องอ่านของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอนนี้ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1651 เนตรโลหิตแปรเต๋า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 1651 เนตรโลหิตแปรเต๋า

………………..

บทที่ 1651 เนตรโลหิตแปรเต๋า

การถูกจู่โจมกะทันหันนั้นทำให้เฉินซีใช้การกระทำอันปลอดภัยที่สุดตามสัญชาตญาณ นั่นคือหลบ

ทว่าเมื่อสังเกตพบว่าเป้าหมายของบุคคลนี้ แท้จริงคือฉกชิงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่ตนกำลังจะเก็บ สีหน้าของเฉินซีก็ง้ำงอลงทันที

ฟิ่ว!

เฉินซีสะบัดมือเบา ๆ ปราณกระบี่สายหนึ่งฟาดออกไป

เปรี้ยง!

แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งสู่บริเวณใกล้เคียง ขณะที่แส้สีเขียวเข้มพลันสั่นสะท้าน ถูกฟาดกระเด็นกลับไป

จากนั้น เฉินซีก็ฉวยสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์คืนมา

“เอ๋? เจ้ากล้าตอบโต้ด้วยหรือ?” เสียงประหลาดใจดังขึ้นแว่วมา แล้วคนผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้น

เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ดุจขุนเขา ในมือถือแส้สีเขียวเข้ม ผิวกายดูประหนึ่งก่อจากศิลา เต็มไปด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์สีทองเรืองรอง เมื่อมองมาจากไกล ๆ คนผู้นี้ก็ดูเหมือนภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันโอ่อ่ายิ่งใหญ่นัก

เฉินซีเกือบคิดว่าตนได้ยินผิดไป เจ้านี่พยายามชิงของของข้าอย่างใจกล้าหน้าไม่อาย โอหังเสียไม่มี

เฉินซีอดเลิกคิ้วมิได้ “เจ้าแน่ใจนะว่าพูดกับข้าอยู่?”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กล่าวอย่างไม่พอใจ “พูดจาเหลวไหล! ที่นี่มีใครอีกนอกจากเจ้า? รีบส่งสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นั่นมาเสีย ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าแน่”

เฉินซีเริ่มแสยะยิ้มด้วยโทสะสุดขีด “งั้นขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะฆ่าข้าเช่นไร!”

เปรี้ยง!

เฉินซีไม่คิดออมมืออีก เขาฟาดฝ่ามือออกไป แปรเปลี่ยนเป็นหนึ่งฝ่ามือปรกสวรรค์ เต็มไปด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์เรืองรอง มันกระทั่งบดขยี้มิติระหว่างทางเป็นเสี่ยง ๆ เผยอำนาจไร้เทียมทาน

“วอนตาย!” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ระเบิดโทสะ เสียงเปรี้ยงปะทุลั่นขณะที่ออกแรงฟาดแส้สีเขียวเข้มลง

แส้สีเขียวเข้มนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สมบัติธรรมดา มันสลักอักขระเต๋าอันคลุมเครือไว้มากมาย และแม้จะไม่ใช่สมบัติวิญญาณธรรมชาติ อย่างน้อยมันก็มีอำนาจพอ ๆ กับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางระดับหก

เมื่อรวมกับการบ่มเพาะอันไม่ธรรมดาของคนผู้นี้ มันก็ฟาดลงด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ชวนผวา ดูประหนึ่งจะฟาดฟ้าดินให้กลายเป็นซากพินาศทอดยาว

ทว่าการโจมตีเช่นนี้มิเพียงไม่อาจต้านอำนาจฝ่ามือของเฉินซีได้ แส้นั้นกระทั่งถูกฟาดพังทลายไปทีละน้อย แสงศักดิ์สิทธิ์กร่อนสลาย สั่นสะท้านรุนแรงดุจซากอสรพิษกระตุกเกร็ง

“เจ้า…. หรือเจ้าจะเป็นมหาเทวาวิญญาณผู้หนึ่ง? เป็นไปได้อย่างไร!?” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ร้องลั่น เขาพลันคิดถอยหนี

ทว่าก็สายไปเสียแล้ว ฝ่ามือมโหฬารนั้นฟาดตามลงมาติด ๆ ทำให้ดูเหมือนคางคกถูกตบกระเด็น ส่งเสียงร้องโหยหวนขณะที่ร่างกระแทกอย่างรุนแรงลงสู่พื้น ทำให้โลหิตกระเซ็นสายจากจมูกและปาก บริเวณรอบข้างรัศมีพันลี้แหลกสลายเป็นผงจากแรงกระแทกหลังการพุ่งชนนี้

สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าฝ่ามือของเฉินซีน่าสะพรึงกลัวเพียงไร มันไม่เพียงบดขยี้แส้สีเขียวเข้มลงทันที กระทั่งชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยังไม่อาจฝืนการโจมตีนี้ได้!

“ฝีมือแค่นี้ ยังกล้าปล้นฆ่าผู้อื่นอีกหรือ?” เฉินซีก้าวเข้ามา ขณะที่ดวงตาเย็นชาเปี่ยมความเดียดฉันท์

“สารเลว!” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แผดเสียงอย่างเดือดดาล เด้งตัวลุกขึ้นเฉียบพลัน แต่แทนที่จะจู่โจมเฉินซี เขากลับแผดเสียงสนั่นขึ้นแทน “ทุกท่าน ยังไม่เผยตัวมากำจัดเจ้าเด็กนี่อีกหรือ?”

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ไม่ทันขาดคำ คลื่นอำนาจร้ายกาจพลันพุ่งขึ้นจากระยะไกล แล้วบุคคลมากมายก็ปรากฏขึ้นตาม ๆ กัน

พวกเขามีทั้งสิ้นแปดคน ผู้นำเป็นชายหนุ่มในชุดหลากสีผู้หนึ่ง เขามีรูปลักษณ์หล่อเหลา ดูเย็นชาทะนงตน ที่หว่างคิ้วมีหนึ่งดวงตาตั้งขวาง เป็นสีแดงเลือดดูผิดมนุษย์ เต็มไปด้วยประกายวาวโรจน์ แผ่บรรยากาศเย็นชาชั่วร้าย

เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เป็นมหาเทวาวิญญาณผู้หนึ่ง เพราะบรรยากาศของเขาแข็งแกร่งเกินผู้ใดข้างกาย เผยปราณไร้เทียมทานเพียงยืนเฉย

“ที่แท้ก็มีผู้ช่วย มิน่าเล่าจึงกล้ากระทำตัวหยิ่งผยอง” เฉินซีหรี่ตา แต่ไม่ได้ลงมือบุ่มบ่าม

เมื่อสังเกตเห็นเช่นนี้ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็ไหวกายไปอยู่ข้างชายหนุ่มในชุดหลากสีอย่างรวดเร็ว

เฉินซีทำเพียงมองอย่างสุขุม พอจะเดาได้แล้วว่าคนเหล่านี้ร่วมมือกัน และเมื่อเห็นว่าเขามาคนเดียวก็เพ่งจิตมุ่งร้ายมา

“สหายเต๋า เจ้าดูแข็งแกร่งไม่เลว และข้าก็ไม่อยากสร้างเรื่องให้ลำบากกัน ส่งสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นั่นคืนมา แล้วบางทีเราอาจเป็นมิตรร่วมทางในซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่ด้วยกันได้” ชายหนุ่มในชุดหลากสีกล่าวช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบานุ่มนวล

“เป็นมิตร?” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไม่พอใจขึ้นมาทันที “สหายเต๋าเป่ยเหวิน หรือเจ้าไม่เห็นว่าเมื่อครู่ เจ้าเด็กนี่เกือบฆ่าข้าอยู่แล้ว?”

เป่ยเหวินกล่าวเสียงเรียบโดยไม่ชายตามองสักนิด “หลูเฟิง ยามเราจับมือเป็นพันธมิตรกัน เจ้าจำสิ่งที่ข้าพูดได้หรือไม่?”

“แน่นอนข้าจำได้” ชายร่างสูงใหญ่ซึ่งถูกเรียกว่าหลูเฟิงพยักหน้า เผยสีหน้างอง้ำ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

เพราะยามจับมือเป็นพันธมิตรกัน พวกเขาตกลงกันว่าจะทำตามคำสั่งของเป่ยเหวินทุกอย่างในซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่

ขณะเดียวกัน ยามนี้ ในที่สุดเฉินซีก็เดาตัวตนของชายหนุ่มในชุดหลากสีได้ เป่ยเหวิน ทายาทผู้หนึ่งจากตระกูลเป่ย กองกำลังยิ่งใหญ่ในเอกภพจักรวรรดิ และเป็นมหาเทวาวิญญาณซึ่งติดอันดับห้าสิบสามบนเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณ!

เพราะความช่วยเหลือจากความสามารถหายากเป็นเอกลักษณ์นี้เอง จึงสามารถทะยานขึ้นผงาดในหมู่มหาเทวาวิญญาณ มีชื่อเสียงขจรไกล

ขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ ๆ เป่ยเหวินก็ยกมือคว้าคอเฉินซี

ตู้ม!

ร่างของเฉินซีวูบไหวเฉียบพลันขณะที่ขยุ้มมืออกไป รัศมีศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัสขึ้นกลางมือ ดูประหนึ่งกำลังสร้างเมืองสวรรค์อันแผ่อำนาจกลืนกินร้ายกาจขึ้นบนฝ่ามือ

ยามทั้งสองปะทะ เสียงสนั่นสะท้านฟ้าดินก็กึกก้อง รัศมีศักดิ์สิทธิ์สาดจ้าทั่วทิศ พื้นที่ในระยะหมื่นลี้อันมีทั้งสองเป็นศูนย์กลางแปรปรวน ถล่มแหลกสลายไปในทันที

เหตุการณ์นี้น่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง มันคือการปะทะกันตรง ๆ ระหว่างสองมหาเทวาวิญญาณ อำนาจที่เกิดจากการปะทะนี้ทำให้คนอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียงไม่กล้าเข้าแทรกแซงเลย

ตุบ! ตุบ! ตุบ!

อำนาจของหนึ่งการโจมตีนี้ทำให้ร่างของเป่ยเหวินสั่นสะท้านจนก้าวถอยไปสามก้าวบนอากาศ ทำให้เป่ยเหวินเลี่ยงความรู้สึกกรุ่นโกรธไม่ได้ ตะโกนขึ้นเสียงแข็ง “เจ้าเด็กนี่! ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริง ๆ! ยามนี้ถึงเวลาตายเจ้าแล้ว!”

ท่ามกลางเสียงแผดก้อง ร่างของเขาวูบไหวเฉียบพลัน พร้อมกับเส้นแสงสีเลือดจำนวนมหาศาลทะลักออกจากร่าง พุ่งทะยานอย่างรวดเร็วไปทั่วฟ้าดิน ทำให้บริเวณรอบข้างปั่นป่วนโกลาหล

“ตาย!” แสงสีเลือดผลาญพุ่งจากหว่างคิ้ว แล้วเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นกึกก้อง ขณะที่อัสนีสีเลือดนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานรัวเร็ว

เมื่อมองจากไกล ๆ เขาก็ดูเหมือนเทพอสูรท่ามกลางสมุทรโลหิตรอบกาย มีอัสนีกึกก้องจากดวงตา อำนาจไร้ขอบเขตน่าสะพรึงกลัว

“ฆ่า!”

“ร่วมกันโจมตี!”

พร้อมกันนั้น เหล่าคณะของเป่ยเหวินก็เคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขารุมล้อมเฉินซีจากทั่วทิศ ใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์มากมายจู่โจมเข้ามาอย่างน่าสะพรึง

สถานการณ์อันตรายในเฉียบพลัน!

นี่คือกลุ่มตัวตนสูงสุดในขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ และยังมีกระทั่งมหาเทวาวิญญาณผู้หนึ่งรวมอยู่ด้วย เมื่อทั้งหมดร่วมกันจู่โจม อำนาจที่แสดงจึงร้ายกาจเสียจนทำให้ฟ้าดินในบริเวณบังเกิดบรรยากาศปั่นป่วนชวนสะพรึงยิ่ง

โชคยังดีที่ซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่แตกต่างจากแดนเทพโบราณ กฎแห่งเต๋าสวรรค์ที่นี่เต็มไปด้วยปราณเวิ้งว้างปั่นป่วน ดูแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ดังนั้นการทำลายล้างจากศึกนี้จึงถูกมันรับไว้ได้ ฟ้าดินที่นี่จึงไม่ถูกทำลาย

ในพริบตานี้ จิตสังหารเย็นเยียบทิ่มแทงพลันวาบไหวในดวงตาของเฉินซีท่ามกลางวงล้อมแน่นหนา แล้วภาพประหลาดนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในใจทันที

ท้ายที่สุด ภาพทั้งหมดนั้นก็ชะงักค้าง กลายเป็นปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งผ่านจักรวาล บดขยี้มวลเทพ

ฮึ่ม!

ขณะเดียวกัน ยันต์ศัสตราอันดูแสนเรียบง่ายธรรมดาในมือเฉินซีก็ส่งเสียงกู่ก้องสะท้อนสวรรค์ จากนั้นก็ฟาดฟันลงมาพร้อมด้วยผังอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์อันคลุมเครือนับไม่ถ้วน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]