บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 166

บทที่ 166 คำเชิญเข้าร่วมพิธี

บทที่ 166 คำเชิญเข้าร่วมพิธี

“ท่านพี่ ท่านบ่มเพาะมันสำเร็จแล้วหรือขอรับ?” เฉินฮ่าวกล่าวด้วยความประหลาดใจ อันที่จริง หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับวิถีกระบี่ของเฉินซีก่อนหน้านี้ เขาก็เข้าใจว่าท่านพี่ของเขาบ่มเพาะคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบจนสำเร็จแล้ว แต่ความประหลาดใจที่น่ายินดีเช่นนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป จนเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อถือเช่นกัน

ซึ่งแท้จริงแล้ว คัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบเป็นวิชากระบี่ที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก แต่ก็บ่มเพาะได้ยากเช่นเดียวกัน ในช่วงเวลาหลายพันปีมานี้ แทบไม่เคยได้ยินว่ามีผู้บ่มเพาะมันได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็นนิกายที่บ่มเพาะเต๋าแห่งกระบี่เฉกเช่นนิกายกระบี่เมฆาพเนจร ก็ไม่มีใครสักคนที่สามารถบ่มเพาะมันได้สำเร็จ ดังนั้นการที่เฉินซีนั่งสมาธิจนตนเองอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เป็นเวลาถึงห้าปีนั้น และก็สามารถบ่มเพาะจนสำเร็จได้ จึงเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อได้

“อาจถือได้ว่าข้านั้นประสบความสำเร็จเพียงขั้นต้นเท่านั้น และยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ข้าต้องบ่มเพาะให้เชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์” เฉินซีถอนหายใจ เขาได้ตระหนักถึงกระบวนท่ากระบี่อันยิ่งใหญ่ทั้งแปดของคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ แต่กลับกลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด เมื่อไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาเพียงเรียนรู้พื้นฐานเท่านั้น และยังห่างไกลจากความเชี่ยวชาญอย่างมาก

ทั้งกระบี่เฉียนแห่งนภา กระบี่คุนแห่งพสุธา กระบี่ข่านแห่งวารี กระบี่ตุ้ยแห่งหนองบึง กระบี่สวินแห่งวายุ กระบี่หลีแห่งอัคคี กระบี่เจิ้นแห่งสายฟ้า และกระบี่เกิ้นแห่งขุนเขา แม้ว่ากระบวนท่าของพวกมันจะเป็นอิสระและจำแนกตามแต่ละคุณลักษณะ แต่พวกมันก็ไม่ได้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงและยังเชื่อมโยงถึงกัน จึงอาจกล่าวได้ว่า กระบวนท่ากระบี่อันยิ่งใหญ่ทั้งแปดนี้เป็นเพียงรากฐานเท่านั้น และสิ่งที่เฉินซีต้องทำต่อไปคือผสานกระบวนท่ากระบี่อันยิ่งใหญ่ทั้งแปดนี้เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างกระบวนท่ากระบี่ที่ทรงอานุภาพยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อกระบี่เกิ้นแห่งขุนเขากับกระบี่ตุ้ยแห่งหนองบึงถูกผสานเข้าด้วยกัน ก็จะกลายเป็นกระบวนท่ากระบี่เกิ้นตุ้ยแห่งขุนเขาและหนองบึง ภูเขาและหนองน้ำเข้ากันได้ สิ่งหนึ่งเป็นแกนหลักและอีกสิ่งเป็นแกนรอง สิ่งหนึ่งเป็นลำต้นและอีกสิ่งหนึ่งเป็นกิ่งก้าน เมื่อเทียบกับการใช้กระบวนท่าที่ปราศจากการผสาน อานุภาพของมันจะพุ่งทะยานเป็นสองเท่าอย่างเห็นได้ชัด

หรือตัวอย่างเช่น กระบี่สวินแห่งวายุกับกระบี่หลีแห่งอัคคีเมื่อถูกผสานเข้าด้วยกัน ก็จะกลายเป็นกระบี่สวินหลีแห่งวายุและอัคคี ซึ่งสายลมจะสนับสนุนอานุภาพของไฟ จากนั้นไฟก็จะหมุนวนโดยรอบ เพื่อรองรับอานุภาพของลม และอานุภาพที่น่าทึ่งของมันนั้นไม่มีขอบเขต

สรุปแล้ว เมื่อกระบวนท่ากระบี่ทั้งแปดนี้ผสานเข้าด้วยกัน พวกมันจะเกิดกระบวนท่ากระบี่ขึ้นมาใหม่ ดังนั้น หากผสานกันมากเท่าไรก็ยิ่งมีกระบวนท่าที่หลากหลายมากขึ้นเท่านั้น และวงจรวิวัฒนาการก็ไร้ขอบเขต

แต่หากเฉินซีต้องการผสานกระบวนท่ากระบี่ทั้งแปดนี้เข้าด้วยกัน และค่อย ๆ อนุมานมันทีละเล็กทีละน้อย ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณของเขาในตอนนี้ ก็ไม่เพียงพอที่จะบรรลุสิ่งนี้ได้ ตัวอย่างเช่น กระบี่เฉียนแห่งนภาและกระบี่คุนแห่งพสุธา สิ่งหนึ่งคือนภา อีกสิ่งคือพสุธา และพวกมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หรือกระบี่ข่านแห่งวารีและกระบี่หลีแห่งอัคคี น้ำและไฟไม่อาจผสานกันเนื่องจากพวกมันแตกต่างกันสุดขั้ว ดังนั้นการผสานและเชื่อมโยงเข้าด้วยกันมันจะง่ายดายได้อย่างไร?

“แค่สำเร็จในขั้นต้นก็ทรงพลังขนาดนี้ แล้วมันจะวิเศษขนาดไหนหากท่านควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์” เฉินฮ่าวอ้าปากค้างด้วยความชื่นชม

“หืม? เจ้าต้องการบ่มเพาะมันด้วยหรือ?” เฉินซียิ้ม

เฉินฮ่าวรีบส่ายศีรษะ “สิ่งสำคัญในตอนนี้สำหรับข้า คือต้องอุทิศตนเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับเต๋าแห่งกระบี่อย่างเต็มที่ และเต๋ากระบี่เที่ยงธรรมของข้าก็เพิ่งเป็นรูปเป็นร่างเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น มันจะไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบหลังจากที่มันบรรลุถึงจุดสูงสุด ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องการแบ่งความสนใจออกเป็นสองส่วน เพราะนั่นเป็นข้อห้ามอย่างยิ่งในการบ่มเพาะ”

เฉินซีไม่ได้คิดที่จะบังคับเฉินฮ่าวเลยแม้แต่น้อย ท้ายที่สุด เขาเพิ่งเรียนรู้พื้นฐานของคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบเท่านั้น ดังนั้นเขาจะสามารถชี้นำการบ่มเพาะแก่เฉินฮ่าวได้อย่างไร

“น้องเฉิน ในที่สุดเจ้าก็ตระหนักได้ว่าหลงทางและกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องแล้วหรือ?” ในขณะนี้ เป่ยเหิงกำลังทะยานผ่านท้องฟ้า เมื่อเห็นเฉินซียืนอย่างภาคภูมิอยู่ที่ด้านข้างของหน้าผาจากระยะไกล เขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ

เฉินซีหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา ‘ครั้งหนึ่งเฉินฮ่าวก็เคยกล่าวแบบนี้ และตอนนี้เป่ยเหิงก็กล่าวในทำนองเดียวกันเช่นนี้ หรือว่าทุกคนจะคิดว่าข้าจะบ่มเพาะล้มเหลวกัน?’

“ท่านบรรพจารย์สูงสุดเป่ยเหิง ท่านพี่ของข้าสามารถบ่มเพาะมันได้สำเร็จแล้ว!” เฉินฮ่าวร้องออกมาจากด้านข้าง

“เจ้าว่าอย่างไรนะ เขาทำได้สำเร็จจริงหรือ?” เป่ยเหิงตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ร่างของเขาส่ายไปมา จนแทบหล่นมาจากท้องฟ้า

ในวันนี้ข่าวของเฉินซี ผู้นั่งสมาธิอยู่ที่ริมหน้าเป็นเวลาห้าปี ได้บ่มเพาะคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบจนสำเร็จ ได้แพร่กระจายไปยังภายในและภายนอกของนิกายกระบี่เมฆาพเนจร เมื่อผู้คนในนิกายได้ทราบถึงข่าวนี้ พวกเขาต่างก็มีสีหน้าที่ดูเหมือนพบเห็นภูตผี และยืนเหม่อลอยอย่างว่างเปล่า ปราศจากคำพูดใด ๆ ออกมาอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

บรรพจารย์สูงสุดเป็นคนเผยแพร่ข่าวนี้ ดังนั้นจะมีผู้ใดกล้าสงสัยอีก? ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสถานะของเขา ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลอกลวงเหล่าศิษย์ร่วมนิกายของเขาเลยด้วยซ้ำ

ณ ยอดเขาใจสัจธรรมในยามนี้จึงคึกคักขึ้นมาในทันที เมื่อเหล่าแขกจากที่ต่าง ๆ มาถึงอย่างต่อเนื่อง และล้วนมาแสดงความยินดีแก่เฉินซี แม้แต่ตู้ชิงซี ต้วนมู่เจ๋อและซ่งหลิน เมื่อพวกเขาได้ยินถึงข่าวนี้ พวกเขาก็รีบเดินทางมาด้วยกัน และดูเหมือนว่าต้องการพิสูจน์ด้วยสองตาของพวกเขาว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

เพียงไม่กี่วันผ่านไป ความคึกคักเช่นนี้ก็ค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบ และชีวิตบนยอดเขาใจสัจธรรมก็กลับสู่กิจวัตรประจำวันเช่นเคย

ท่ามกลางผืนป่าสนที่เก่าแก่และเขียวขจี เฉินฮ่าวกับเฉินซีกำลังนั่งดื่มชาด้วยกัน ตราบเท่าที่เขามีเวลาว่างจากการบ่มเพาะ เฉินซีก็จะมาคุยกับเฉินฮ่าว จากนั้นก็ทะเลาะกันพร้อมกับแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้เรียนรู้แก่กันและกัน

“ท่านพี่ ท่านประมุขหลิงคงจื่อวานให้ข้าบอกท่านว่า วันรับสมัครของนิกายกระบี่เมฆาพเนจรจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน เขาต้องการให้ท่านเข้าร่วมพิธีด้วย” เฉินฮ่าววางถ้วยชาลงก่อนที่จะกล่าว

“ให้ข้าเข้าร่วมพิธีหรือ? สถานะของข้าดูจะไม่เหมาะไปหน่อยหรือ?” เฉินซีตกตะลึง เขารู้ว่า เมื่อนิกายกระบี่เมฆาพเนจรทำการคัดเลือกศิษย์ จะมีผู้อาวุโสหลายคนได้เข้าร่วม เนื่องจากพวกเขาไม่เพียงแต่สามารถทดสอบความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของศิษย์ใหม่เท่านั้น แต่สามารถคว้าโอกาสนี้เพื่อคัดเลือกศิษย์ที่พวกเขาชื่นชอบจากบรรดาศิษย์ใหม่ ท้ายที่สุด พวกเขาก็มีโอกาสที่จะพบกับอัจฉริยะในระหว่างการรับสมัครทุกครั้ง และหากพวกเขาสามารถรับอัจฉริยะเหล่านี้เป็นศิษย์ได้ ก็จะเป็นเกียรติสำหรับพวกเขาเช่นเดียวกัน

“มันไม่เหมาะสมตรงไหนหรือ? เพียงแค่ใช้มันเป็นความเพลิดเพลินในการเบี่ยงเบนความสนใจ นอกจากนี้ นี่เป็นสิ่งที่ศิษย์พี่หลิงคงจื่อร้องขอด้วยตัวเอง และมันไม่ใช่เรื่องดีที่จะตอบปฏิเสธเขา” เฉินฮ่าวกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]