บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1667

สรุปบท บทที่ 1667 ถูกตบหน้าอีกครั้ง: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอน บทที่ 1667 ถูกตบหน้าอีกครั้ง จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1667 ถูกตบหน้าอีกครั้ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1667 ถูกตบหน้าอีกครั้ง

………………..

บทที่ 1667 ถูกตบหน้าอีกครั้ง

ความวุ่นวายเล็กน้อยระหว่างเฉินซีกับกงเหย่เจ๋อฟูมาถึงจุดสิ้นสุด ไม่ว่าทุกคนจะคิดเห็นอย่างไร ไม่ว่าอวี๋ชิวจิงจะไม่พอใจและขุ่นเคืองแค่ไหน แต่อย่างน้อยในตอนนี้ ทุกคนจะจดจำชื่อของเฉินซีได้แล้ว

สี่ชั่วยามต่อมา

วิ้ง ~

คลื่นความผันผวนกระจายออกจากประตูที่มีตัวอักษรสีแดงโลหิต ‘生’ ถูกประทับเอาไว้ จากนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ

ในตอนนี้ ชายชรานั่งขัดสมาธิบนแท่นบูชาโบราณคล้ายกับตื่นขึ้นจากห้วงนิทราก่อนจะลืมตาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์

“คนต่อไป” เขาเอ่ยคำด้วยความกระชับและตรงประเด็น

ทุกคนตกตะลึง ในที่สุดก็ยืนยันได้ว่าพวกลั่วเฉ่าหนงผ่านการทดสอบในประตูแห่งชีวิตนั่นได้ภายในสี่ชั่วยาม

“ไปกันเถอะ!”

เล่ออู๋เหินเตรียมตัวพร้อม เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็พาพวกเฉินซีไปรับการทดสอบจากประตูแห่งชีวิต

เป็นกงเหย่เจ๋อฟู เขานำกลุ่มคนมา เพื่อรับการทดสอบ เขาไม่แม้แต่กล่าวทักทายชายชรา แต่ก้าวเข้าไปประตูแห่งชีวิตทันที

เมื่อเห็นเช่นนี้ เล่ออู๋เหินส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะถอนหายใจ “พวกเราทำได้แค่รอโอกาสครั้งต่อไปเท่านั้น”

คนอื่นพากันเดือดดาลเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

วิ้ง ~ ~

ในตอนนี้ คลื่นแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในประตูแห่งความตายซึ่งอยู่ด้านข้าง ทำให้ทุกคนตกตะลึงเล็กน้อย พวกเขาได้ข้อสรุปทันทีว่าเจียหนานผ่านการทดสอบแล้วเช่นกัน!

แน่นอนว่าชายชราผู้นั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นบูชาเอ่ยคำอีกครั้ง “คนต่อไป”

ทุกคนลังเลชั่วขณะ

พวกเฉินซีตัดสินใจที่จะเลือกทดสอบประตูแห่งชีวิตแล้ว พวกเขาไม่คิดเปลี่ยนใจ

ทว่าไม่ช้าก็มีกลุ่มคนลุกขึ้นแล้วมุ่งหน้าสู่ประตูแห่งความตาย

“อย่าหงุดหงิดไปเลย ไม่มีใครกล้ามาแย่งพวกเราหลังจากนี้หรอก” เล่ออู๋เหินชำเลืองมองรอบข้าง จากนั้นจึงคลี่ยิ้มแล้วเอ่ยคำออกมา

คนอื่นพยักหน้า พวกเขาเข้าใจว่านอกจากลั่วเฉ่าหนงกับเจียหนานที่ผ่านการทดสอบแล้ว ก็ไม่มีกองกำลังอื่นที่สามารถแข่งกับกลุ่มพวกเขาได้อีก

หากใครกล้ามาหาเรื่องอีก เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่คิดมากที่จะสั่งสอนอีกฝ่าย แน่นอนว่าโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นถือว่าน้อยมาก

ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนโง่อยู่ที่นี่ พวกเขารู้ถึงความร้ายแรงของผลลัพธ์จากการมาทะเลาะกับพวกเล่ออู๋เหิน

ผ่านไปสักพัก คลื่นแปลกประหลาดก็มาจากประตูแห่งความตาย ทำให้ทุกคนซึ่งอยู่ที่นี่ตกตะลึง ไวขนาดนั้นเชียว?

แต่หลังจากนั้น พวกเขาเห็นเจ็ดถึงแปดร่างถูกโยนออกมาจากประตูแห่งความตาย ก่อนจะกระแทกกับพื้น

ผู้เยี่ยมยุทธ์เหล่านี้มีสีหน้าหวาดกลัวราวกับเผชิญกับบางสิ่งที่น่าพรั่นพรึง

“ถูกคัดออก”

ชายชราเอ่ยคำอย่างสงบ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวจากอีกฝ่าย กลิ่นอายหมานกู่อันคลุมเครือพลันปลดปล่อยออกมาจากแท่นบูชา ก่อนจะปกคลุมพวกเขาในทันที

“ไม่!”

“ผู้อาวุโส ผู้อาวุโสโปรดเมตตาด้วย ข้าเต็มใจที่จะลองอีกครั้ง โปรดให้โอกาสพวกข้าอีกครั้ง!”

แต่เพียงชั่วพริบตา คนทั้งหมดก็ถูกเคลื่อนย้ายก่อนจะหายไปไปในอากาศธาตุ เหลือไว้เพียงเสียงก้องกังวาน

เมื่อผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นเห็นเช่นนี้ พวกเขาต่างรู้สึกหวาดกลัวก่อนจะเพิ่มความระมัดระวัง ทุกคนทราบดีว่าหลังจากถูกคัดออกก็จะถูกขับออกจากซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่ ไม่สามารถย่างเท้ากลับมาได้อีก!

บรรยากาศกลับมาเงียบสงบมากขึ้นและรู้สึกหดหู่โดยไม่ทราบสาเหตุ

ราวกับทุกคนบังเกิดความเข้าใจร่วมกัน ทำให้ในช่วงเวลานี้ไม่มีใครกล้าเลือกที่จะทดสอบประตูแห่งความตายอีก

ไม่นานหลังจากนั้น ความผันผวนแปลกประหลาดมาจากประตูบานนั้น แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เยี่ยมยุทธ์คนใดถูกคัดออกในรอบนี้

มันหมายความว่าพวกกงเหย่เจ๋อฟูผ่านการทดสอบจนไปถึงแดนรากบรรพกาลแล้ว

“คนต่อไป” ชายชราเอ่ยคำ

ก่อนจะทันสิ้นเสียง เล่ออู๋เหินก็พุ่งออกไปพร้อมกับพวกเฉินซี ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นคล้ายกับทราบว่าไม่มีทางไปแข่งกับพวกเขาได้ ทำให้ครั้งนี้ไม่มีใครออกมาหาเรื่องอีก

แต่ในตอนนี้ ชายชราบนแท่นบูชาคล้ายกลับสังเกตเห็นบางอย่าง เขาจึงส่งเสียงถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาแล้วเอ่ยคำ “รอเดี๋ยว!”

สิ้นเสียง ประตูแห่งชีวิตก็ปิดลงไม่ให้พวกเล่ออู๋เหินเข้าไป

“ผู้อาวุโส นี่มันหมายความว่าอย่างไร?” เล่ออู๋เหินคิ้วขมวดพลางเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

เฉินซี เชินถูเยียนหราน อวี๋ชิวจิง จวนอี๋ฉุ่ย และคนอื่นสับสนเช่นกัน

ชายชราไม่ตอบ ดวงตาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ปราศจากความสงบ แต่มันเต็มไปด้วยประกายลึกล้ำอันน่าสะพรึง ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่ทำให้ทุกคนอึดอัดจนหายใจไม่ออก สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน เขาตื่นตัวและเตรียมที่จะโต้กลับทันทีหากมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

แม้จะไม่อาจคาดเดาได้ว่าชายชรากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ต้องเตรียมตัวเผื่อกรณีเลวร้ายที่สุดเอาไว้

ชายชราไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด เขาเพียงชำเลืองมองเฉินซีอย่างละเอียด สีหน้ามากด้วยปัญญาและประสบการณ์ยิ่งตึงเครียดราวกับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ทำให้เกิดอารมณ์ไร้ที่สิ้นสุดอยู่ภายใน

ไม่มีใครเอ่ยคำ สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องเฉินซีราวกับกำลังสงสัยว่าทวารบาลของวิหารจะทำอะไรต่อไป

แต่ท้ายที่สุด ชายชราก็ไม่ทำอะไร เขาเพียงเบือนสายตาไปจับจ้องพวกเล่ออู๋เหิน จากนั้นถามเฉินซี “สหายน้อย พวกเขาคือสหายของเจ้างั้นหรือ?”

ทันทีที่สิ้นเสียง อวี๋ชิวจิงอดไม่ได้ที่จะตะโกน “ไม่…” แต่ทันทีที่เขาตะโกนได้หนึ่งคำก็ถูกเล่ออู๋เหินห้ามปราม “หุบปาก!”

ตอนนี้เล่ออู๋เหินปราศจากรอยยิ้มไร้กังวลและเฉยชาเหมือนดังเดิมอีกต่อไป สีหน้าเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยพลังมหาศาลที่ถึงกับทำให้หัวใจของอวี๋ชิวจิงสั่นสะท้านจนไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก

ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นที่อยู่ใกล้อวี๋ชิวจิงเดิมอยากพูดบางอย่าง แต่เมื่อเห็นท่าทีของเล่ออู๋เหิน พวกเขาล้วนพากันปิดปากเงียบสนิท

แม้เฉินซีจะเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว แต่สีหน้าก็ไม่แปรเปลี่ยน เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่”

ชายชรามองเฉินซี จากนั้นมองอวี๋ชิวจิงผู้ทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่ไกลลิบ รอยยิ้มมีนัยที่หาได้ยากก็ปรากฏบนใบหน้าเหี่ยวย่น

แต่ท้ายที่สุด เขาไม่เอ่ยอะไรก่อนจะโบกมือ “พวกเจ้าไม่ต้องรับการทดสอบหรอก แค่เข้าไปก็พอ”

ตอนได้ยินประโยคครึ่งแรก ทุกคนต่างตกตะลึง แม้กระทั่งเล่ออู๋เหินกับเชินถูเยียนหรานก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านอยู่ภายใน

ไม่ต้องรับการทดสอบ แค่เข้าไปแดนรากบรรพกาลได้เลยงั้นหรือ!?

ไม่เพียงแค่คนอื่นเท่านั้น เฉินซีก็อดตกตะลึงไม่ได้

ตู้ม!

ทันใดนั้น ประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลังแท่นบูชาระหว่างประตูแห่งชีวิตและความตาย มันเต็มไปด้วยประกายแสงสว่างจนดูลึกล้ำยิ่ง

ทุกคนตกตะลึง ไม่คาดคิดว่าจะมีประตูบานที่สามปรากฏขึ้น หรือมันคือประตูมุ่งสู่แดนรากบรรพกาลหลังจากผ่านการทดสอบแล้ว?

“หากยังไม่เข้าไป ประตูนี้จะปิดทันที” ชายชรามองเฉินซีผู้ยังสับสนเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยเตือนอีกฝ่าย

ในตอนนี้ ทุกคนยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่ชายชราเอ่ยเป็นความจริง เฉินซีคนนั้นกับกลุ่มของเขาสามารถไปถึงแดนรากบรรพกาลได้โดยไม่ต้องผ่านการทดสอบ!

“ปะ… เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”

อวี๋ชิวจิงรู้สึกเหมือนกับถูกมือที่มองไม่เห็นฟาดที่หน้าอย่างแรง ทำให้ทั่วร่างสั่นสะท้าน ยืนโซเซไปมาอยู่ตรงนั้น

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]