บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1679

สรุปบท บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปตอน บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ – จากเรื่อง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

ตอน บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดยนักเขียน novelones เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ

………………..

บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือแข็งทื่อและซีดเซียว เปล่งประกายความศักดิ์สิทธิ์อันเยือกเย็นอย่างสลัว

ในช่วงเวลาแห่งการปะทะ กระบี่เล่มนี้ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง แสงศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกมา ขณะที่มือที่ถือดาบนั้นดูเหมือนจะถูกสั่นสะเทือนด้วยพลังอันมหาศาล จนเกิดเสียงแตกหักอย่างชัดเจน

“อา! อา!” เสียงแหลมที่ฟังดูเหมือนโลหะเสียดสีกันดังก้อง

เฉินซีหันกลับไปและเห็นซากสังขารบรรพเทวาเดินโซเซอยู่ด้านหลัง ม่านตาสีแดงเลือดเปล่งประกายโหดเหี้ยมและโกรธเกรี้ยว

เฉินซีตกใจเล็กน้อย เมื่อรู้ว่ายามนี้จิตใจไม่อาจสงบได้ อีกฝ่ายที่สังเกตเห็นได้ในทันที จึงตั้งใจจะลอบโจมตีและสร้างความประหลาดใจแก่เขา

ควับ!

ครู่ต่อมา ร่างของเฉินซีก็กะพริบในขณะที่ใช้อักขระผนึกเต๋า ปกปิดรัศมีทั่วร่างอีกครั้ง และหายตัวไปจากบริเวณใกล้เคียงอย่างเงียบ ๆ

ซากสังขารบรรพเทวาตกตะลึงทันที ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาสีเลือดของมัน ก่อนจะคำรามขึ้นอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง

ไม่นานนัก คลื่นเสียงของอากาศที่ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ก็ดังก้องมาจากรอบตัวซากสังขารบรรพเทวามากมายหลายจุด เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ซากสังขารบรรพเทวากว่าสามสิบตัวก็มารวมตัวกันที่นี่!

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเฉินซีที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเย็นเฉียบ ชายหนุ่มตระหนักดีว่า หากสู้กับซากสังขารบรรพเทวาโดยตรง เขาคงจะถูกรายล้อมด้วยฝูงสัตว์ประหลาดเหล่านี้ จนไม่สามารถหลบหนีได้

ยามนี้ ซากสังขารบรรพเทวาได้รวมตัวกัน และสื่อสารกันด้วยวิธีที่ลึกลับ แม้แต่เฉินซีก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกมันพูด

มันเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยอย่างยิ่ง คล้ายภาษาโบราณ ไม่ชัดเจนและแปลกไปจากสิ่งที่เคยได้ยินมาก่อน

ในไม่ช้า ซากสังขารบรรพเทวาเหล่านี้ก็แยกย้ายกันไปและบินไปในทิศทางที่ต่างกัน

“ไม่ต้องพูดถึงเทวาวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลก็คงไม่สามารถหลีกหนีจากการถูกกลุ่มซากศพเหล่านี้ล้อมรอบ…”

เฉินซีรู้สึกทึ่งอยู่ในใจ เขาไม่กล้าประมาทอีกต่อไป หลังจากยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติในพื้นที่หลายพันลี้โดยรอบ ชายหนุ่มก็เริ่มออกเดินทางเข้าใกล้แสงศักดิ์สิทธิ์สีน้ำเงิน ที่กำลังส่องขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ

นี่คือซากปรักหักพังโบราณอันกว้างใหญ่ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยปราณหมานกู่วิเวก ใคร ๆ ก็สามารถสังเกตเห็นร่องรอยการพังทลายของอาคารโบราณหลายแห่งได้อย่างเลือนราง

เมื่อเฉินซีมาถึงที่นี่ รูม่านตาพลันหดตัวลงในทันใด หากไม่เคยสัมผัสกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เขาก็คงจะตกใจอีกครั้ง

ไม่ใช่เพราะนี่คือแหล่งกำเนิดของรากบรรพชนระดับแปดตามที่คาดเดาจริง ๆ ทว่าเป็นเพราะมันมีรากบรรพชนระดับแปดนี้เป็นศูนย์กลาง และพื้นที่โดยรอบกว่าพันลี้ยังมีรากบรรพชนระดับเจ็ดถึงสี่ต้นที่เปล่งแสงสีน้ำเงินอันศักดิ์สิทธิ์ออกมา!

“รากบรรพชนระดับเจ็ดสี่ต้น และรากบรรพชนระดับแปดหนึ่งอัน นี่มัน… มันช่าง…” เฉินซีอ้าปากค้าง ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของตัวเองในขณะนี้ได้เลย

นี่มันน่าตกใจเกินไป เพราะทันทีที่รากบรรพชนเหล่านี้ปรากฏตัว มันถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงฉากหนึ่งของโลกแล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ

เพราะท้ายที่สุด ก่อนหน้านี้เขากับกลุ่มของเล่ออู๋เหิน ได้พยายามค้นหากันอย่างหนัก และกลับมามือเปล่าโดยไม่พบอะไรเลย แต่ตอนนี้ กลุ่มรากบรรพชนกลับปรากฏขึ้นต่อหน้า ราวกับหีบสมบัติธรรมชาติ ที่จู่ ๆ ก็ตกลงมาตรงหน้าเขา เพียงจินตนาการดู ก็สามารถสัมผัสได้ว่ามันน่าตกใจขนาดไหน

แต่เพียงชั่วครู่ หัวใจของเฉินซีก็เย็นเฉียบอีกครั้ง เพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีซากสังขารบรรพเทวาอย่างน้อยร้อยตัว ซ่อนตัวอยู่ใกล้กับรากบรรพชนทั้งห้านี้!

หลายร้อย!

ตัวเลขดังกล่าวอาจดูไม่น่าตกตะลึงมากนัก แต่ถ้าหากสัตว์ประหลาดหลายร้อยตัวนี้ มีแข็งแกร่งเทียบได้กับบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล เพียงแค่นั้นก็น่าหวาดกลัวเกินพอแล้ว!

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่รากบรรพชนทั้งห้านี้ ยังไม่ถูกเก็บไปจนถึงตอนนี้ เพียงซากสังขารบรรพเทวานับร้อยเหล่านี้ ก็เพียงพอให้ผู้คนไม่กล้าบุกรุกที่แห่งนี้แล้ว…” ในเวลานี้เฉินซีเริ่มระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกสับสนก็คือเสียงเพรียกนั้น มาจากส่วนลึกของหมอกหนาด้านหน้านี้

นั่นหมายความว่า เสียงเพรียกนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับรากบรรพชนระดับแปดที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย

ในทางกลับกัน หากเฉินซีต้องการรู้ว่า เสียงเพรียกนี้มาจากตรงไหน ก็มีแต่จะต้องเดินหน้าต่อไปและสำรวจลึกเข้าไปอีก!

“เมื่อมาถึงจุดนี้ ข้าก็ได้พบกับซากสังขารบรรพเทวาไปมากมาย ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าส่วนลึกเข้าไปจะมีอันตรายอะไรอยู่อีกบ้าง” เฉินซีถอนหายใจในใจ ครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนที่จะตัดสินใจในที่สุด ว่าเขาจะพยายามคว้าโอกาสที่อยู่ตรงหน้าก่อน หากไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น เขาจะมุ่งหน้าลึกเข้าไปอีก แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็พร้อมหันหลังกลับและหนีไปทันที

เมื่อเทียบกับการสำรวจและทำความเข้าใจเสียงเพรียกในใจนั่น ชีวิตของเขาย่อมสำคัญกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ฟุ่บ!

หลังจากตัดสินใจแล้ว ร่างของเฉินซีก็กะพริบเคลื่อนย้ายและเข้าใกล้รากบรรพชนระดับแปดอย่างเงียบ ๆ ตลอดทางชายหนุ่มใช้อักขระผนึกเต๋าเพื่อปกปิดรัศมีของตนและเคลื่อนไหวต่อไปอย่างระวัง เพราะเกรงว่าไปจะดึงความสนใจของซากศพโบราณเหล่านั้นเข้า

ต้องบอกว่า อักขระผนึกเต๋าที่มาจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากนั้นลึกลับและน่าเกรงขามอย่างแท้จริง เมื่อใช้ออกมาก็ทำให้เฉินซีดูเหมือนหายตัวไปและไร้ตัวตนขึ้นมาจริง ๆ จนมาถึงเบื้องหน้ารากบรรพชนระดับแปดได้อย่างปลอดภัย

แสงสีน้ำเงินที่ศักดิ์สิทธิ์และโปร่งใส ได้กลายเปลี่ยนเป็นเสาแสงยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า พร่างพราวและแวววาว ดวงแสงที่ดูราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ ลอยนิ่งอยู่ที่ด้านล่างของซากปรักหักพัง พื้นผิวของมัน ถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีอันลึกซึ้งของมหาเต๋า และเต็มไปด้วยรัศมีบรรพชนที่พลุ่งพล่านราวกับว่ามีชีวิต

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือรากเต๋าบรรพชนระดับแปดอย่างแน่นอน!

ตอนนี้ เฉินซีไม่ได้แสดงความตื่นเต้นอะไรออกมา ในทางตรงกันข้ามชายหนุ่มกลับระมัดระวังมากขึ้น และไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย เพราะเขาสังเกตเห็นว่า ถัดจากรากบรรพชนมีซากสังขารบรรพเทวาสี่ตัวนั่งอยู่!

บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ 1

บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ 2

บทที่ 1679 ปัญหาเปลี่ยนทิศ 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]