บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1684

สรุปบท บทที่ 1684 สถานการณ์เปลี่ยนผัน: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปตอน บทที่ 1684 สถานการณ์เปลี่ยนผัน – จากเรื่อง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

ตอน บทที่ 1684 สถานการณ์เปลี่ยนผัน ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดยนักเขียน novelones เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 1684 สถานการณ์เปลี่ยนผัน

………………..

บทที่ 1684 สถานการณ์เปลี่ยนผัน

แสงสีม่วงสะท้าน ฝนแสงและแสงศักดิ์สิทธิ์โปรยออกมา ตอนนี้พวกมันเข้าประสานกันเกิดเป็นรูปร่างบางอย่างขึ้น

ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ ชะงักไป เหตุนี้เหมือนเห็นสิ่งมหัศจรรย์บังเกิด ยิ่งใหญ่ตระการตาจนไม่อาจจินตนาการได้

ไม่มีใครพูดอะไร สายตามองขึ้นไปบนฟ้าตาไม่กะพริบ เพราะกลัวว่าจะพลาดรายละเอียดเพียงเล็กน้อยไปจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

ผ่านไปไม่นาน ท่ามกลางทุกสายตาและแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องอยู่รอบกาย ตำหนักหนึ่งก็ก่อรูปขึ้นจากแสงศักดิ์สิทธิ์ ฝนแสงปรากฏรูปขึ้นแล้ว!

มันกว้างกว่าแปดพันลี้ลอยอยู่บนท้องฟ้าสูงลิ่ว ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง มันเต็มไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วง มีกลิ่นอายกดดันของราชันเหนือใคร

เหมือนเป็นตำหนักแห่งราชันโบราณ มีพลังชะตากรรมอันทรงพลังคอยรักษาการอยู่ เหนือกว่าใครในใต้หล้านี้!

ได้ยินเสียงพุทธองค์สวดมนต์ลอยมาอยู่ชั่วขณะ ฝนแสงโปรยลงมาพร้อมกับหมอกมงคลกำจายอยู่รอบตำแหน่งคนท้องฟ้า ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

“ตำหนักเต๋านภาม่วง!”

“รากเต๋าบรรพชนปฐมกาลอยู่ภายในนี้ มีเพียงแต่ตัวตนสูงส่งเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างสมบัติอย่างรากเต๋าบรรพชนขั้นจักรพรรดิระดับเก้าขึ้นมาได้”

ใจทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย นึกถึงตำนานคำร่ำลือมากมายของตำหนักแห่งนี้และรากเต๋าบรรพชนปฐมกาล

ชิ้ง!

ชิ้ง!

ตอนนี้นั้นเอง กระแสเต๋าแผ่วเบาอันแปลกประหลาดก็ดังขึ้นทั่วฟ้าดิน สั่นสะท้านไม่รู้จบ เหมือนเสียงระฆังแก้วตอนเช้า แต่ละครั้งที่สั่นสะท้านก็ทำให้กลิ่นอายฟ้าดินบริสุทธิ์ขึ้นอีกนิด แรงกดดันที่เต็มรอบข้างหนักขึ้นอีกหน่อย

เมื่อท่วงทำนองแห่งเต๋าดังขึ้นครบเก้าครั้ง ทั่วตำหนักก็สั่นสะเทือน จากนั้นประตูก็เปิดออก ฝนแสงหนาโปรยลงมา ทำให้ผู้อื่นไม่อาจเห็นได้ว่าเบื้องหลังประตูคือสิ่งใด

จากนั้นบันไดสีขาวหยกก็ลอยขึ้นมาเหนือประตูนั้น มันทอดตัวต่ำลงมาจนถึงพื้น

ถึงตอนนี้ทุกอย่างก็นิ่งสนิท

“ไปเลย!” ผู้เยี่ยมยุทธ์คนหนึ่งทนรอแทบไม่ไหวมานานแล้ว เมื่อเห็นเหตุการณ์นั้นเขาก็พุ่งออกไปขึ้นบันไดหยกนั่นทันที

แต่ก็ไม่ใช่เพียงเขาคนเดียว เพราะอีกคนอีกกว่าร้อยคนก็พุ่งเข้าไปพร้อมกัน คิดจะเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปในตำหนักนั้นเพื่อหาสมบัติล้ำค่าภายใน

ครืน!

หากแต่ยังไม่ทันเข้าไป กระแสแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงอันน่าเกรงขามก็พุ่งออกมาล้อมรอบบันไดไว้ เป็นเหมือนมังกรที่เคลื่อนตัวพลิ้วไหว

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

อึดใจต่อมา เงาร่างจำนวนมากก็กระเด็นออกมาเหมือนว่าวสายขาด กระอักเลือดร่างอัดลงกับพื้นพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน

เหตุนี้ทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์อีกหลายคนที่กำลังไฟแรงตกตะลึงไป เหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่ ความตื่นเต้นในใจดับลงแทบหมด

“เป็นพวกที่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย! มีหรือรากเต๋าบรรพชนปฐมกาลจะอยู่ในที่ที่ใครก็สามารถเข้าไปได้? มีฝีมือแค่นี้แต่กลับอยากได้สมบัติล้ำค่างั้นหรือ? น่าหัวเราะ” น้ำเสียงเย็นชาหัวเราะออกมา เป็นเสียงของตี้จวินที่เอ่ยเยาะเย้ย

หลายคนหน้าเปลี่ยนสี แต่ก็ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงกับตี้จวิน

หากแต่มีคนไม่ยอมรับเรื่องนี้ จึงค่อย ๆ เดินหน้าเข้าหาบันไดนั่น แต่ก็เหมือนกัน เขากลับถูกแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงอันน่าเกรงขามดีดกลับมาจนกระอักเลือดแล้วร่วงลงบนพื้น ได้แต่ร้องโหยหวนไม่หยุด

สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบพักใหญ่ สมบัติล้ำค่าอยู่ตรงหน้าแต่กลับไม่สามารถเข้าไปเอาได้ เช่นนี้ก็ไม่ต่างจากการทรมานพวกเขา

ทันใดนั้น ลั่วฉ่าวหนงก็ยืนขึ้นเอ่ยเสียงเรียบ “อย่างนี้นี่เอง มีเพียงมหาเทวาวิญญาณเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าสู่สถานที่อย่างรากเต๋าบรรพชนปฐมกาลได้”

พูดจบก็เหมือนได้ตัดสินทุกคนไปแล้ว ไฟหวังของหลายคนรอบข้างถูกดับมอดลงทันใด ทำให้ใบหน้าพวกเขาหม่นแสงลง

ท่ามกลางผู้คนที่อยู่ในตอนนี้ ส่วนมากไม่ใช่มหาเทวาวิญญาณด้วยซ้ำ ก็หมายความว่าพวกเขาส่วนใหญ่ไม่สามารถคว้าโชคในครั้งนี้ไว้ได้นั่นเอง!

ซึ่งเป็นอะไรที่กระแทกใจอย่างยิ่ง

“ตี้จวิน เจ้ามากับข้า และคนอื่น ๆ อยู่รอรับพวกเราตอนกลับมาด้วย” ลั่วฉ่าวหนงสั่งเสียงธรรมดา ก่อนจะเดินเข้าหาชั้นบันไดด้วยสองมือไพล่หลัง

“ฮ่า ๆ! นั่นก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็กันแมลงไปได้มาก ไม่เช่นนั้นคงกำจัดได้ลำบาก” ตี้จวินแผดเสียงหัวเราะแล้วเอ่ยด้วยเสียงแหลมเหมือนสตรี ทำให้สีหน้าของใครหลายคนเปลี่ยนผันไป

แมลงหรือ?

ด้วยตัวตนของลั่วฉ่าวหนง อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลนี้ยั่วยุพวกเขาเลย

เช่นนั้นก็หมายความว่า… ที่เฉินซียังไม่กลับมาก็เพราะเกิดเหตุงั้นเหรอ?

ตอนนี้ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ เองก็ตกใจเช่นกัน ใครคือเฉินซีหรือ? ชื่อนี้พวกเขาคุ้นหูกันมานานแล้ว

คนผู้นั้นเอาชนะเยว่หรูฮวากับจินชิงหยางได้ด้วยตัวคนเดียว จากนั้นก็โจมตีครั้งเดียวดีดตี้จวินกลับไปได้ ชื่อเสียงดังไกลจนเหนือกว่ามหาเทวาวิญญาณทั่วไปเสียอีก เหมือนเป็นดาวดวงใหม่ที่ค่อย ๆ ลอยขึ้นสูงบนท้องนภา

แต่อาจเกิดเรื่องกับเขางั้นหรือ!

จะมีใครกล้าเชื่อได้?

กงเหย่เจ๋อฟูสังเกตเห็นสีหน้าเจิ้นหลิวชิงอึ้งไปเล็กน้อย เหมือนไม่ทันระวังตัว

ทำให้เขามุ่นคิ้ว นัยน์ตาสีม่วงส่อแววเย็นชาออกมาอย่างไม่อาจอธิบายได้ แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ไม่ว่าเฉินซีจะมาหรือไม่ก็ดูจะไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ตรงหน้านี้นี่นะ?” เล่ออู๋เหินสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยเสียงช้า

“แน่นอน” ลั่วฉ่าวหนงยิ้ม จากนั้นหันไปพูดกับกงเหย่เจ๋อฟูที่ยืนอยู่อีกฝั่ง “เจ๋อฟู ถึงเวลาเช่นนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องปกปิดแล้วล่ะ”

พูดจบ ทุกคนก็นิ่งค้างไป

จากนั้นกงเหย่เจ๋อฟูก็นำกลุ่มเดินไปทางลั่วฉ่าวหนงแล้วมองพวกเล่ออู๋เหินไปพร้อมกัน

เห็นได้ชัดว่าสองกลุ่มนี้ร่วมมือกันนานแล้ว!

เกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้นในหมู่ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ ทันใด สถานการณ์พลิกผันเกินคาด ใครจะไปคิดว่าลั่วฉ่าวหนงและกงเหย่เจ๋อฟูที่รั้งสิบอันดับแรกบนเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณจะมาร่วมมือกันได้?

พริบตาเดียว สีหน้าของพวกเล่ออู๋เหินก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ในใจรู้สึกตกตะลึงเช่นกัน ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้จริง ๆ

แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เกิดขึ้นแล้ว กลุ่มลั่วฉ่าวหนงและกลุ่มกงเหย่เจ๋อฟูร่วมมือกันเพื่อต่อกรกับพวกเล่ออู๋เหิน

แม้เจียหนานที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนจะไม่มีใครสนใจ แต่ตอนนี้สถานการณ์ทางฝั่งพวกเล่ออู๋เหินนับว่าเสียเปรียบเป็นอย่างยิ่ง!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]