เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1705

บทที่ 1705 ผีเสื้อศักดิ์สิทธิ์แสงดารา

………………..

บทที่ 1705 ผีเสื้อศักดิ์สิทธิ์แสงดารา

นี่คือตัวอย่างอันสมบูรณ์ของการใช้กำลังแก้ไขทุกสิ่ง

ขอเพียงมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง ก็บดขยี้ทุกอุปสรรคได้!

หอกแห่งผู้กล้าคมกริบ บุกทะลวงอย่างอาจหาญ ทลายทุกอุปสรรคขวางทาง การปะทะกับมันตรง ๆ ก็เหมือนพุ่งชนภูเขาอันไม่อาจเคลื่อนขยับ หากเจตจำนงสะท้านแม้เพียงน้อย ก็ย่อมสิ้นจิตต่อสู้ ไม่ต่างจากแพ้พ่ายนัก

ขณะนี้เฉินซีสัมผัสได้ถึงเค้าแห่งความกลัวยามเผชิญการโจมตีอันเรียบง่ายตรงไปตรงมาเช่นนี้เช่นกัน และอยากหลบเลี่ยง ใช้กลยุทธ์สู้พลางหนีพลาง

ทว่าขณะนั้นเอง เสียงภาคภูมิลำพองนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าทึ่มน้อย หากเจ้าไม่กลัวตายก็หลบต่อไป หอกแห่งผู้กล้ามีความอาจหาญเป็นหนึ่งหล้า เจ้าหลบไปก็เท่ากับแจวเรือทวนกระแสธาร มีแต่จะนำสู่ความพ่ายแพ้!”

“เมื่อครู่ข้า บรรพชนผู้นี้กล่าวไว้เช่นไร? เจ้ายังอ่อนหัดนัก ยังเด็กเกินไป หากจากไปอย่างว่าง่ายเสียแต่แรก ก็คงมิต้องมาทำตัวเองขายหน้าอยู่เช่นนี้”

เสียงนั้นน่ารำคาญเกินไปจริงแท้ ทำให้เฉินซีเกิดความหงุดหงิดขึ้นในใจ สีหน้าจึงแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ ตวาดออกมา “หุบปาก!”

แม้จะพูดเช่นนี้ แต่เฉินซีก็หยุดหลบยามเผชิญการกระหน่ำโจมตีของหอกสำริด และใช้ผาสมุทรเข้าปะทะมันตรง ๆ โดยสัญชาตญาณ

เฉินซียังคงถูกฟาดกระเด็นในการประมือหนนี้ แต่เขาก็ต้องตกใจเพราะสังเกตเห็นชัดว่ากำลังของหอกแห่งผู้กล้าถดถอยลงอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ ขณะต่อสู้กับอีกาทองทั้งสิบ ศึกนั้นขัดเกลาให้ข้าบรรลุถึงความลึกล้ำ ณ แก่นแท้ของประทีปเคลื่อนคล้อย หรือศึกเผชิญหอกแห่งผู้กล้านี้จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบต่อการบรรลุผาสมุทรของข้า? ทันใดนั้น หนึ่งความคิดก็ไหลวาบเข้ามาในใจเฉินซี ทำให้ดวงตาเรืองโรจน์เฉียบพลัน

เฉินซีตัดสินใจลองเสี่ยง

ตู้ม!

ตู้ม!

หลังจากนั้น เฉินซีทิ้งทุกความคิดฟุ้งซ่าน ไม่เหลือความคิดหลบเลี่ยงหรือหวาดกลัว ต่อสู้กับหอกแห่งผู้กล้าอย่างสุดกำลัง

ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็ประมือกันเกินร้อยกระบวนท่า ทุกการปะทะประหนึ่งดวงดาราระเบิดเป็นเสี่ยง พร่างพรมละอองแสงไปทั่วทิศ

นับแต่ต้นจนบัดนี้ เฉินซีใช้ผาสมุทรเข้าประชัน

วิชานี้ผลาญพุ่งเช่นมหาสมุทร สูงตระหง่านเช่นหินผา แตกต่างจากประทีปเคลื่อนคล้อยอันเลื่อนลอย เผยอำนาจบดขยี้แข็งแกร่งยามใช้ในศึกเผชิญหน้า

แม้ในการปะทะร้อยกว่าหนนี้ เฉินซีจะถูกผลักถอยทุกหนไป โลหิตไหลซึมออกจากมุมปาก แก่นโลหิตในกายปั่นป่วน ทว่าดวงตากลับยิ่งเรืองโรจน์ อำนาจกดดันทวีคูณ ต่อสู้อย่างห้าวหาญขึ้นตามระยะเวลา!

ภายหลัง ชายหนุ่มก็เผยบรรยากาศยิ่งใหญ่ราวกับจะทำลายสรรพสิ่งที่ขวางทางกระบี่อย่างเรืองราง

ระหว่างเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ผาสมุทรถูกขัดเกลาจนยิ่งใหญ่สมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ เพียงหนึ่งการโจมตีแผ่วเบาก็เหมือนหนึ่งทัพหาญกรีฑา คล้ายจะกวาดล้างจักรวาล!

ตู้ม!

จู่ ๆ เฉินซีก็แผดเสียงลั่นดุจเทพสงคราม ทั่วร่างเผยอำนาจศักดิ์สิทธิ์กดดัน ฟาดฟันกระบี่ออกไป

พริบตานั้น หอกแห่งผู้กล้าสะท้านถึงขนาดส่งเสียงเสียดโสตรัวเร็ว หลังจากนั้น มันก็เริ่มแหลกสลายทีละน้อยจากส่วนปลาย ท้ายที่สุดมันก็ระเบิดเป็นละอองแสงหายวับไปในอากาศ

ชั่วขณะนั้น สีหน้าของเฉินซีสำรวมไร้อารมณ์อย่างสมบูรณ์

ชายหนุ่มบรรลุความลึกล้ำแท้จริงของผาสมุทรแล้ว ทำให้เขายืนยันได้เต็มที่ว่า ทั้งการโจมตีของอีกาทองทั้งสิบและการปะทะหอกแห่งผู้กล้าตรง ๆ ล้วนเป็นบททดสอบหนึ่งกันทั้งสิ้น

หรือบางที นี่อาจเป็นบทเรียนไว้ขัดเกลาเคล็ดกระบี่ลึกล้ำฤทัย!

เขาก็น่าจะสิ้นทุกโอกาสในการได้รากเต๋าวิภูจักรวรรดิ!

“เอ๋!” เสียงนั้นสนั่นขึ้นอีกหน ดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นาน มันก็ฟื้นสำเนียงเย้ยหยันลำพองขึ้นอีก “ในที่สุดท่อนฟืนก็มีสมองเหวย แต่ก็ช้าเกินไปจริง ๆ หากข้าบรรพชนผู้นี้ไม่ได้บอกเจ้าแต่แรกว่าประทีปเคลื่อนคล้อยใช้กับหอกแห่งผู้กล้าไม่ได้ ไอ้ทึ่มอย่างเจ้าคงคิดหาปริศนาเบื้องหลังมันไม่ออกเป็นแน่”

หนนี้ เฉินซีไม่นึกหงุดหงิด กลับพูดด้วยสีหน้าจริงจังแทน “ขอบคุณ”

ก่อนหน้านี้ เพราะเจ้านี่ที่ทำให้เฉินซีเข้าใจว่าหอกแห่งผู้กล้าน่าสะพรึงกลัวเพียงไร แม้ท่าทีการพูดจะสุดแสนยียวน แต่ก็ช่วยเขาไว้อยู่ดี

“เวร! เจ้ายังมาขอบคุณบรรพชนผู้นี้อีก โอ้สวรรค์! เจ้าหนูทึ่ม เจ้ามันไม่มีมาดเอาเสียเลย! แต่ไยอยู่ดี ๆ ข้าจึงรู้สึกตื้นตันขึ้นมานิดหน่อยได้หนอ? ไม่ได้แล้ว ไม่ได้เลย! ข้าซื้อไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกเฟ้ย แบบนั้นไม่น่าขายหน้าไปหน่อยหรือ?” เสียงนั้นยังคงพร่ำบ่น ดูสุดทนจะฟังประหนึ่งแม่เฒ่าเสียสติ

ทว่าเฉินซีเมินมันไป ส่ายหัวแล้วเดินหน้าต่อ

ต่อไปจะเป็นบททดสอบเช่นไร? เฉินซีลุ้นรอเล็กน้อย

ราวได้ยินเสียงในใจ ไม่นานนัก หนึ่งค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นครอบคลุมฟ้าดิน สายลมเมฆาเคลื่อนคล้อยไปมาภายใน ขณะที่อัสนีกึกก้อง เผยการเปลี่ยนแปลงในโลกหล้าอย่างแจ่มชัด

สิ่งนี้ไม่มีพิษภัยต่อเฉินซีผู้บรรลุเต๋าแห่งยันต์อักขระอย่างเลิศล้ำเกินธรรมดามาเนิ่นนานเลยสักนิด

เพียงไม่นาน ผีเสื้อหลากสีนับไม่ถ้วนก็โผบิน ปีกนั้นบอบบางละเอียดอ่อน เต็มไปด้วยรัศมีเจิดจรัสนานา ทำให้พวกมันดูงดงามนัก

เมื่อค่ายกลศักดิ์สิทธิ์โคจร เหล่าผีเสื้อก็วูบไหวดุจประกายแสงเจิดจรัส ยากจับทิศทางเป็นอย่างยิ่ง

“ฮี่ ๆ ๆ เจ้าทึ่มน้อย บรรพชนผู้นี้ไม่ให้คำแนะนำเจ้าแล้วนะ โชคดี!” เสียงนั้นดังขึ้นตามคาด ดูเหมือนจะอยากดูเรื่องสนุก

หากข้าสามารถสลายและดูดซับอำนาจทั้งหมดมาฟื้นพลังม่านกระบี่ของข้าได้ ก็คงไม่ต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์มาค้ำยัน พึ่งวิชากระบี่นี้ลำพังก็ไร้เทียมทานแล้ว…

แล้วข้าต้องทำเช่นไรเพื่อประสิทธิผลเช่นนั้น?

เฉินซีครุ่นคิดในใจไม่หยุดหย่อน

ปิ๊ง! ปิ๊ง! ปิ๊ง!

ขณะเดียวกัน แม้ร่างของเฉินซีจะสะท้านจนล่าถอยต่อเนื่อง แต่เขาก็ไม่สังเกตเห็นมันเลยสักนิด ทั้งใจและวิญญาณจมอยู่กับภวังค์ความคิด

“ฮี่ ๆ เจ้าทึ่มน้อยเอ๋ย เป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้าถูกผีเสื้อศักดิ์สิทธิ์แสงดาราเหล่านี้ฆ่าแน่ ไยไม่วิงวอนข้าดูสักหน่อย แล้วข้าบรรพชนผู้นี้ก็จะทำใจกว้างชี้แนะให้” เมื่อสังเกตเห็นว่าสภาพของเฉินซีดูทุลักทุเล เสียงนั้นก็อดหัวเราะเย้ยหยันมิได้ มันดูจะอยากให้เฉินซีทำตัวเองขายหน้าเสียเหลือเกิน

แต่พริบตาต่อมา เสียงหัวเราะพลันหยุดลงกะทันหัน กลายเป็นความเงียบงัน

เพราะจู่ ๆ ม่านพลังกระบี่ที่เฉินซีสร้างขึ้นในค่ายกลก็เต็มไปด้วยวงกระเพื่อมซึ่งดูเหมือนวังวน ไม่เพียงสลายคลื่นการโจมตีที่พุ่งเข้าปะทะ มันกระทั่งปลดปล่อยอำนาจกลืนกิน ดูดซับพลังอันกระจัดกระจาย เปลี่ยนเป็นพลังของค่ายกระบี่ในการควบคุมอย่างไร้ที่ติของเฉินซี

ม่านพลังกระบี่ให้ความรู้สึกดุจหล่มเลนไร้ก้นบึ้ง พลังซึ่งถูกสลายไปอย่างต่อเนื่องนั้นเหมือนหยาดฝน ยิ่งทวีจำนวน หล่มเลนยิ่งแข็งแกร่งยิ่งใหญ่

หากหยาดฝนไม่เพิ่มจำนวนเสียถึงขนาดที่จมเลนถล่มได้ ก็ไม่มีทางสร้างผลกระทบใด ๆ ต่อมันได้เลย

ทว่าหากนำพิรุณนี้ไปเทียบกับผู้เยี่ยมยุทธ์ มันก็จะหลุดลอยเหนือขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณไกลโข

ขณะนี้เฉินซีดูสำรวม ไม่ได้อยู่ในสภาพทุลักทุเลอีกต่อไป

ดวงตาเรืองกล้า ในใจปรากฏเค้ายินดี เพราะในที่สุดเขาก็เข้าถึงแก่นความลึกล้ำของโอบวลัย!

มันคือการใช้พลังเผชิญพลัง คงการป้องกันอันไร้ช่องโหว่!

ยิ่งกว่านั้น ชายหนุ่มกระทั่งใช้อำนาจของเต๋าศักดิ์สิทธิ์กลืนกิน ทำให้ม่านพลังกระบี่สามารถแปลงพลังอื่นมาเป็นของตน กล่าวได้ว่ามีความสามารถทั้งโจมตีและป้องกัน!

“เร็วเพียงนั้นเชียว?” เสียงนั้นดังขึ้นอย่างฮึดฮัดเล็กน้อย “ฮึ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะทำอะไรไอ้หนูอย่างเจ้าไม่ได้!”

ตู้ม!

ไม่ทันสิ้นคำ ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ก็สั่นสะท้านแหลกเป็นเสี่ยง ทำการโจมตีสลายในพริบตา

“เจ้าหนู เหลือเพียงบททดสอบสุดท้าย หากเจ้าผ่านได้ด้วยกำลังตน เช่นนั้นข้า บรรพชนผู้นี้ก็จะไม่สร้างความลำบากแก่เจ้าแล้ว!”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]