เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1768

บทที่ 1768 ยุติข้อตกลงแต่งงาน

………………..

บทที่ 1768 ยุติข้อตกลงแต่งงาน

ท่าทางของเยี่ยเหยียนเปลี่ยนไปในบัดดล และนางก็กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ไยคนผู้นี้ถึงกลับมาอีก?”

ขณะที่นางกล่าว คลื่นพลังผันผวนก็แผ่ซ่านมาจากระยะไกล จากนั้นร่างทั้งสามก็ปรากฏขึ้น

บุคคลที่เป็นผู้นำย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเส้าเฮ่าอวี่ ทว่าในครานี้ สภาพกลับน่าตลกอย่างมาก ไม่เพียงแต่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายังขาดรุ่งริ่งและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด แม้แต่ใบหน้าปูดบวมและช้ำจนดูเหมือนหัวหมู และมันดูน่ากลัวเกินกว่าจะมองจริง ๆ

เฉินซีแทบระเบิดเสียงหัวเราะ นั่นคงเป็นฝีมือของเป่าน้อยอย่างแน่นอน

แต่เพียงชั่วครู่ หัวใจของเฉินซีกลับต้องสั่นไหว เมื่อพบว่าคนทั้งสองที่อยู่เคียงข้างเส้าเฮ่าอวี่ เป็นถึงจักรพรรดิ!

คนหนึ่งเป็นชายชราผมหงอกและตาสีเทา เขาสวมเสื้อคลุมที่หรูหราแล้วเอามือไพล่หลังไว้ ในขณะที่เปล่งรัศมีอันสูงส่งดุจขุนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

อีกคน เป็นชายวัยกลางคนที่มีผมสีแดงเลือด สายตาเย็นชาราวกับสายฟ้า ขณะถือกระบี่สีแดงเลือด ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่กระหายเลือดและดุร้าย เขาเป็นเหมือนราชาแห่งนรกที่ย่างกรายออกมาจากภูเขาซากศพและทะเลโลหิต

“จักรพรรดิคุนมู่ จวี้หมางสวิน จักรพรรดิเซวี่ยอิ่ง รู่โซวอิ่น!” เยี่ยเหยียนจำตัวตนของชายชราและชายวัยกลางคนได้ทันที และอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เป็นที่ประจักษ์ว่าเส้าเฮ่าอวี่ไม่ได้มาที่นี่เพียงลำพัง และเขาได้ทิ้งจักรพรรดิทั้งสองไว้เพื่อด้านนอกอารามไท่ชู

หลังจากที่เส้าเฮ่าอวี่ประสบกับความพ่ายแพ้อันน่าสังเวช เขาได้นำจักรพรรดิทั้งสองมาเพื่อล้างแค้น

“ฮึ่ม!” ในขณะนี้ เส้าเฮ่าอวี่สังเกตเห็นเฉินซีเช่นกัน และโลหิตในกายก็เดือดพล่านด้วยเพลิงโทสะทันที “ท่านลุง เป็นไอ้สารเลวนั่น!”

ฟึ่บ!

จักรพรรดิทั้งสองตวัดสายตามองเฉินซี ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างไร้ปรานี

สีหน้าของเฉินซีพลันเคร่งขรึม ไม่ว่าเขาจะมั่นใจในพลังฝีมือของตนสักแค่ไหน แต่การมาถึงของจักรพรรดิทั้งสองยังคงทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“นายน้อย ท่านยืนยันตัวตนของมันแล้วหรือไม่?” ชายชราจวี้หมางสวินกล่าวอย่างเฉยเมย “นี่คือสวนศักดิ์สิทธิ์ไท่ชู หากเราฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับนายท่านแห่งอาราม ข้าเกรงว่ามันจะเกิดปัญหาตามมาได้”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วมันจะกล้าหยาบคายกับนายน้อยผู้นี้หรือ?” เส้าเฮ่าอวี่ตวาดด้วยความเดือดดาล

จวี้หมางสวินพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะพาตัวมันออกไปจากที่นี่ แล้วจึงค่อยฆ่ามันทีหลัง”

พวกเขาพูดคุยกันราวกับกำลังตัดสินโทษของนักโทษประหาร ทั้งยังดูไม่เกรงกลัวและไม่คิดจริงจังกับเฉินซีแม้แต่น้อย

“ช้าก่อน!” เส้าเฮ่าอวี่ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ “เจ้าลิงสารเลวนั่นด้วย! โผล่หัวออกมาซะ! เดรัจฉาน! ข้าจะขุดสมองของเจ้าออกมาทำอาหาร!”

จากท่าทางที่เดือดดาลสุดขีด เห็นได้ชัดว่าเส้าเฮ่าอวี่คงได้รับบทเรียนอันเลวร้าย และรู้สึกเคียดแค้นเป่าน้อยอย่างสุดใจ

“ลิง?” จักรพรรดิทั้งสองตกตะลึง จากนั้นพวกเขาก็หัวเราะเย้ย มันเป็นแค่ลิง ไหนเลยจะมีค่าในสายตาพวกเขา

หัวใจของเยี่ยเหยียนจมลงสู่ก้นบึ้งทันที นางหายใจเข้าลึกแล้วกล่าวว่า “นี่คืออารามไท่ชู พวกเจ้าทุกคนไม่กลัวว่าจะทำให้นายท่านแห่งอารามขุ่นเคืองหรือ?”

ในขณะนี้ นางทำได้เพียงฝากความหวังเอาไว้กับนายท่านแห่งอาราม ซึ่งหวังว่าจะทำให้พวกเขาลังเลบ้าง

ทว่านางทราบดีว่า นายท่านแห่งอารามกำลังกลั่นยาเม็ดแห่งโชคชะตาและวิชชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ดังนั้นนายท่านแห่งอารามคงไม่สามารถใส่ใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้อย่างเต็มที่

“เยี่ยเหยียน เจ้าคิดจะร่วมมือกับเจ้าเด็กสารเลวนั่น และต่อต้านนายน้อยผู้นี้หรือ?” สีหน้าของเส้าเฮ่าอวี่จมดิ่งลง และมองมาด้วยสายตาดุร้าย

“สาวน้อยคนนั้นกล่าวถูกแล้ว ไม่เหมาะนักที่จะลงมือใต้จมูกของนายท่านแห่งอาราม” จักรพรรดิคุนมู่กล่าวขึ้นทันที แต่สิ่งที่เขากล่าวต่อจากนี้ทำให้เยี่ยเหยียนรู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง “แต่จนถึงตอนนี้นายท่านแห่งอารามยังไม่ได้มีท่าทีอะไร ยังไม่ออกมาห้ามพวกเราด้วยซ้ำ บางทีนางอาจจะไม่ว่าอะไร ดังนั้นไว้เราค่อยขอขมาต่อนายท่านแห่งอาราม หลังจากที่เราฆ่าเจ้าเด็กคนนี้แล้วก็ได้”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว นายน้อยผู้นี้ยังต้องพาฮุ่ยฉงกลับไปด้วย” เส้าเฮ่าอวี่พยักหน้า เขาเองก็กริ่งเกรงว่านายท่านแห่งอารามจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินการวิเคราะห์ของจักรพรรดิคุนมู่ เขาก็รู้สึกมั่นใจขึ้นทันที

เท่าที่เขากังวล เมื่อเปรียบเทียบกับตนเองและตระกูลเส้าเฮ่าที่หนุนหลังเขา แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าเฉินซี และทำให้นายท่านแห่งอารามไม่พอใจ แต่นางก็จะไม่ฆ่าเขาอย่างแน่นอน อย่างมากนางก็จะสั่งสอนบทเรียนให้เขาเท่านั้น

“งั้นก็ตัดสินใจกันได้แล้ว” จักรพรรดิเซวี่ยอิ่งหมดความอดทนเล็กน้อย และกล่าวอย่างเย็นชา

แต่ในขณะนี้ เฉินซีที่นิ่งเงียบมาตั้งแต่แรก พลันหันกลับมาเผชิญหน้าเยี่ยเหยียนแล้ว “ส่งข้อตกลงแต่งงานที่เจ้านำมาให้ข้าหน่อย”

ไม่เพียงแต่ทำให้ให้เยี่ยเหยียนตะลึงเท่านั้น แม้แต่เส้าเฮ่าอวี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นเขาเผยรอยยิ้มอันดุร้าย “เดรัจฉาน! ในที่สุดเจ้าก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเองแล้วกระมัง? ถึงตั้งใจที่จะมอบข้อตกลงแต่งงานให้กับนายน้อยผู้นี้ เพื่อที่จะชดเชยความผิดของเจ้าหรือ? ฝันไปเถอะ!”

เฉินซีไม่สนใจ เพียงจ้องมองไปที่เยี่ยเหยียน

เยี่ยเหยียนฟื้นจากอาการตกใจ พลันเหลือบมองไปที่เฉินซี ซึ่งท้ายที่สุด นางกัดฟันแน่นและแล้วตราคำสั่งหยกออกมา

เห็นได้ชัดว่ามีสัญลักษณ์อันยอดเยี่ยมสามอันลอยอยู่บนพื้นผิวป้ายคำสั่งนี้ อันแรกเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของตระกูลเยี่ย ซึ่งคือ ‘หนาม กระบี่ และดาบ’ ตามลำดับ อันที่สองเป็นสัญลักษณ์ของ ‘สุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายบนสวรรค์’ ซึ่งเป็นตัวแทนของตระกูลเส้าเฮ่า และอักขระโบราณสองตัว ‘太上’ ที่เป็นตัวแทนของนิกายอำนาจเทวะ

อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปที่จะถอนคำพูด โชคดีที่มันไม่ใช่คำสาบาน มิฉะนั้นมันจะเป็นโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง

“เจ้าหนุ่ม มากับเราซะ!” จักรพรรดิคุนมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่แยแส ยื่นมือคว้าออกไป บังเกิดเป็นกระแสพลังไร้รูปร่างแผ่พุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือ มันปกคลุมทุกสรรพสิ่ง ห่อหุ้มความว่างเปล่า และปิดล้อมเฉินซีอย่างสมบูรณ์

บรรยากาศเงียบงันและเต็มไปด้วยจิตสังหารถึงขีดสุดทันที

“ฮึ่ม!” ในขณะเดียวกัน เฉินซีส่งเสียงฮึดฮัด ร่างกายพลันเปล่งกลิ่นอายเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ขยับกายวูบหนึ่ง ก่อนที่จะทำลายพลังที่ปิดล้อมจนแตกสลาย!

“หืม?”

“เอ๊ะ?”

เสียงอุทานด้วยความประหลาดใจดังขึ้นจากจักรพรรดิทั้งสอง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าชายหนุ่มในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นต้น จะสามารถหนีการถูกมหาราชเทวาจับตัวได้

เยี่ยเหยียนตกตะลึงและเต็มไปด้วยความไม่เชื่อไม่ต่างกัน

เส้าเฮ่าอวี่ก็ประหลาดใจมากเช่นกัน แต่ความโกรธเกรี้ยวมีมากกว่า เขากัดฟันแล้วกล่าวว่า “ยังลังเลอะไรอยู่? ไปเอาตัวไอ้สารเลวนั่นมา!”

“ขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์ มากับเราซะ!” จักรพรรดิเซวี่ยอิ่งหยุดลังเลและพุ่งออกไป ผลึกพลังฝ่ามือสีแดงเลือดที่ถาโถมลงมาจากท้องฟ้า ทั้งยังมีอานุภาพพลิกคว่ำปฐพีได้ คว้าเข้าใส่เฉินซีอย่างแรง

เคร้ง!

กระบี่เปลื้องมลทินหลุดจากฝัก และโจมตีโต้กลับไป

โดยธรรมชาติแล้ว เฉินซีจะไม่รอให้ความตายมาถึง แม้จะต้องต่อสู้อย่างสิ้นหวังและใช้ไม้ตายทั้งหมด เขาก็ไม่ลังเลที่จะทำมัน

อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่เขากำลังจะโจมตี จู่ ๆ กระบองเหล็กยาวสิบสองฉื่อก็ฉีกทะลุอากาศ ทำให้ฝ่ามือสีแดงเลือดสั่นสะเทือนและแตกสลายไป

ตู้ม!

กระบองเหล็กเปล่งแสงสีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เหมือนบรรจุพลังของมหาเต๋าอยู่มากมายในขณะที่มันโจมตี แรงขับเคลื่อนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากที่มันระเบิดฝ่ามือสีแดงเลือดจนเป็นจุณ มันยังคงพุ่งเข้าใส่จักรพรรดิเซวี่ยอิ่งอย่างดุเดือด

เหตุนี้กะทันหันเกินไป มันเหมือนกับสายฟ้าสีม่วงที่ฉีกกระชากห้วงอากาศ และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าฉีกกระชากทุกสิ่งให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]