เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1774

บทที่ 1774 แดนรวนเรลืมเลือน

………………..

บทที่ 1774 แดนรวนเรลืมเลือน

พลังเอกภพคืออะไรกันแน่? เฉินซีก็มิรู้ แต่ก็อดรู้สึกตกตะลึงกับคำอธิบายของท่านเทพธิดาไม่ได้

สามารถเอาพลังเช่นนั้นมาใช้ได้ด้วยหรือ?

วิ้ง!

ทันใดนั้น นางก็ใช้มือเรียวทำท่า ม่านแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ภาพที่สะท้อนอยู่ภายในนั้นคือเหล่าดวงดาราและทิวทัศน์ทั้งหลายในโลก ถ้าสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นว่าดาวแต่ละดวงมีเมืองใหญ่ตั้งอยู่ภายใน เป็นภาพที่น่ามหัศจรรย์ใจยิ่ง

มองดูม่านแสงนี่แล้วก็คล้ายกับมองดูเอกภพ

“นี่คือพลังเอกภพ มันฉายภาพของเอกภพสมุทรทักษิณาออกมา” นางเอ่ยเสียงเรียบ “แต่พลังบ่มเพาะในปัจจุบันของข้าเหนือกว่าขอบเขตมหาราชเทวาไปนานแล้ว และข้าได้มอบพลังเอกภพนี้ให้กับจักรพรรดิฉางเล่อ”

เฉินซีหรี่ตาลงด้วยความประหลาดใจ “พลังนี่มีผลอย่างไรกันแน่?”

นางตอบ “มันทำให้เจ้าได้รับพลังแก่นแท้สสารของทั่วทั้งเอกภพมาคอยสนับสนุนยามบ่มเพาะพลัง ดังนั้นยิ่งมีพลังแก่นแท้สสารแกร่งแค่ไหน โอกาสขึ้นสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋าก็ยิ่งมากตามไปด้วย”

นางส่ายหน้า “ไม่ใช่หลังจากขึ้นขอบเขตมหาราชเทวาหรอก แล้วเจ้ายังต้องเตรียมตัวมากมายเพื่อขึ้นสู่ขอบเขตมหาราชเทวาให้ได้ด้วย”

เฉินซีอึ้งไป แล้วหัวเราะเสียงขื่นออกมา “ทั่วทั้งแดนเทพโบราณแห่งนี้มีเพียงพันเอกภพเท่านั้น ทั้งแต่ละแห่งยังมีจักรพรรดิประจำอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้คงจะใช้พลังขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลชิงเอาพลังเอกภพมาไม่ได้หรอก”

นางพยักหน้า “หากไม่ใช่เช่นนั้น จะมีความต่างระหว่างจ้าวเอกภพและจักรพรรดิธรรมดาไปเพื่ออะไรกันเล่า?”

นางหยุดไปเล็กน้อยแล้วว่าต่อ “เจ้าต้องรู้ให้แจ่มแจ้งว่า ผู้ที่อยู่ในแดนเทพโบราณซึ่งสามารถขึ้นสู่ขอบเขตมหาราชเทวาได้ย่อมมีโอกาสเป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นกษัตริย์ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อย่างน้อยทั่วทั้งเอกภพสมุทรทักษิณาก็มียอดฝีมือเพียงสิบสามคนที่สามารถขึ้นสู่ขอบเขตมหาราชเทวาได้”

นั่นหมายความว่าอย่างไร?

ก็หมายความว่ายอดฝีมือขอบเขตมหาราชเทวานับได้ว่าเป็นตัวตนสูงสุดภายในแดนเทพโบราณแล้ว มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะก้าวถึงจุดนี้ได้

หากเทียบกันแล้ว จำนวนจักรพรรดิที่มีพลังเอกภพจึงยิ่งมีน้อยกว่า

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ยอดฝีมือขั้นกษัตริย์ที่มีพรสวรรค์ในการขึ้นขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขึ้นเป็นขอบเขตมหาราชเทวาได้ยากยิ่ง และหากอยากเป็นจ้าวเอกภพก็ยิ่งยากกว่าเดิม

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ซับซ้อน จ้าวเอกภพนั้นควบคุมดูแลเอกภพนับพัน แต่ละเอกภพก็มีดวงดารามีโลกทั้งหลายตั้งอยู่ มีขอบเขตกว้างใหญ่ไพศาล สิ่งมีชีวิตมากมายอาศัยอยู่ภายในนั้น

ทว่าในฐานะจ้าวเอกภพ คนที่จะเป็นได้ก็ต้องเป็นยอดฝีมือแห่งเอกภพ ต้องกุมอำนาจสูงส่งเอาไว้ในมือให้ได้

ไม่ต้องกล่าวถึงจ้าวเอกภพทั้งหลาย แค่จักรพรรดิธรรมดาก็ยังได้รับความเคารพสูงส่งไม่ว่าไปที่ใด เป็นดั่งจักรพรรดิทางสายเลือดที่โดดเด่นราวตะวันบนฟากฟ้า

อำนาจที่สูงส่งมาพร้อมกับความยากลำบากในการได้มา

ผู้บ่มเพาะพลังเองก็เช่นกัน จำนวนน้อยนิดของจักรพรรดิเองก็หมายความว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมือสูงส่งในแดนเทพโบราณ

ทว่าจักรพรรดิเจิ้นอู่จ้าวเอกภพภาสอุดร จักรพรรดิฉางเล่อจ้าวเอกภพสมุทรทักษิณา จักรพรรดินีอวี้เชอจ้าวเอกภพมสิหิม ย่อมเป็นจักรพรรดิที่โดดเด่นในหมู่จักรพรรดิด้วยกัน เป็นคนที่ไม่ว่าใครในแดนเทพโบราณก็ไม่กล้าล่วงเกิน

หากการขึ้นขอบเขตมหาราชเทวาเป็นเรื่องง่ายดายแล้ว เทียบอันดับรู้แจ้งจักรวาลก็คงไร้ประโยชน์

แม้เรื่องพวกนี้เหมือนจะไกลตัวเฉินซีที่อยู่เพียงขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นกลางในตอนนี้ แต่คำพูดของเทพธิดาก็ยังทำให้เขารู้สึกกดดันในใจอยู่ดี

บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลแบ่งออกตามรากเต๋าบรรพชนได้เป็น บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นธรรมดา บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นสูง บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นสุดยอด บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นกษัตริย์ บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นราชา และบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นจักรพรรดิ

ทว่าเมื่อเป็นขอบเขตมหาราชเทวา ก็จะไม่นับผู้ที่ใช้รากเต๋าบรรพชนซึ่งต่ำกว่ารากเต๋าบรรพชนขั้นราชวงศ์ในการทะลวงพลังเลย หรือก็คือมีแต่ผู้มีพรสวรรค์ในการเป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นกษัตริย์เท่านั้นจึงจะสามารถเป็นจักรพรรดิได้

ยังต้องหมั่นบ่มเพาะพลังและลงมือทำในด้านอื่นอีก!

การมีพรสวรรค์เป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นกษัตริย์เป็นเพียงเงื่อนไขเบื้องต้นในการขึ้นขอบเขตมหาราชเทวาเท่านั้น

ทว่าความแตกต่างในพลังเอกภพก็สามารถสร้างความต่างพลังของจักรพรรดิด้วยกันเองได้

“ในอดีต พื้นที่รอบแดนรวนเรลืมเลือนนั้นเต็มไปด้วยทัณฑ์สวรรค์ที่คอยยับยั้งเต๋าเอาไว้ ถึงแม้มหาเทพเต๋ามุ่งหน้าไปแต่ก็ไม่อาจหาตำแหน่งที่แน่ชัดได้ อีกทั้งยังเคยมีมหาเทพเต๋าผู้โชคร้ายเคยเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นด้วย”

นางดูอดทนอธิบายมาก ตั้งแต่ที่เริ่มคุยกันมา หากรู้สึกว่าเป็นคำถามที่ตอบได้ นางก็จะตอบแบบไม่ห่วงข้อมูลใดเลย

“แต่ตอนนี้ ทัณฑ์สวรรค์อ่อนลงอย่างมาก หากไม่มีเรื่องอะไรไม่นานก็คงสามารถหาทางเข้าไปในนั้นได้”

ทัณฑ์สวรรค์ที่ยับยั้งเต๋าได้! กระทั่งมหาเทพเต๋ายังเอาชีวิตไปทิ้ง?

เฉินซีตกตะลึง “มหาเทพเต๋าที่เอาชีวิตไปทิ้งนั่น… หรือว่าจะเป็นจ้าวเต๋าคุนเผิง?”

เทพธิดาชะงักไป จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง “ถูกต้องแล้ว ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้เรื่องนี้ด้วย จ้าวเต๋าคุนเผิงประสบเคราะห์ในคราวนั้นเพราะถูกทัณฑ์สวรรค์โลกาวินาศ ถึงสุดท้ายจะหนีออกมาจากแดนรวนเรลืมเลือนได้ แต่ก็ไม่สามารถทำลายทัณฑ์สวรรค์โลกาวินาศที่แทรกซึมเข้าร่างมาได้ ทำให้ร่างเขากลายเป็นแดนโลกาวินาศที่ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้”

“ถึงแม้ว่าทัณฑ์สวรรค์ในแดนรวนเรลืมเลือนจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเช่นข้าก็ยังน่าจะเข้าไปไม่ไหว” หลังจากหายตกใจแล้ว เฉินซีก็ขมวดคิ้วเอ่ยคำ

“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเป็นเขาเทพพยากรณ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวา นิกายอำนาจเทวะ สำนักเต๋า หรือสำนักศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจสร้างเส้นทางเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือนได้ด้วยตนเองทั้งนั้น เท่าที่ข้ารู้มา กองกำลังทั้งห้านี้คงจะร่วมมือกันเมื่อถึงเวลา” นางเอ่ยแฝงความนัย “ทว่าในฐานะที่เป็นศิษย์สายตรงของเขาเทพพยากรณ์ เจ้าย่อมมีโอกาสเข้าไปในนั้น”

เฉินซีชะงักไป จากนั้นประสานมือคำนับ “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ”

“อย่างไรช้าเร็วเจ้าก็จะรู้เอง” นางเอ่ยคล้ายบอกว่าไม่ต้องมากพิธี จากนั้นกล่าว “มีคำถามใดอีกหรือไม่?”

เฉินซีคิดอยู่เล็กน้อย “ผู้อาวุโส ตระกูลเส้าเฮ่า…”

เขายังพูดไม่ทันจบ นางก็โบกมือขัด “เรื่องนี้ข้ารู้ดีอยู่แล้ว เจ้าคิดจะถามว่าจะเอาอย่างไรกับเส้าเฮ่าอวี่และพวกดีใช่หรือไม่?”

เฉินซีพยักหน้า

นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เจ้านี้หาปัญหามาให้ข้าอยู่เรื่อย”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]