เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1807

บทที่ 1807 ภูเขาผนึกเทพ

………………..

บทที่ 1807 ภูเขาผนึกเทพ

เพียงพริบตา เย่เฉินและเสวี่ยฉิงเกอก็หายลับ

เฉินซียืนบนเรือสมบัติ ประจักษ์เรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็อดขำคิกไม่ได้ ใครเล่าจะคาดคิดว่าทายาทตระกูลเย่ผู้เรืองนามผู้นี้จะถูกหนึ่งสตรีตามล่าเพราะข้อตกลงแต่งงานจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน?

พริบตาต่อมา เฉินซีก็ส่ายหน้า กลับสู่ท้องเรือ

การพบหน้าอันเกินคาดคิดนี้ไม่ได้สร้างปัญหาใด ๆ แต่วาทะที่เย่เฉินทิ้งไว้ก่อนจากทำให้เฉินซีอดเกิดความรู้สึกฉงนใจขึ้นมาไม่ได้

ถกวิถีเต๋า?

เป็นเหตุการณ์ใหญ่เช่นใดหนอ?

ห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดินั้นสื่อถึงห้านิกายอันเก่าแก่ที่สุดในเอกภพจักรวรรดิ ประกอบด้วยเขาเทพพยากรณ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวา นิกายอำนาจเทวะ สำนักเต๋า และสำนักศักดิ์สิทธิ์

หนึ่งมหกรรมที่พวกเขาร่วมกันจัดย่อมต้องยิ่งใหญ่เกินใดเปรียบ เพียงพอเป็นที่สนใจของเหล่าผู้บ่มเพาะทั่วแดนเทพโบราณได้

ขณะนั้นเทพธิดาเคยบอกเขาว่า หากคิดเป็นจ้าวเอกภพหลังบรรลุสู่ขอบเขตจักรวรรดิ เขาก็ต้องมีพลังเอกภพ!

ทั่วทั้งแดนเทพโบราณ เอกภพใหม่นั้นสร้างได้ขึ้นเพียงในแดนรวนเรลืมเลือนอันสุดแสนลึกลับเท่านั้น

ทว่าแดนรวนเรลืมเลือนนั้นปกคลุมโดยปราณทัณฑ์สยบเต๋า ดังนั้นกระทั่งมหาเทพเต๋ายังไร้หนทางเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน

จ้าวเต๋าคุนเผิงก็ถูกปกคลุมด้วยปราณทัณฑ์จากการเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน และจบลงด้วยความตาย

จากวาทะเทพธิดา ตลอดกาลเกินสามร้อยล้านปี ปราณทัณฑ์ในแดนรวนเรลืมเลือนเริ่มอ่อนกำลังแล้ว หากไร้สิ่งใดเกินคาดหมาย อีกไม่นาน ก็จะสามารถสร้างเส้นทางสู่มันได้

แต่เทพธิดาก็กล่าวไว้เช่นกันว่า ทั้งเขาเทพพยากรณ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวา นิกายอำนาจเทวะ สำนักศักดิ์สิทธิ์ และสำนักเต๋า ทุกมหาอำนาจที่ว่ามาล้วนไม่อาจสร้างเส้นทางขึ้นได้ด้วยตนเอง

จากการอนุมานของนาง ห้ามหาอำนาจน่าจะร่วมมือกันยามถึงกาล เพื่อสร้างเส้นทางเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน

เพราะรู้เช่นนี้ เฉินซีจึงพลันตระหนักว่าการถกวิถีเต๋าซึ่งห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิร่วมมือจัด อาจเป็นการเตรียมตัวสร้างเส้นทางสู่แดนรวนเรลืมเลือน!

เฉินซีรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นจริง!

เพราะถึงอย่างไร จากสิ่งที่เฉินซีทราบมา เขาเทพพยากรณ์และนิกายอำนาจเทวะกล่าวได้ว่าไม่อาจสมานฉันท์เช่นน้ำกับไฟ แต่ในเมื่อพวกเขาทิ้งความเป็นปรปักษ์ชั่วคราวและร่วมมือจัดการถกวิถีเต๋าหนนี้ พวกเขาก็ต้องมีข้อตกลงบางอย่างต่อกัน

หรือบางทีเหตุผลที่ห้ามหาอำนาจยิ่งใหญ่เหล่านี้ร่วมมือกันได้ ก็ต้องเพื่อร่วมมือทำบางสิ่ง!

เห็นได้ชัดว่า ความสำคัญของการสร้างเส้นทางสู่แดนรวนเรลืมเลือนเพียงพอ ทำให้ห้ามหาอำนาจยิ่งใหญ่สมานฉันท์ร่วมมือกันได้ชั่วคราว

ไม่นานเฉินซีก็หยุดครุ่นคิด หากเป็นไปตามเขาประมาณ ขอเพียงเขาไปถึงเขาเทพพยากรณ์ได้อย่างสวัสดิภาพ ศิษย์พี่ชายหญิงในสำนักจะบอกให้เขาเข้าร่วมการถกวิถีเต๋าอย่างแน่นอน

ฟิ่ว!

เรือสมบัติเคลื่อนต่อ หายลับไปในท้องนภาพร่างพราวอย่างรวดเร็ว

สิบวันจากนั้น เฉินซียืนตัวตรงที่หัวเรือ สายตาทอดมองไปไกล คลองจักษุปรากฏภาพอันชวนตะลึงยิ่ง

หนึ่งหมู่ดาราเรืองรองโคจร แปรเปลี่ยนเป็นมหาธารดารารินไหลท่ามกลางสุญตาอันไร้ขอบเขต

ดวงดาวทุกดวงเรืองรัศมีศักดิ์สิทธิ์ดุจสสาร บ้างแผดผลาญเช่นเพลิง ครามเข้มเช่นสมุทร เงินขาวดุจหิมะ ดำสนิทเช่นหุบเหว… สารพัดสีพร่างพราว ขับเน้นความงามซึ่งกันและกัน เป็นภาพสุดตระการ

เมื่อมองจากไกล ๆ มันดูประหนึ่งอนันตนครแห่งเทวา ยืนตระหง่านตราบกาล ไร้ความกลัวการกัดกร่อนจากมรสุมแห่งกาล ยืนยงยาวนานสะท้านจิต

เอกภพจักรวรรดิ!

เฉินซีไม่ต้องคิดก็ตัดสินได้ทันที ว่าธารดาราที่นี่คือสถานที่ตั้งของเอกภพจักรวรรดิ!

ในแดนเทพโบราณมีเอกภพนับพัน ดาราจักรนับไม่ถ้วนในแดนเทพโบราณ แต่หากเป็นด้านชื่อเสียง ผู้ยืนยงเหนือใครก็คือเอกภพจักรวรรดิ แกนกลางแห่งแดนเทพโบราณ

มันเป็นเอกภพอันยืนยงและเก่าแก่สูงสุดในแดนเทพโบราณ ตลอดหลายปีผ่านมา ตัวตนเกินธรรมดานับไม่ถ้วนก่อเกิดขึ้น ขณะที่ยอดคนอันโด่งดังเป็นตำนานสารพัดเผยวีรกรรมอันชวนสรรเสริญขึ้นที่นี่

สิ่งนี้ยังทำให้ปราณเต๋าสวรรค์ทั่วฟ้าดินยิ่งดูหนาแน่นสมบูรณ์ หากบ่มเพาะที่นี่ ก็ไม่ต้องพึ่งผลึกศักดิ์สิทธิ์ในการดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์เลิศล้ำเลย!

มิน่าเล่า ทุกผู้จึงเห็นเอกภพจักรวรรดิเป็นแดนสวรรค์ในการบ่มเพาะ เพียงพลังศักดิ์สิทธิ์ในฟ้าดินก็เกินเอกภพใดเทียบแล้ว… เฉินซีทอดถอนใจ เขาตระเวนแดนดินมากมายในช่วงกาลผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับเอกภพจักรวรรดิตรงหน้า ความต่างชั้นก็ปรากฏชัดเจนทันตา

ระหว่างทาง เฉินซีเชิญเยี่ยเหยียนออกจากจักรวาลในร่างเขา

ดังนั้นหากให้นางนำทาง ก็เลิศล้ำกว่าปล่อยให้เฉินซีงมทางเอาเองมากนัก

“เอกภพอนันตะ? ไกลอยู่เอาการเลยนะ” เมื่อนางได้ยินว่าปลายทางคือเอกภพอนันตะ คิ้วงามของนางก็เลิกขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ต่อให้เราเดินทางแบบไม่พัก อย่างน้อยที่สุดกว่าจะไปถึง ก็ต้องใช้เวลาเกินเดือนเชียว”

“เกินเดือน?” เฉินซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงตอบ “ขอเพียงไม่มีเหตุใดระหว่างทาง ก็ได้ทั้งนั้น”

เยี่ยเหยียนพยักหน้า แล้วนางก็รำพึงราวนึกถึงบางอย่างได้ “น่าเสียดายที่ยามนี้ข้าไม่อาจกลับตระกูล มิเช่นนั้นเราก็ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติในตระกูลข้าไปยังเอกภพอนันตะในหนึ่งวันได้”

“ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติ?” เฉินซีเหมือนจะจมในภวังค์ความคิด “ค่ายกลนี้หายากมากหรือไม่?”

“ยากจริง ๆ ค่ายกลเช่นนี้เชื่อมต่อไปทั่วแปดพันดาราจักรในเอกภพจักรวรรดิ เท่าที่ข้ารู้ มีเพียงมหาอำนาจสูงสุดอันเก่าแก่สุดขั้วจึงมีค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติเช่นนี้” เยี่ยเหยียนอธิบาย ขณะเดียวกัน นางก็หาสังเกตไม่ว่าจู่ ๆ สีหน้าของเฉินซีก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาตวัดไปยังท้องนภาพร่างพราวแสนไกลอย่างรวดเร็ว

“นั่นอะไร….” เสียงของเฉินซีเคร่งขรึม ในคลองจักษุของเขาปรากฏเค้าภาพภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่ง ดูประหนึ่งสุดห่างไกลเกินเอื้อมในส่วนลึกแห่งท้องนภาพร่างพราว นอกจากนั้นยังให้บรรยากาศยิ่งยงเคร่งขรึมสุดขั้ว สร้างความครั่นคร้ามยำเกรงในใจผู้คนเพียงมองมา

เยี่ยเหยียนผงะไป และเมื่อมองตาม สีหน้าครั่นคร้ามอันหาได้ยากก็ปรากฏบนใบหน้าขาวอันเปี่ยมเสน่ห์

“นั่นคือภูเขาผนึกเทพ อยู่มาตั้งแต่ยามแดนเทพโบราณแรกบังเกิด เบื้องบนมีเทวาคารบรรลุเทพสร้างไว้ จากตำนานเล่าว่าเทียบอันดับเทวาซ่อนอยู่ที่นั่น และอำนาจของมันก็ผนวกด้วยเต๋าสวรรค์สูงสุด ครอบคลุมทั่วแดนเทพโบราณ” เสียงของเยี่ยเหยียนเจือความยำเกรงอย่างผิดธรรมดา “นับแต่โบราณ มันเป็นพื้นที่ต้องห้ามอันเป็นตัวแทนเกียรติยศสูงสุดแห่งเต๋าสวรรค์ มีเพียงมหาเทพเต๋าเท่านั้นที่เหยียบย่างเข้าสู่ บรรลุเข้าใจเคล็ดบรรลุเทพที่แท้จริงได้ ส่วนคนธรรมดาหรือ แค่เข้าใกล้ก็ไม่มีทางเลย….”

ภูเขาผนึกเทพ!

สถานที่เร้นเทียบอันดับเทวา!

หัวใจของเฉินซีกระตุกรุนแรง อารมณ์ซึ่งเดิมสุขุมเยือกเย็นของเขากระเพื่อมไหวเฉียบพลัน

ก่อนหน้านี้ เขาสังเกตพบคลื่นพลังสายหนึ่งบังเกิดจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากซึ่งเงียบงันเสมอมาในห้วงจิตสำนึกของเขา ดูเหมือนชิงชังต่อต้านอำนาจบางอย่างอยู่ ในที่สุดยามนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าเพราะภูเขาผนึกเทพซึ่งตั้งอยู่แสนไกลในท้องนภาพร่างพราวอันเป็นตัวแทนเกียรติยศสูงสุดแห่งเต๋าสวรรค์นี้นี่เอง!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]