เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1847

บทที่ 1847 หนึ่งต่อห้า

………………..

บทที่ 1847 หนึ่งต่อห้า

ตกกลางคืน

เฉินซีผู้กำลังทำสมาธิก็รู้สึกสั่นไหวอยู่ภายใน

ฟ่าว!

ร่างของเฉินซีวูบไหวก่อนจะหายไปจากจุดที่เคยอยู่

แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่สิ้นเสียงโครม แสงศักดิ์สิทธิ์สีดำก็ปรากฏขณะตัดก้อนหินที่เฉินซีนั่งขัดสมาธิออกเป็นสองส่วน

แสงศักดิ์สิทธิ์สีดำนั้นคมปลาบเกินไป มันปรากฏโดยไม่มีการแจ้งเตือนและไม่เกิดเสียงตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่พลังของมันทรงพลังมาก ไม่เพียงตัดผ่านหินได้อย่างง่ายดายเท่านั้น แต่ยังทะลุผ่านรอยแยกที่ลึกสุดหยั่งในพื้นได้อีกด้วย!

เฉินซีเคยสังเกตว่าทุกสิ่งในพิภพกุมภเต๋าแตกต่างจากโลกภายนอก มันเต็มไปด้วยมหาเต๋าที่ไร้ใครเทียบ แม้กระทั่งหินธรรมดาก็แข็งแกร่งประหนึ่งสมบัติศักดิ์สิทธิ์

ถึงกระนั้นภายใต้การโจมตีนี้ มันถึงกับสามารถทำให้เกิดพลังทำลายล้างได้ เป็นไปได้ว่าหากหลบไม่ทันเวลาก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่

ภายใต้ม่านราตรี เฉินซียืนอยู่ในห้วงอากาศอันไกลลิบ ดวงตาราวกับสายฟ้าแลบขณะเหลือบมองรอบข้าง

เพียงพริบตา การรับรู้อันยิ่งใหญ่ของเขาก็จับร่างทั้งห้าได้

กลิ่นอายของคนเหล่านั้นถูกสะกดเอาไว้ราวกับหลอมรวมเข้ากับม่านราตรี ไม่ต่างจากเทพปิศาจที่เดินอยู่ในความมืดอย่างเงียบงัน

หากไม่สัมผัสอย่างถ้วนถี่ก็ยากที่จะตรวจจับตัวตนของอีกฝ่ายได้

เห็นได้ชัดว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลับปกปิดกลิ่นอายเพื่อให้สามารถก้าวมาถึงขั้นนี้ได้

นิกายอำนาจเทวะ!

เฉินซีหรี่ตาก่อนแสงสว่างเย็นเยือกจะปรากฏ

เขาจำอีกฝ่ายได้ ต่อให้จะเก็บซ่อนกลิ่นอายเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหนีจากอักขระผนึกเต๋าของเฉินซีได้

“ผู้อาวุโสของนิกายอำนาจเทวะ เหวินเยี่ยน ตัวตนผู้อยู่ขั้นสมบูรณ์ของขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลและอยู่อันดับยี่สิบหกในเทียบอันดับรู้แจ้งจักรวาล”

“ผู้อาวุโสของนิกายอำนาจเทวะ หลู่จ่างเฮิ่น ตัวตนผู้อยู่ขั้นสมบูรณ์แบบของขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลและอยู่อันดับยี่สิบเก้าในเทียบอันดับรู้แจ้งจักรวาล”

“ผู้อาวุโสของนิกายอำนาจเทวะ จ่านอิง…”

ตัวตนของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นในใจของเฉินซี

ตอนอยู่ในเมืองทศทิศ เหวินถิงได้แจ้งให้พวกเฉินซีทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้บ่มเพาะทั้งหมดที่เข้าร่วมการถกวิถีเต๋าแล้ว

นี่ยังนับเป็นการรู้เขารู้เราเพื่อให้สามารถต่อสู้ได้โดยไม่เกิดอันตราย

เห็นได้ชัดว่าข้อมูลนี้ทำให้เฉินซีทำการตัดสินได้อย่างที่แม่นยำ

ฟ่าว ฟ่าว ฟ่าว!

แม้ทั้งหมดนี้จะฟังดูเชื่องช้า แต่ความจริงแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา เมื่อเฉินซีสัมผัสได้ถึงตัวตนของคู่ต่อสู้ อีกฝ่ายก็โจมตีเขาจากทุกทิศทาง

ฟิ่ว!

ชายสวมชุดคลุมสีเขียวเข้มเข้ามาก่อน เขากุมดาบจันทร์เสี้ยวสั้นสีม่วงซึ่งก่อให้เกิดปราณดาบสีม่วงนับไม่ถ้วน มันคำรามไปทางเฉินซีประหนึ่งคลื่นอันเจิดจ้า

ภายใต้ม่านราตรี ปราณดาบสีม่วงประหนึ่งสายฝนปกคลุมฟ้าดินเป็นจำนวนมากขณะเคลื่อนไหวไปมาไร้ที่สิ้นสุด ทำให้มิติและเวลาปั่นป่วนประหนึ่งผ้าขี้ริ้วที่ฉีกขาด

การโจมตีนี้น่าสะพรึงนัก!

พลังดังกล่าวเกินกว่าที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลทั่วไป เขาไม่เอ่ยคำอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้เผยจิตสังหารเพื่อหมายจะกำจัดเฉินซีในคราวเดียว!

ครืนน! ครืนน! ครืนน! ครืนน!

แทนจะในเวลาเดียวกัน ทั้งเหนือใต้ออกตก ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลทั้งสี่คนจากนิกายอำนาจเทวะก็ลงมืออย่างอาจหาญ

เคล็ดวิชาสูงสุดปลดปล่อยภัยพิบัติมหาศาล

สมบัติศักดิ์สิทธิ์ไร้ใครเทียบทำการสำแดงพลังอันน่าประหลาด

พลังของเทพอสูรที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุด

การโจมตีวิญญาณที่ลึกลับและหนักหน่วง

ในเวลาเดียวกัน กองกำลังที่มาจากทั้งสี่ทิศร่วมมือกับผู้นำเพื่อปิดผนึกดินแดนภายในรัศมีหนึ่งแสนลี้อย่างสมบูรณ์ มันเต็มไปด้วยการโจมตีอันชั่วร้ายและพรั่นพรึงจำนวนมาก

เหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบได้กับจุดจบของโลก ชั่วพริบตา ราตรีอันมืดมิดก็สว่างไสวด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนประหนึ่งยามกลางวัน มันทั้งพร่างพราวและงามงด

ในตอนนี้ อย่าว่าแต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลธรรมดาเลย แม้กระทั่งบุคคลไร้เทียมทานที่ถูกกลิ่นอายของศัตรูนับหมื่นถาโถมก็ต้องหลบเลี่ยงชั่วคราวเมื่อเผชิญกับเหตุอันน่าสะพรึงเช่นนั้น

แต่ว่า…

เฉินซีกลับไม่หลบ

ก่อนการต่อสู้ครั้งนี้จะปะทุ ผู้คนมากมายนอกพิภพกุมภเต๋าต่างให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้

พวกเขาทราบว่าการต่อสู้ครั้งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ นับตั้งแต่ทันทีที่เฉินซีเผชิญกับการลอบโจมตี หัวใจของผู้คนทั้งหลายก็สั่นสะท้านและกังวลเกี่ยวกับเฉินซี

หลายคนต่างคร่ำครวญ

“ในความคิดของข้า พลังการต่อสู้ที่เฉินซีแห่งเขาเทพพยากรณ์สำแดงไม่ด้อยไปกว่าเหลิ่งซิงหุน คงโหยวหราน ตงหวงอิ่นเซวียน และคนอื่นเลยสักนิด”

บางคนกำลังเปรียบเทียบเฉินซีกับคนอื่นที่มีชื่อเสียงมายาวนานอย่างภาคภูมิใจ

“ข้าไม่อยากให้เฉินซีถูกคัดออกเช่นกัน ถึงอย่างไรการใช้พวกมากลากไปก็ถือเป็นการกลั่นแกล้งเล็กน้อย หากพวกเราสามารถปล่อยให้เฉินซีและเหลิ่งซิงหุนต่อสู้ทีละคน มันก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีจนสามารถแยกแยะระดับที่แท้จริง”

ยังมีหลายคนที่กังวลเกี่ยวกับเฉินซีและไม่อาจทนดูเขาพ่ายแพ้และถูกคัดออกได้

แต่บรรยากาศในโถงบรรจบกลับเงียบสงัด

เพราะในการดวลครั้งนี้อาจมีทั้งความยุติธรรมและอยุติธรรม แต่เหวินถิงทราบว่าการโจมตีที่เฉินซีเผชิญนั้นเป็นแผนการสมคบคิดที่นิกายอำนาจเทวะได้วางเอาไว้เป็นเวลานานแล้วอย่างแน่นอน!

เหวินถิงจะมีความสุขได้อย่างไรเมื่อการถกวิถีเต๋าเต็มไปด้วยการสมคบคิด

“เหอะ ข้าไม่คาดหวังอยู่แล้วว่าเด็กคนนี้จะมีพลังมหาศาลอย่างที่ข่าวลือกัน แต่อย่างน้อยชื่อเสียงของเขาเทพพยากรณ์ก็ไม่เสื่อมเสีย ช่างน่าเสียดาย”

ทันใดนั้น เล่ยฝู ปุโรหิตชุดแดงจากนิกายอำนาจเทวะก็หัวเราะแผ่วเบาพลางเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเสียดาย มันยากที่จะแยกแยะได้ว่าเขากำลังล้อเลียนหรือแสดงความยินดีในความโชคร้ายของเฉินซี

“ถูกต้อง เขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน”

ฉือซงจื่อซึ่งเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เอ่ยเสริมอย่างราบเรียบ “ถ้าโชคไม่อำนวย ทุกอย่างก็ไม่เป็นผล”

มุมปากของไฮว่คงจื่อกระตุกจนแทบมองไม่เห็น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ห้ามการสนทนา ‘ยั่วยุ’ นี้

เขาคำนึงถึงคำแนะนำของอาจารย์ลุงไฉ่หยา ตราบใดที่การถกวิถีเต๋าดำเนินไปอย่างราบรื่น เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่น

เหวินถิงคิ้วขมวดก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วเหลือบมองไปที่เล่ยฝูกับฉือซงจื่ออย่างเย็นชาราวกับกำลังรอให้เอ่ยคำบางอย่าง

ในตอนนี้ นางก็ตกตะลึงอีกครั้งราวกับว่าสังเกตเห็นบางอย่าง ก่อนจะเผยรอยยิ้มแล้วเอ่ยคำอย่างเนิบช้า “พวกรนหาที่ตายมักมีจุดจบไม่สวยหรอก”

ประโยคนี้คล้ายกับเข้าใจยากเล็กน้อย

แต่เมื่อทุกคนมองไปที่ม่านฉายศักดิ์สิทธิ์แห่งสุขาวดีบนท้องนภานอกห้องโถงอีกครั้ง พวกเขาก็เข้าใจความหมายของประโยคนี้ทันที

เพราะในตอนนี้ พวกเขาล้วนเห็นร่างที่ถูกซัดออกจากสนามรบที่เต็มไปด้วยควันอย่างรุนแรงราวกับว่าวที่ป่านขาด

ชายคนนั้นกรีดร้องอย่างเวทนาขณะเลือดไหลออกมาจากปากและจมูก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ทำให้ยิ่งดูอเนจอนาถอย่างยิ่ง

แต่หากดูให้ดีก็จะเห็นว่าชายผู้นี้คือผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลจากนิกายอำนาจเทวะ!

เขาคล้ายกับได้รับบาดเจ็บสาหัสจนอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตื่นตระหนกยิ่ง

พริบตาต่อมา ทั่วร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยพลังแห่งฟ้าดินก่อนจะถูกบังคับให้ออกจากพิภพกุมภเต๋าทันที!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]