เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1848

บทที่ 1848 ตกตะลึงทั่วทั้งเมือง

………………..

บทที่ 1848 ตกตะลึงทั่วทั้งเมือง

ยอดฝีมือขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอันบ่มเพาะจนแข็งแกร่งพอเข้าร่วมการถกวิถีเต๋านี้ย่อมไม่พ้นตัวตนตะลึงหล้า มีความคิดความอดทนเกินธรรมดาแน่แท้

ทว่ายอดฝีมือขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลจากนิกายอำนาจเทวะผู้นั้นกลับส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา หลังถูกฟาดกระเด็นไป เขาก็ถูกบังคับส่งออกจากการถกวิถีเต๋าโดยไม่มีแม้แต่โอกาสขัดขืน

เขาไปเจอการโจมตีร้ายกาจเช่นไรกันแน่?

เขาเจ็บปวดเช่นไร?

ไร้ผู้ตระหนักทราบ

และยังไร้ผู้ทราบว่าเหตุใดเขาจึงพ่ายเร็วนัก!

ดังนั้นยามประจักษ์เหตุเหล่านี้ ผู้บ่มเพาะมากมายต่างตกตะลึง ตกใจกันเป็นอย่างยิ่ง

ไม่อาจคาดคิดได้ว่านี่คือฝีมือของเฉินซี

แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้าย ยอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะผู้นั้นก็ถูกตัดสิทธิ์

นี่คือสัจธรรม!

ในโถงบรรจบ รอยยิ้มที่มุมปากของเล่ยฝูชะงัก ม่านตาหดตัว สีหน้าดำคล้ำลงเฉียบพลัน

ฉือซงจื่อตะลึงนิ่ง ใบหน้าของเขาปรากฏเค้าประหลาดใจระคนฉงน เม้มปากรักษาความเงียบ

เมื่อเห็นเช่นนี้ ในที่สุดทุกผู้ในโถงก็เข้าใจความนัยเบื้องหลังวาจาของเหวินถิงเมื่อกาลก่อน

ผู้วอนความตายไม่เคยพบจุดจบที่ดี?

วาทะเหล่านั้นเหมือนจะเป็นความจริง

อวี้เจินชำเลืองเหวินถิงพลางกล่าวชมอย่างประหลาดใจ “อาจารย์อาเล็กของเจ้าไม่ธรรมดาจริง ๆ”

“แน่นอน” เหวินถิงแย้มยิ้มตอบตามจริง ความสามารถของเฉินซีสูงส่งเช่นนี้ได้ทำให้นางประหลาดใจระคนยินดี

สิ่งสำคัญที่สุดคือ นางประหลาดใจเมื่อสังเกตพบว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!

ตู้ม!

ศึกในพิภพกุมภเต๋ายังคงดำเนินต่อ ฟ้าดินสั่นสะท้าน โลกหล้าป่วนโกลาหล

ความพ่ายแพ้ของยอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะผู้นั้นเป็นเช่นสัญญาณ ทำให้สถานการณ์ซึ่งเดิมคานสมดุลเอียงเข้าหาเฉินซีอย่างเฉียบพลัน

เปรี้ยง!

เพียงครู่ต่อมา ปราณกระบี่สายหนึ่งทะยานเวหา เรืองประกายเย็นเยียบสะท้านดาราเก้าชั้นสรวง!

การออกกระบี่นี้เจิดจรัสยิ่งจริงแท้ น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก ยอดฝีมือขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลผู้หนึ่งจากนิกายอำนาจเทวะกลายสภาพเป็นแสงสีขาว ถูกบังคับให้เคลื่อนย้ายออกจากพิภพกุมภเต๋าโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะแผดร้อง!

สิ่งนี้หมายความว่า กฎแห่งฟ้าดินอันปกครองทั่วพิภพกุมภเต๋าตัดสินแล้วว่ายอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะผู้นั้นไม่อาจรับหรือหลบฤทธาการโจมตีนี้ได้ หากถูกมันเข้า เขาตายแน่!

“พ่ายไปอีกคนแล้ว!”

หัวใจของผู้บ่มเพาะมากมายในโลกภายนอกเต้นกระตุก สูดหายใจเฮือกตาม ๆ กัน

ตู้ม!

ก่อนพวกเขาจะทันหายตะลึง เฉินซีก็ออกท่าเท้าลึกล้ำ ในมือมีกระบี่เปลื้องมลทิน ประหนึ่งมหาเทพกระบี่ไร้เทียมทาน เจตจำนงกระบี่เลิศล้ำเรืองรองทั่วนภา บดขยี้ยอดฝีมือไปอีกหนึ่ง!

เสียงอุทานดังเอ็ดอึง!

ตกใจ!

เหลือเชื่อ!

ในโลกภายนอก ขอเพียงผู้บ่มเพาะคนใดได้พบเห็น พวกเขาทุกผู้ล้วนจังงัง ตกตะลึงอย่างลึกล้ำโดยฤทธาอหังการของเฉินซี

ก่อนหน้านี้ ยามเฉินซีประชันศึกกับห้ายอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะ ผู้บ่มเพาะส่วนใหญ่ก็ตระหนักแล้วว่าอำนาจต่อสู้ของเฉินซีร้ายกาจเกินธรรมดา

แต่ไร้ผู้ใดคาดคิดว่าเขาจะสามารถทำได้เช่นนี้แม้จะถูกหลายรุมหนึ่ง!

เปรี้ยง!

เพียงชั่วกาลอันสั้น ยอดฝีมืออีกคนจากนิกายอำนาจเทวะก็ถูกกำจัด อกถูกผ่าแบะ หากอำนาจฟ้าดินไม่ปรากฏขึ้นบังคับเคลื่อนย้ายทันเวลา เขาก็คงต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่

ขณะนี้บรรยากาศในโถงบรรจบเงียบกริบไร้วจี ถึงขนาดเข็มสักเล่มตกยังได้ยินทันควัน

ฝุ่นควันจางตัว

ยอดฝีมือคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของนิกายอำนาจเทวะตระหนักแล้วว่าสถานการณ์ย่ำแย่ จึงหันหลังทะยานหนีไปบนท้องนภา

หากมองดี ๆ ก็จะสังเกตเห็นได้ว่าใบหน้าของเขาบึ้งตึง ดวงตาเปี่ยมโทสะระคนหวาดผวา แม้จะกำลังหนี มือก็ยังสั่นสะท้านเกินควบคุม

เขากลัว ขวัญเสียอย่างแท้จริง

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมาเจอคู่ต่อสู้น่าสะพรึงกลัวอย่างเฉินซีจากเหล่าบุคคลร่วมขอบเขตบ่มเพาะ มันเหมือนได้เผชิญภูผาสูงเกินสั่นคลอน ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังไร้กำลัง

ยามเห็นเหล่าสหายถูกสยบกำจัดอย่างน่าเวทนาทีละคน ประจักษ์ชัดถึงฤทธาปราณกระบี่ของเฉินซี กระทั่งดวงจิตแห่งเต๋าอันแข็งแกร่งยังสั่นสะท้าน มิอาจควบคุมกิริยาอย่างช่วยไม่ได้

ให้ความรู้สึกดุจแกะเผชิญสิงโตลอบสังหาร!

อำนาจฟ้าดินนี้มาจากหม้อต้นกำเนิดพลิกชะตา ครอบคลุมทั่วพิภพกุมภเต๋า ไม่ใช่สิ่งที่เขาสู้ได้เลย

จากการอนุมานของเฉินซี กระทั่งจักรพรรดิยังน่าจะไม่อาจฝืนอำนาจฟ้าดินเช่นนี้ได้

เว้นแต่… จะเป็นมหาเทพเต๋า!

ฟิ่ว!

เฉินซีหันกายจากสมรภูมินั้นไปอย่างไม่ลังเล

ที่นี่เกิดเสียงอึกทึกมากเกินไป และเขายังมีหม้อจารึกเต๋าโบราณใบหนึ่งกับตัว จึงสุดแสนง่ายดายที่จะดึงความสนใจของผู้อื่น

แต่เค้าความกังวลลึกล้ำเอ่อขึ้นมาในใจเฉินซี กระทั่งข้ายังเผชิญการลอบโจมตีเฉียบพลัน แล้ว… พวกกู่เยี่ยนเล่า?

พวกเขาก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ด้วยหรือไม่?

คนจากโลกภายนอกหาตระหนักถึงความกังวลในใจเฉินซีไม่ เมื่อพวกเขาเห็นเฉินซีเอาชนะยอดฝีมือทขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลจากนิกายอำนาจเทวะทั้งห้า กำจัดออกจากการถกวิถีเต๋าด้วยตัวคนเดียว พวกเขาก็ระเบิดเสียงฮือฮากันอย่างช่วยไม่ได้

“ร้ายกาจ! ร้ายกาจเกินไปแล้ว! นี่หรืออำนาจต่อสู้ของเฉินซีแห่งเขาเทพพยากรณ์ หากข้าไม่ได้ประจักษ์ด้วยสองตานี้ ข้าหรือจะกล้าเชื่อว่าเขาร้ายกาจถึงเพียงนี้แล้ว?” ใครบางคนตกตะลึงกับอำนาจต่อสู้ของเฉินซี

“ด้วยศึกนี้ เฉินซีแห่งเขาเทพพยากรณ์ก็เทียบชั้นตัวตนอย่างเหลิ่งซิงหุน คงโหยวหราน ตงหวงอิ่นเซวียน และเย่เฉินได้เลย”

“ไม่ธรรมดา! ข้ารึก็คิดว่ากู่เยี่ยนแห่งเขาเทพพยากรณ์เท่านั้นที่แก้สถานการณ์ได้ แต่ยามนี้ เหมือนข้าจะประเมินความสามารถของเขาเทพพยากรณ์ต่ำไปหน่อย”

“เฉินซีผู้นี้บ่มเพาะเช่นไรกันแน่? ข้าได้ยินว่าเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เขายังเป็นเพียงเทวารู้แจ้งวิญญาณอยู่เลย แต่นี่เขาแข็งแกร่งเพียงนี้แล้วหรือ? คิดตามไม่ได้! นึกภาพไม่ออกจริง ๆ!”

ขณะเดียวกัน เฉินซีเด่นดังในชั่วข้ามคืน ผู้คนมากมายพูดถึงเขาอย่างออกรส

สู้ศัตรูห้าคนลำพัง แต่ยังสามารถกุมชัยสุดท้ายได้ สิ่งนี้ลำพังก็เหมือนปาฏิหาริย์อันเป็นไปไม่ได้ น่าตกใจอย่างยิ่ง

แต่พวกเขาก็ตระหนักดี ว่าการถกวิถีเต๋าเพิ่งเริ่มเท่านั้น ผลสุดท้ายจะเด่นชัดก็สามเดือนจากนี้

เพราะเหตุนี้เอง เสียงหารือของพวกเขาจึงเปี่ยมความลุ้นรอ

โถงบรรจบ

สีหน้าของเล่ยฝูเย็นเยียบเช่นน้ำแข็ง

ฉือซงจื่อเม้มปากเงียบกริบ

ไฮว่คงจื่ออุทานอย่างชื่นชมในใจ ตกตะลึงในความสามารถที่เฉินซีแสดง ทว่าเขาไม่อาจแสดงออกได้ด้วยต้องพิจารณาสถานการณ์

ขณะเดียวกัน เหวินถิงแย้มยิ้ม กระดกจอกสุราดื่มในรวดเดียว

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]