บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 186

บทที่ 186 เขตแดนเต๋าแห่งการสังหาร

บทที่ 186 เขตแดนเต๋าแห่งการสังหาร

สวรรค์และโลกถูกปกคลุมด้วยความมืดอันไร้ขอบเขต จิตสังหารพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเสียงคร่ำครวญและเสียงโหยหวนของภูตผีที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ และทุกสรรพสิ่งต่างก็เต็มไปด้วยเจตนาแห่งการเข่นฆ่า ความตายได้ถาโถมและโหมกระหน่ำอยู่ในที่แห่งนี้

สถานที่แห่งนี้ถูกแยกออกจากโลกภายนอก เขตแดนนี้เป็นของหานกู่เยว่ และเขาเป็นจ้าวผู้ปกครองสูงสุดท่ามกลางสวรรค์และโลกใบนี้!

นี่คือเขตแดนเต๋า!

มันเป็นระดับขั้นใหม่ของเต๋าที่จะก่อตัวขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสะสมมวลพลังของเต๋ารู้แจ้งอย่างสุดขั้วจนถึงขีดสุด เมื่อมันถูกใช้งานออกไป คนผู้นั้นจะสามารถครอบครองตำแหน่งที่เหนือกว่าภายในเขตแดนของตน และสามารถแยกความรู้สึกของศัตรูออกจากสรรพสิ่งมากมายภายในสวรรค์และโลก ทำให้ศัตรูต้องตกอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอและต้องร้องขอความเมตตาต่อการถูกลงทัณฑ์

ยิ่งไปกว่านั้น เขตแดนเต๋าจะถูกควบแน่นจากบรรลุเต๋าแห่งสวรรค์ของผู้บ่มเพาะ ดังนั้นเมื่อศัตรูติดอยู่ภายในนั้น จิตใจของพวกเขาจะถูกทรมานจากแรงกดดันของเต๋ารู้แจ้งอันไร้ขอบเขต จนทำให้พละกำลังในการต่อสู้ของพวกเขาอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก ซึ่งมันเป็นความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง

“เป็นไปได้อย่างไร!? หานกู่เยว่ผู้โง่เขลาคนนี้เข้าใจเขตแดนเต๋าเมื่อใดกัน”

“นี่มันเขตแดนเต๋า! เราจบสิ้นแล้ว! พวกเราจบสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว!”

“เจ้าเฒ่าสารเลวหาน มีการบ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสูง และยังถือสมบัติวิเศษที่เป็นเคียวลึกลับอยู่ในมือ อีกทั้ง ตอนนี้เขาได้ใช้เขตแดนเต๋าของเขาแล้ว วันนี้เราจะเอาชีวิตรอดได้อยู่อีกหรือ?”

ทันทีที่พวกเขาติดอยู่ภายในเขตแดนเต๋าแห่งการสังหาร สีหน้าของผู้คุ้มกันขอบเขตเคหาทองคำทั้งสี่คนที่อยู่ด้านข้างของถันไถจื่อเซวียนต่างก็ซีดลงในทันที และสายตาของพวกเขาแสดงถึงความหวาดกลัวอย่างไร้ขอบเขต กำลังใจที่จะสู้ของพวกเขาได้สลายไปอย่างสิ้นเชิง

เฉินซีก็รู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจของเขาเช่นกัน เนื่องจากเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสายสัมพันธ์ของเขากับสวรรค์และโลกได้ถูกตัดขาดลง ยิ่งไปกว่านั้น จิตวิญญาณและจิตใจของเขาได้รับการทรมานจากแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้พลังจิตใจส่วนหนึ่งเพื่อต่อต้านมัน ก่อนที่จะไม่สามารถทนต่อแรงกดดันที่ไร้รูปร่างนี้ลงได้ ถึงกระนั้น จิตสังหารอันรุนแรงที่ถาโถมเข้าใส่จากทุกทิศทุกทางอย่างไม่หยุดยั้ง ยังสร้างผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นจนเส้นขนในร่างต่างก็ลุกชูชัน

ช่างทรงพลังยิ่งนัก!

นี่คือเขตแดนเต๋าหรือ?

ครั้งหนึ่ง เฉินซีเคยเผชิญหน้ากับเขตแดนเต๋ากร่อนโลหิตของหลัวซิ่วมาก่อน แต่เมื่อเทียบกับเขตแดนเต๋าแห่งการสังหารของหานกู่เยว่ที่อยู่เบื้องหน้าเขา มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เขตแดนเต๋ากร่อนโลหิตด้อยกว่าเป็นอย่างมาก

“เจ้าหนู! เจ้าควรจะภูมิใจที่สามารถบังคับให้ข้าต้องใช้เขตแดนเต๋าแห่งการสังหารของตัวเองออกมา แต่วันนี้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย ข้าจะสกัดวิญญาณโสโครกของพวกเจ้าออกมาและทรมานตลอดทั้งวันทั้งคืน และทำให้พวกเจ้าต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่รู้จบ จนไม่สามารถเกิดใหม่ได้ตลอดกาล!”

ภายในโลกที่มืดมิด หานกู่เยว่ปรากฏตัวขึ้นจากกลางอากาศขณะตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้า เขายืนอยู่บนหมอกสีดำพร้อมกับเคียวสีดำสนิทในมือ เสื้อคลุมสีเลือดของเขาปลิวไสวไปตามสายลม ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ร่างกายของเขาได้ผสานเข้ากับเขตแดนเต๋าแห่งการสังหารได้อย่างไร้ที่ติ จนดูราวกับเป็นเทพแห่งการเข่นฆ่าผู้บ้าคลั่ง

“เฉินซี ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้คนเหล่านี้ตาย ก็จงนำพวกเขาไปไว้ที่เจดีย์บำเพ็ญทุกข์ มิฉะนั้น ถ้าปล่อยให้พวกเขาสู้อยู่เคียงข้าง ก็จะเป็นภาระแก่เจ้า! ยิ่งไปกว่านั้น จงมอบแกนทองคำทั้งสองชิ้นที่เก็บอยู่ในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์ให้แก่ข้า จากนั้นเราจะบดขยี้เจ้าสุนัขแก่ตัวนี้ไปด้วยกัน นอกจากนี้ ข้ายังมองออกว่าคนผู้นี้ไม่ได้เข้าใจเขตแดนเต๋าของตัวเองอย่างถ่องแท้ และก่อเขตแดนเต๋าขึ้นมาโดยอาศัยสมบัติวิเศษที่เป็นเคียวสีดำในมือของเขา หลังจากที่เราสังหารเขาแล้ว เราจะยึดสมบัติวิเศษนี้มา บางทีเจ้าอาจจะเข้าใจเต๋าแห่งการสังหารและทำให้ความแข็งแกร่งของเจ้าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง” น้ำเสียงของหลิงไป๋นั้นจริงจังมาก ขณะที่ดวงตาของเขาเผยถึงร่องรอยแห่งความบ้าคลั่งอย่างชัดเจน

“ตกลง!” เฉินซีตอบตกลงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ในระหว่างการต่อสู้ภายในรอยแยกแห่งความสิ้นหวังนับครั้งไม่ถ้วน เขาได้สร้างความไว้วางใจและความเข้าใจโดยปราศจากข้อกังขากับหลิงไป๋ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาความหมายในคำกล่าวของหลิงไป๋ ก่อนที่จะตอบตกลง

โดยไม่ต้องถามว่าถันไถจื่อเซวียน และคนอื่น ๆ จะเห็นด้วยหรือไม่ และในทันทีที่เฉินซีเห็นด้วยกับสิ่งที่หลิงไป๋กล่าว เขาก็สะบัดแขนเสื้อเพื่อส่งถันไถจื่อเซวียน และคนอื่น ๆ เข้าไปในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์ก่อนที่พวกเขาจะทันได้โต้ตอบ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ส่งแกนทองคำที่ได้รับจากการฆ่าหานไป๋และชายชราผมดำให้กับหลิงไป๋

การกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา และรวดเร็วจนหานกู่เยว่ไม่มีเวลาได้ขัดขวาง

“หืม? นี่มัน…” เมื่อเขาเห็นถันไถจื่อเซวียนและคนอื่น ๆ หายไป ดวงตาของหานกู่เยว่ก็หรี่ลง จากนั้นก็ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างได้ ทำให้ดวงตาของเขาเกิดประกายแสงที่สั่นไหว พร้อมกับเขาร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามีสมบัติอมตะ!?”

มีเพียงสมบัติอมตะเท่านั้นที่สามารถเปิดมิติอันไร้ขอบเขตและบรรจุทุกสรรพสิ่งในโลกได้ นี่คือลักษณะของสมบัติอมตะ ซึ่งเป็นความรู้ทั่วไปที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้ว่าหานกู่เยว่จะไม่เคยเห็นสมบัติอมตะมาก่อน แต่ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล เขาจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับสมบัติอมตะได้อย่างไร

‘มันคือสมบัติอมตะจริง ๆ! ถ้าข้าสามารถครอบครองมันได้ หลังจากที่ข้าบรรลุไปสู่ขอบเขตเซียนปฐพีแล้ว ข้าก็ไม่ต้องปวดหัวกับการค้นหาสมบัติวิเศษเพื่อที่จะใช้พิชิตทัณฑ์สวรรค์อีกต่อไป ดังนั้นการบรรลุสู่การเป็นเซียนสวรรค์นั้นก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม! ช่างเป็นความบังเอิญที่ฟ้าประทานมาให้จริง ๆ แม้ว่าข้าจะสูญเสียผู้อาวุโสทั้งหมดไป แต่ด้วยสมบัติอมตะนี้ ทุกสิ่งก็คุ้มค่าเป็นอย่างมาก!’ ทันใดนั้น สายตาที่หานกู่เยว่จ้องมองมายังเฉินซีก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด สายตาที่ลุกโชนไปด้วยความโลภของเขา ไม่มีทีท่าว่าจะปกปิดเลยแม้แต่น้อย และราวกับว่าเขากำลังจ้องมองลูกแกะตัวอวบอ้วนอยู่

“เจ้าหนู ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จงมอบสมบัติอมตะมาซะ!” หานกู่เยว่กระตือรือร้นด้วยความโลภ เขาไม่ได้กังวลว่าเฉินซีจะมีโอกาสที่จะต่อต้านเขาโดยสิ้นเชิง แม้ว่าเฉินซีจะครอบครองสมบัติอมตะอยู่ แต่การบ่มเพาะของเขากลับไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่ ทำให้มันไม่ได้สร้างภัยคุกคามต่อเขาเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าคิดว่าจะเป็นไปได้หรือ” เฉินซียกยิ้มเย็นยะเยือก ในขณะที่เขากล่าวคำต่อคำ “หยุดกล่าววาจาไร้สาระได้แล้ว เข้ามาเลย! ให้ข้าได้สัมผัสกับความน่ากลัวเขตแดนเต๋าแห่งการสังหารของเจ้าสักครั้ง!”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เฉินซีไม่รู้วิธีในการทำความเข้าใจเขตแดนเต๋าที่ถูกต้อง แต่ในตอนนี้ เขาต้องการใช้เขตแดนเต๋าของหานกู่เยว่ เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพของเขตแดนเต๋าอย่างเหมาะสม และสร้างรากฐานสำหรับหลอมรวมเขตแดนเต๋าในภายภาคหน้า

“ดี! ดี! ดี! จิตสังหารตลอดชีวิตได้เก็บซ่อนอยู่ในหัวใจข้า และเมื่อจิตสังหารปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันก็จะฆ่าศัตรูทั้งหมด!” หานกู่เยว่ระเบิดความโกรธอย่างรุนแรงพร้อมกับก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่จิตสังหารบนร่างกายของเขากระจายออกไป และกลายเป็นแสงสีดำสนิทที่ดูแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วน ปรากฏขึ้นจากอากาศต่อหน้าเฉินซี แสงสีดำสนิทเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นกระบี่ที่คมกริบจำนวนมากที่แฝงไปด้วยจิตสังหารมหาศาล และพวกมันก็ไขว้กันทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง เพื่อสร้างตาข่ายขนาดใหญ่ที่ครอบลงมาบนร่างของเฉินซี ซึ่งดูเหมือนว่ามันต้องการจะบดขยี้เขาให้เละเป็นเศษเนื้อ

นี่คือพลังของเขตแดนเต๋า…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]