เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1870

บทที่ 1870 ความเกลียดที่ลืมไม่ลง

………………..

บทที่ 1870 ความเกลียดที่ลืมไม่ลง

เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว เหลิ่งซิงหุนก็รู้สึกโกรธเกรี้ยว เกิดความรู้สึกไม่ยินยอมขึ้นในใจ

เหตุผลก็ไม่ซับซ้อนอะไร เดิมทีมันเป็นการต่อสู้ที่พวกเขาได้เปรียบ ส่วนพวกเฉินซีใกล้จะพ่ายแพ้เต็มทน แต่กลับต้องมาเกิดศึกบ้าบอนี่ขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาเสียความได้เปรียบที่เคยมี แต่ยังเสียเพื่อนร่วมเดินทางไปในการโจมตีกะทันหันนั่นด้วย

มีหรือเหลิ่งซิงหุนจะไม่โกรธได้

แต่ไม่ว่าจะโกรธเพียงไหน ก็ได้แต่ต้องยอมรับสถานการณ์ตรงหน้า ก็เป็นอย่างที่เขาว่า สู้ต่อไปก็ไร้ประโยชน์

อย่างแรกคือ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้

อย่างสองคือ อีกเพียงเค่อหนึ่งก็จะจบการถกวิถีเต๋าแล้ว!

ไม่ว่าจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ต่อสู้อย่างไรก็คงไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้

ไม่เพียงแต่เหลิ่งซิงหุนเท่านั้น ทุก ๆ คนรวมถึงตงหวงอิ่นเซวียน เย่เฉิน อวี้จิ่วหุย คงโหยวหราน สืออวี๋ และเฉินซีเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ทุกคนจึงหยุดการต่อสู้

ถึงแม้ทุกคนจะไม่คิดอะไรแล้วสู้กันต่อแบบเอาชีวิตเข้าแลก แต่สิ่งที่แลกไปก็คงไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้มา นับว่าไม่คุ้มค่ากันเลยทีเดียว

เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงการถกวิถีเต๋ารอบแรกเท่านั้น ไม่มีใครอยากถูกคัดออกหรือเสียโอกาสเข้ารอบที่สองไปในจังหวะแบบนี้ได้หรอก

การต่อสู้พลันหยุดลง พื้นที่กว้างใหญ่รอบข้างถูกทำลายสิ้น เป็นภาพที่น่ากลัวไม่ใช่น้อย

ดวงตะวันใกล้ตกดินเป็นสีแดงเลือดค่อย ๆ เคลื่อนลงจากท้องฟ้า ส่องแสงสีแดงแต้มไปทั่วโลกา

คนนิกายอำนาจเทวะและสำนักศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกันอีกครั้ง พวกเขาไม่ได้จากไปแต่เลือกพัก ณ จุดนั้นแทน

เช่นเดียวกันกับเฉินซี คงโหยวหราน สืออวี๋ และคนอื่น ๆ จากตำหนักเต๋าหนี่หวา พวกเขาก็รวมตัวกันแล้วมุ่งหน้าไปสู่ค่ายกลแปดปรมัตถ์

ตอนนี้เย่เฉินและคนอื่น ๆ จากสำนักเต๋าดูจะตกอยู่ในสถานการณ์ยุ่งยากเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้ไปรวมกับกลุ่มเฉินซี กลับไปพักอยู่กับพวกตนเองอีกทางหนึ่ง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงพยายามรักษาความเป็นกลางของสำนักเต๋าเอาไว้อยู่ ถึงแม้หลายคนจะคิดสงสัยก็ตาม

แต่ไม่ว่าอย่างไร แม้การต่อสู้จะจบลงแล้ว แต่บรรยากาศก็ยังกดดันหนักหน่วงอยู่ แต่ละคนยังคงระวังอีกฝ่าย ไม่กล้าผ่อนคลายเต็มที่

เมื่อพวกเขาเห็นเหตุเช่นนี้ ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหลายจึงอึ้งไป ไม่เข้าใจว่าเหตุใดศึกดุดันและดุเดือดเช่นนั้นถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้

พริบตาเดียวก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอื้ออึง ล้วนแต่แสดงความคิดเห็นและคาดเดาถึงเหตุผลไปเรื่อย

“เห็นกันอยู่ว่าเวลาไม่พอ การถกวิถีเต๋ารอบแรกใกล้จะจบแล้ว สู้ต่อไปก็ไม่ได้อะไรหรอก”

“ใช่แล้ว พวกเขาคงคิดว่าไปแข่งกันรอบที่สองดีกว่า พอเป็นเช่นนี้แล้วก็ไม่มีใครอยากสู้ไปโดยเปล่าประโยชน์หรอก”

สุดท้ายแล้ว ผู้บ่มเพาะพลังส่วนมากก็เห็นพ้องต้องกันถึงสาเหตุที่ศิษย์จากห้าขุมกำลังหยุดการต่อสู้ไว้แต่เพียงเท่านี้

โถงบรรจบ

“ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเช่นนี้!” เล่ยฝูถอนหายใจ เอ่ยคำขึ้นด้วยความไม่ยินยอม ทั้งยังเจือแววโกรธไม่ปิดบัง

ฉือซงจื่อเองก็มีสีหน้าขึ้นสี เม้มปากนั่งเงียบไป

ไม่มีใครยอมรับผลเช่นนี้ได้เลย!

เพราะก่อนเริ่มการถกวิถีเต๋านั้น พวกเขายืนยันเป้าหมายไว้แล้ว วางแผนไว้รัดกุมอย่างที่สุด นั่นก็เพื่อกำจัดเฉินซีให้ได้!

แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นในวันสุดท้ายของการถกวิถีเต๋า อันเป็นสาเหตุที่ทำให้แผนของพวกเขาไม่อาจสำเร็จได้ แล้วพวกเขาจะรับได้อย่างไร?

เมื่อเฉินซีเข้ารอบที่สองในการถกวิถีเต๋าไปได้เมื่อไหร่ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เขาก็จะมีสิทธิ์ในการเข้าแดนรวนเรลืมเลือนได้อยู่ดี!

เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อยากเห็นมากที่สุด

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเล่ยฝูหรือฉือซงจื่อ ทั้งคู่ล้วนโกรธเมื่อเห็นผลลัพธ์เช่นนี้

“หากนับกันเรื่องจำนวนหม้อจารึกเต๋าโบราณ เช่นนั้นตำหนักเต๋าหนี่หวาของเจ้าก็นับว่าชนะไปไม่ใช่น้อย เพราะได้ไปถึงหกชิ้นเลยทีเดียว ยินดีด้วย” ทันใดนั้นเหวินถิงก็เอ่ยแสดงความยินดี

ตอนนี้ในจำนวนหม้อทั้งยี่สิบห้าชิ้น นิกายอำนาจเทวะมีอยู่หกชิ้น สำนักศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ห้าชิ้น สำนักเต๋ามีอยู่ห้าชิ้น ตำหนักเต๋าหนี่หวามีอยู่หกชิ้น และเขาเทพพยากรณ์มีสามชิ้น

ดูจากเลขนี้แล้ว ตำหนักเต๋าหนี่หวาดูจะได้เปรียบอยู่เล็กน้อย เช่นเดียวกับนิกายอำนาจเทวะ สำนักศักดิ์สิทธิ์ และสำนักเต๋าซึ่งรองลงมา และเขาเทพพยากรณ์รั้งอันดับสุดท้าย

“นั่นก็เป็นเพราะอาจารย์อาของเจ้ามอบหม้อมาเพิ่มให้” อวี่เจินยิ้ม นางเห็นว่าเฉินซีฉวยเอาหม้อมาจากคนสำนักศักดิ์สิทธิ์ได้ระหว่างการต่อสู้ แล้วก็มอบให้คนตำหนักเต๋าหนี่หวา

“หากเราต้องเอาไปใช้ก็คงไม่ปล่อยให้ตำหนักเต๋าหนี่หวาได้ประโยชน์หรอก” เหวินถิงหยอกล้อ ส่งผลให้อวี่เจินหัวร่อ

เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว ความเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาเฉินซี จากนั้นเขาหันไปมองเหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน และคนอื่น ๆ ที่อยู่ไกล ๆ

“อะไร? ยังจะอยากสู้อีกหรือ?” เหลิ่งซิงหุนมุ่นคิ้วเอ่ยเสียงเย็น

“อยากได้อะไรก็ต้องแลกมา ถึงการถกวิถีเต๋ารอบนี้จะใกล้จบลงแล้ว แต่ข้าตั้งตารอจะได้ต่อสู้กับพวกเจ้าในรอบที่สองนะ” เฉินซีเงียบไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเรียบ

เขาไม่เคยชอบการข่มขู่คนอื่นด้วยคำพูด แต่อยากบอกว่า ตัวเขา เฉินซี นั้น ไม่มีวันลืมสิ่งที่เกิดขึ้นภายในชั่วระยะเวลาสามเดือนนี้แน่นอน!

อยากให้อีกฝ่ายได้รับรู้และเข้าใจถึงความโกรธและความมุ่งมั่นนี้ ยามที่เขาเอาคืนเมื่อไหร่ พวกนั้นจะได้ยิ่งหวาดกลัว!

เหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน และคนอื่น ๆ ได้ยินก็อึ้งไป จากนั้นก็เริ่มหัวเราะร่วนด้วยความโกรธ ไอ้บัดซบนั่น! พวกเราไม่หาเรื่องก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่มันกลับกล้าพูดจาเย่อหยิ่งเช่นนี้! รนหาที่ตาย!

“ได้ ข้าจะรอชม!” เหลิ่งซิงหุนตอบ แม้จะเพียงคำสั้น ๆ แต่ทุกคำก็เจือไปด้วยแววสังหาร

“เมื่อเกิดความเป็นศัตรูขึ้นแล้ว แก้ไขได้ไม่ง่าย เว้นเสียแต่… อีกฝ่ายจะตายจากกันไป ข้าหวังว่าจะได้เห็นวันนั้นนะ” ตงหวงอิ่นเซวียนตอบกลับมาเช่นนี้ ยิ่งดูน่ากลัว อีกทั้งเหมือนเป็นการบอกว่าถึงจบการถกวิถีเต๋าแล้ว เขาก็จะไล่ล่าเฉินซีไม่เลิกจนกว่าอีกฝ่ายจะตาย!

เมื่อได้ยินเช่นนี้จึงทำให้คงโหยวหราน สืออวี๋ กู่เยี่ยน ถูเมิ่ง และคนอื่น ๆ ขมวดคิ้ว กำลังจะเอ่ยคำก็ถูกเฉินซียั้งไว้

ถกเถียงไปก็ไร้ประโยชน์

มีแต่ต้องวัดกันด้วยความแข็งแกร่งเท่านั้น!

“สหายผู้นี้เย่อหยิ่งเกินใคร แต่ก็เป็นอารมณ์ที่เข้าใจได้” เย่เฉินมองเหตุการณ์จากไกล ๆ อดรู้สึกชื่นชมความกล้าหาญของเฉินซีไม่ได้

วิ้ง!

พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าไปอย่างสมบูรณ์ ม่านราตรีกำลังโรยตัว เป็นจังหวะนั้นเองที่เกิดกระแสพลังผันผวนขึ้นภายในพิภพกุมภเต๋า วงคลื่นทรงกลมวงแล้ววงเล่าปรากฏตัวขึ้นเหนือท้องฟ้า

แทบในพร้อมกันนั้น น้ำเสียงทรงเกียรติและสูงส่งของไฮว่คงจื่อก็ดังก้องไปทั่วทั้งฟ้าดิน “การถกวิถีเต๋ารอบแรกจบลงแล้ว ศิษย์ที่ได้รับหม้อจารึกเต๋าโบราณจะถูกเคลื่อนย้ายมายังแดนวสันต์โบราณสำนักเต๋าเพื่อฟื้นฟูและเตรียมตัวเข้าสู่รอบที่สอง ศิษย์ที่ไม่สามารถชิงหม้อมาได้จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่ง!”

พูดจบ เฉินซีกับศิษย์อีกยี่สิบสี่คนที่มีหม้อจารึกก็พลันรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดสนิท จากนั้นพลังอันแข็งกล้าก็โอบล้อมทั่วร่างพาหายวับไป

ถึงแม้ว่าศิษย์คนอื่น ๆ ที่ไม่มีหม้อจะรั้งอยู่จนถึงตอนนี้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องถูกตัดออกจากการถกวิถีเต๋าไปอย่างน่าเสียดาย

การถกวิถีเต๋ารอบนี้จึงจบลงด้วยประการฉะนี้!

ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ภายนอกทั้งหลายล้วนถอนหายใจโล่งอก พากันรู้สึกผ่อนคลายกันได้อย่างเต็มที่

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]