เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1874

บทที่ 1874 สามกระบวนท่า

………………..

บทที่ 1874 สามกระบวนท่า

เป็นไปได้อย่างไรกัน?

ขณะนี้ กงซุนมู่ทั้งประหลาดใจและสับสน

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเฉินซีและทาปาชวนเป็นการส่วนตัว ในเวลานั้น เขารู้สึกว่าถ้าเป็นตนต่อสู้กับเฉินซี อย่างน้อยก็มีความมั่นใจห้าส่วนที่จะบดขยี้เฉินซีได้

แต่ผ่านไปไม่กี่ปี พลังฝีมือของเฉินซีก็รุดหน้าเกินคาดหยั่ง และถึงขั้นไม่สามารถมองข้ามความแข็งแกร่งของเฉินซีได้อีกต่อไป

ยามนี้ เฉินซีได้ทำลายท่าสังหารของเขาด้วยกระบวนท่าเดียว จึงส่งผลให้กงซุนมู่ดูไม่เชื่อเล็กน้อย

อันที่จริง เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเฉินซีกับตงหวงอิ่นเซวียนในรอบแรกของการถกวิถีเต๋า ทว่ามันเป็นเพียงปะทะกันครั้งสองครั้ง ไม่อาจตัดสินผู้แพ้ชนะได้ ดังนั้นกงซุนมู่จึงรู้สึกโดยไม่รู้ตัว แม้ว่า เฉินซีจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างมากนัก

แต่ตอนนี้ดูเหมือนการคาดการณ์ของเขาจะผิดมหันต์!

“ดูเหมือนเจ้าจะมีฝีมือเพียงเล็กน้อย เจ้าจะต้องพ่ายแพ้ในสามกระบวนท่า” เฉินซีกล่าวอย่างเฉยเมยและไม่ได้รุกคืบอีกครั้ง

น้ำเสียงของเขาดูสงบมาก ราวกับกำลังกล่าวถึงเรื่องธรรมดาสามัญ ทว่ามันกลับดูหยิ่งผยองยิ่ง

หลายคนรู้สึกประหลาดใจ ทั้งยังสงสัยว่าเหตุใดเฉินซีถึงมั่นใจจนกล้าโอ้อวดได้ถึงขนาดนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวาจาเหล่านี้เข้าหูของตงหวงอิ่นเซวียน มันทำให้สีหน้าของเขามืดมนทันที

ไอ้สารเลวนั่น!

เขาได้ต่อสู้กับเฉินซีในวันสุดท้ายในรอบแรกของการถกวิถีเต๋า ตอนนั้นเขาได้กล่าววาจาที่คล้ายกัน น่าเสียดายที่การต่อสู้หยุดกะทันหัน เนื่องจากการต่อสู้ที่ชุลมุนซึ่งปะทุขึ้นในขณะนั้น

ยามนี้ เมื่อได้ยินเฉินซีกล่าววาจาที่คล้ายกับศิษย์น้องของเขา ตงหวงอิ่นเซวียนจะไม่ทราบได้อย่างไรว่ามันเป็นการยั่วยุซึ่งหน้า

ไอ้สารเลว! จะยโสเกินไปแล้ว!

ในฐานะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ กงซุนมู่เดือดาลทันที สายตาทอประกายเย็นเยียบและอาฆาตแค้น

“ฆ่า!” กงซุนมู่ที่กำลังโกรธเกรี้ยว พลันคำรามเสียงดังลั่น รัศมีศักดิ์สิทธิ์ก็หลั่งไหลไปตามร่างกาย ซึ่งเปล่งประกายแวววาวเจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์

ครืน!

กระบี่ในมือเปล่งประกายกว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร ฟาดฟันเข้าใส่เฉินซี มันทั้งเฉียบคบ ดุร้าย รวดเร็ว และไร้ความปรานี

การฟาดกระบี่ครั้งนี้แฝงด้วยพลังทำลายล้าง มันปรากฏเหนือเฉินซี และถาโถมลงมาราวกับคลื่นกระบี่ที่หมายมั่นสังหารเฉินซีที่อยู่เบื้องล่าง

มันเร็วเกินไป!

การฟาดกระบี่ครั้งนี้ได้สะบั้นมิติออกจากกัน ส่งผลให้พระอาทิตย์และพระจันทร์ดูหม่นหมอง ดวงดารามืดดับ พลังทำลายทั้งหมดได้มาบรรจบกันที่ปลายกระบี่ ทั้งยังดูดุร้าย ทรงพลังอย่างไม่มีใครเทียบเคียงได้

เพียงเสียงคำรามของกระบี่ที่เล็ดลอดออกมาจากการโจมตีครั้งนี้ ก็ทำให้สีหน้าของผู้บ่มเพาะหลายคนในพื้นที่รับชมเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หูอื้ออึง เลือดลมปั่นปวน และอึดอัดจนถึงขีดสุด

“เพลงกระบี่ที่สามสิบห้าของคัมภีร์กระบี่วารีสวรรค์!” แสงเจิดจ้าพุ่งออกมาจากดวงตาของตงหวงอิ่นเซวียน และมันน่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง

เมื่อประกายกระบี่มาถึงเหนือศีรษะ สีหน้าของเฉินซีหาได้แปรเปลี่ยนไม่ กระบี่เปลื้องมลทินในมือส่งเสียงกังวาน และหลั่งไหลไปด้วยอักขระยันต์ต่าง ๆ จากนั้นพลันใช้กระบวนท่าเรียบง่ายอย่าง ‘ผาสมุทร’ ออกไป

ครืน!

ท้องฟ้าและแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันเหมือนกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก ถาโถมสาดซัดไปทั่วทั้งสมรภูมิจารึกเต๋าโบราณที่อยู่เบื้องล่าง

ผู้บ่มเพาะหลายคนในโลกภายนอกหวาดกลัวจนหายใจไม่ออก ร่างกายแข็งทื่อ หากการต่อสู้ดังกล่าวเกิดขึ้นในโลกภายนอก พลังทำลายล้างที่เกิดขึ้นคงจะสะท้านขวัญเป็นอย่างยิ่ง

โครม!

ท่ามกลางเสียงดังกัมปนาท ร่างของกงซุนมู่ก็ถูกซัดจนกระเด็นกลับไปกว่าแสนห้าหมื่นลี้ ก่อนที่เขาจะควบคุมร่างได้อีกครั้ง

ในทางกลับกัน สีหน้าพลันเปลี่ยนสีระหว่างเขียวคล้ำและซีดเผือด ดวงตาแทบถลนด้วยความโกรธ และเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

ผู้บ่มเพาะในโลกภายนอกระเบิดความโกลาหลในทันใด

การโจมตีของกงซุนมู่ยังคงไม่สามารถทำอะไรกับเฉินซีได้ และถูกซัดกระเด็น!

“ผ่านไปหนึ่งกระบวนท่าแล้ว ยังคงเหลืออีกสองกระบวนท่า หากเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ตอนนี้ ก็ยังสามารถรักษาหน้าไว้ได้ แต่หากเจ้ายังดื้อรั้นยืนกราน นั่นจะทำให้สำนักศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าต้องอับอาย ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ดีกว่าต้องเป็นตัวตลกในสายตาโลกหล้า”

คราวนี้เฉินซีไม่ได้รุกต่อ เขาเพียงแค่จ้องมองนิ่ง ๆ พลางกล่าวเหมือนกำลังแนะนำให้กงซุนมู่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่แท้จริงแล้ววาจากลับเต็มไปด้วยน้ำเสียงแดกดันถากถาง

ผู้บ่มเพาะที่อยู่รอบข้างต่างประหลาดใจ ไม่คิดมาก่อนว่าบุคคลที่ไม่แยแสและเก็บตัวเช่นเฉินซีจะกล่าวคำเช่นนั้นออกมา

แม้แต่กู่เยี่ยน ถูเมิ่ง เชินถูเยียนหราน และเล่ออู๋เหินก็ตกตะลึง

ในทางกลับกัน สีหน้าของตงหวงอิ่นเซวียน และคนอื่น ๆ จากสำนักศักดิ์สิทธิ์มืดมนลง เพลิงโทสะได้ปะทุในใจของพวกเขาแล้ว

“บัดซบ!” เสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวของกงซุนมู่ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

เขาถูกซัดจนกระเด็น ทั้งยังถูกยั่วยุและหยามหยันครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งนี้ทำให้กงซุนมู่รู้สึกอับอายอย่างมาก ทั้งยังเดือดดาลจนดวงตาแดงก่ำ

โครม!

กระบี่ในฝ่ามือราวกับมหาสมุทรที่โหมกระหน่ำ ซึ่งเปล่งรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์มากมายออกมา กงซุนมู่พุ่งกายไปข้างหน้าเหมือนดาวหางที่ลุกโชติช่วง ในขณะที่โจมตีเฉินซีอีกครั้ง

ก่อนที่กระบวนท่านี้จะบรรลุเป้าหมาย ฟ้าดินก็มืดดับ ความว่างเปล่าตกสู่ความยุ่งเหยิง ทั้งยังส่งเสียงคร่ำครวญจากการไม่สามารถทนต่อแรงกดดันดังกล่าวได้

เห็นได้ชัดว่าคลื่นขนาดมหึมาที่เกิดจากปราณกระบี่ทั้งสามสิบหกเล่มนั้น ได้ซ้อนทับกันและมาบรรจบกันบนกระบี่ของกงซุนมู่ ส่งผลให้อานุภาพของมันไร้ขอบเขตและลุกโชนจนถึงขีดสุด

ไม่ได้การ!

ตงหวงอิ่นเซวียนพึมพำในใจ และดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างในทันใด

เห็นได้ชัดว่าเฉินซีผู้นี้กำลังยั่วยุให้ศิษย์น้องกุงซุนโกรธเกรี้ยว หรือมันคิดที่จะ…

โครม!

ก่อนที่ตงหวงอิ่นเซวียนจะดำเนินการใด ๆ กงซุนมู่ก็โจมตีด้วยความโกรธ พละกำลังและปราณกระบี่ทั้งหมดได้มาบรรจบกันที่ปลายกระบี่ กระแสลมและแสงสว่างที่อยู่ ๆ รอบคล้ายถูกกลืนหายไป

ในขณะนี้ ความว่างเปล่าพังทลายเป็นผุยผง และแผ่กระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ บังเกิดเป็นเศษชิ้นส่วนที่พังทลายลง!

“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”

ทันใดนั้น ฟ้าดินดูเหมือนจะกลายเป็นนรก และเหตุที่น่าสะพรึงกลัวต่าง ๆ ก็อุบัติขึ้น เช่นเทพอสูรกู่ร้องคำราม เสียงกลองศึกดังกึกก้อง ทะเลเลือดและภูเขาซากศพก็ปรากฏขึ้น

อานุภาพของการโจมตีครั้งนี้น่าเกรงขามมาก จนแม้แต่ผู้บ่มเพาะที่เฝ้าดูการต่อสู้จากระยะไกลก็ยังสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด

“กระบวนท่านี้นับว่าไม่เลว” เฉินซีเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาทอประกายแสงคมกริบอย่างน่าหวั่นใจ

ในช่วงเวลาถัดมา กระแสเจตจำนงกระบี่ที่น่าสะพรึงอย่างยิ่งก็ดังก้อง แผ่พุ่งออกมาจากกระบี่เปลื้องมลทิน ทะลุผ่านอวกาศและทะยานขึ้นสู่สวรรค์ทั้งเก้า

ดูเหมือนในขณะนี้ อาวุธที่ไร้เทียมทานได้ตื่นขึ้นภายในกายเฉินซี และมันตั้งใจที่จะล้างโลก!

ครืน!

ปราณกระบี่พุ่งออกมาอย่างรุนแรงราวกับลำแสงที่ทะลวงสุริยันได้ และมันปะทะเข้ากับกงซุนมู่ทันที

ในขณะนี้ เสียงระเบิดที่สะท้านโลกาได้ดังก้องมาจากสมรภูมิจารึกเต๋าโบราณ ส่งผลให้บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ในขณะที่แสงเจิดจ้าปะทุขึ้น และเสียงคำรามของเต๋าก็ดังขึ้น

ผู้ชมต่างประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ และหัวใจของพวกเขาก็สั่นเทา

“อ๊าก!!” หลังจากนั้น เสียงร้องโหยหวนอย่างเวทนาก็ดังขึ้น และมันน่ากลัวอย่างยิ่ง

ยามนี้ ทุกคนล้วนสังเกตเห็นด้วยความตกใจกันถ้วนหน้า กงซุนมู่กระแทกลงกับพื้นจนร่างกายอาบไปด้วยเลือด ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้ายังคงบิดเบี้ยว ตัวสั่นสะท้าน คล้ายเผชิญต่อความเจ็บปวดที่ไม่ธรรมดา

การปะทะกันครั้งนี้เป็นชัยชนะของเฉินซีอีกครั้ง!

“ผ่านไปสามกระบวนท่า…. ข้ายังไม่แพ้….” โดยไม่คาดคิด กงซุนมู่ดูเหมือนเสียสติและแผดคำรามเสียงดังลั่น ทว่าหลังจากนั้น จู่ ๆ มือทั้งสองข้างของเขาก็จับที่ศีรษะ พลันส่งเสียงร้องโหยหวน “จิตวิญญาณของข้า! ช่างเจ็บปวดยิ่ง! เฉินซี…เจ้าอำมหิตนัก!”

ในช่วงเวลาถัดมา ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ก่อนที่เสียงร้องจะหยุดลงฉับพลัน จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น เขาถูกทรมานด้วยความเจ็บปวดจนหมดสติไป

ทุกคนที่อยู่รอบข้างต่างตกตะลึง

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]