เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1950

บทที่ 1950 ระบายแค้น

………………..

บทที่ 1950 ระบายแค้น

สิบชั่วอึดใจผ่านไป ร่างอันแหลกสลายของเลี่ยฝูหลัวไร้สัญญาณคืนประสาน

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของพวกอาลูเย่ดำคล้ำ

หลังรอเพิ่มเติมอีกสามสิบชั่วอึดใจ สถานการณ์ก็ยังคงเดิม

สิ่งนี้ทำให้พวกอาลูเย่ตระหนักทันทีว่าสถานการณ์ค่อนไปทางแย่แล้ว

นับแต่เฉินซีเหยียบเท้าขึ้นสู่แท่นสังเวยวิญญาณมนตราจนโจมตีออกมา ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา ศึกก็กล่าวได้แล้วว่าจบลงอย่างรวดเร็ว

ทว่าอาลูเย่และคณะต่างเตรียมใจรอรับไว้แล้ว พวกเขาตระหนักดีว่าเลี่ยฝูหลัว ทายาทเผ่ามนตราอัคคีอนันต์ไม่มีทางตายง่าย ๆ

กลับกัน อำนาจยิ่งใหญ่ของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นทุกครั้งที่ฆ่าศัตรู นี่คือความสามารถเฉพาะของเผ่ามนตราอัคคีอนันต์

แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าหนนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝัน!?

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ยอดฝีมือมากมายฝ่ายอาลูเย่ประหลาดใจตะลึงงัน

สีหน้าของอาลูเย่ก็คล้ำลงเล็กน้อยเช่นกัน เขาย่อมตระหนักดีว่าเมื่อครู่เลี่ยฝูหลัวเลินเล่อ หากระวังกว่านี้สักนิด เหตุดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นแน่แท้

โง่เง่าสิ้นดี! อาลูเย่สบถในใจ

ฟี่! ฟี่!

เสียงประหลาดดังขึ้น

อาลูเย่และคณะหันมองตามทันที ปรากฏว่าขณะนี้ เลือดเนื้อที่หลงเหลือของเลี่ยฝูหลัวกำลังเริ่มสลายหายไปอย่างช้า ๆ เพียงไม่กี่อึดใจ พวกมันก็หายสิ้นราวระเหิดสู่อากาศ

ม่านตาของเหล่าจ้าววิญญาณโบราณหดตัววูบ เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อโดยพลัน

มิเพียงพวกเขา กระทั่งสืออวี๋ เจียหนาน และฉินซินฮุยยังแทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ศึกเพิ่งเริ่มแท้ ๆ เลี่ยฝูหลัวก็ถูกกำจัดแล้วหรือ?

พวกเขาจำได้แม่นยำว่าอำนาจต่อสู้ของเลี่ยฝูหลัวยามประมือกับเย่เฉินท้าทายสวรรค์เพียงไร ไม่อาจฆ่าเขาได้เลย

แต่ยามนี้ แค่หนึ่งโจมตีจากเฉินซี เขาก็รับไม่ไหว!

มันเกินเข้าใจเกินไป!

ขณะเดียวกัน เฉินซียืนตระหง่านบนแท่นสังเวยวิญญาณมนตรามาแต่ต้น สีหน้าของเขาเฉยชา ร่างสูงใหญ่ปกคลุมด้วยจิตสังหารเกินเทียบเทียม ดุจเทพมรณะอันไร้อารมณ์

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ประหลาดใจเลยที่ตนฆ่าเลี่ยฝูหลัวลงได้ ถึงขนาดที่มิอาจก่อให้เกิดการสะท้านอารมณ์ใด ๆ ด้วยซ้ำ

เขายังคงรอคอย… รอศัตรูคนถัดไปเข้าก้าวขึ้นมา!

เพราะโทสะและความแค้นที่สั่งสม บีบอัดในใจเขามาเนิ่นนานเพิ่งถูกปลดปล่อย เขายังไม่มีโอกาสได้ระบายมัน!

“จุดจบ! มีเพียงพลังแห่งจุดจบเท่านั้นที่กำจัดเผ่ามนตราอัคคีอนันต์ได้!” อาลูเย่เหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่ง เขาพลันโพล่งขึ้น สายตาพุ่งไปยังเฉินซีเฉียบพลันเช่นสายฟ้าฟาด “เจ้า… บรรลุพลังแห่งจุดจบหรือ?”

เสียงของเขาเจือความประหลาดใจระคนมึนงง

มิต้องบอกก็รู้ อาลูเย่รู้ดีมากว่าตนคิดถูกแล้ว แต่เฉินซีย่อมไม่ยอมรับมัน

เขาทำเพียงกล่าวกับอาลูเย่อย่างเฉยชา สายตาเย็นเยียบ “ข้ากำลังรอคู่ต่อสู้คนถัดไปอยู่ เจ้าอย่าโอ้เอ้จะดีกว่า หาไม่ ข้าจะคิดไปว่าพวกเจ้าขลาดกลัว”

วาทะนั้นทำให้สีหน้าของอาลูเย่เย็นเยียบถึงขีดสุด เขาจ้องนิ่งที่เฉินซีเนิ่นนาน ก่อนจะพลันหัวเราะเสียงเย็น “ไม่สิ หากเจ้าบรรลุพลังแห่งจุดจบจริง เช่นนั้นแดนเทพโบราณคงไม่ยอมให้เจ้ามีตัวตนอยู่แน่!”

กล่าวถึงตรงนี้ อาลูเย่พลันหันไปมองจ้าววิญญาณโบราณคนอื่น ๆ สุดท้ายเขาก็มาหยุดที่สั่วหลินผู้มีแปดแขน “เจ้าไปล้างแค้นให้เลี่ยฝูหลัวสิ”

สั่วหลินพยักหน้า จิตสังหารพลุ่งพล่านในสายตา

“เลี่ยฝูหลัวตายแล้ว แต่เขาตายเพราะตัวเองเลินเล่อ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำผิดโง่ ๆ ซ้ำสอง!” อาลูเย่กล่าวเตือนเสียงเย็น

สั่วหลินพยักหน้าอีกครั้ง เขาย่อมรู้ว่าความตายของเลี่ยฝูหลัวเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อ เพราะหากเป็นเขาไปสู้กับเฉินซี เขาจะไม่มีทางให้เฉินซีเอาชนะได้ง่าย ๆ เช่นนั้น

วูบ!

ร่างของสั่วหลินวูบไหวมาอยู่บนแท่นสังเวย แปดแขนเหวี่ยงวูบดุจเลื่อยคมกระหายเลือด เผยบรรยากาศคมกริบน่าสะพรึงกลัว

“เฉินซี ฆ่าเขาล้างแค้นให้ศิษย์พี่หญิงคงที!” เสียงของสืออวี๋เจือความเศร้าโศก ก่อนหน้านี้ สภาพของคงโหยวหรานนั้นราวถูกประหารด้วยพันคมมีด กระดูกของนางปรากฏรำไร ไม่มีส่วนใดปลอดภัยสบายดี ยามสืออวี๋เห็นนางย่ำแย่น่าเวทนาเพียงนี้ เขาก็แทบบ้าด้วยความคลั่งแค้น

“ได้!” คำตอบของเฉินซีสุดแสนเรียบง่าย มันเป็นเพียงคำคำเดียว แต่กลับหนักแน่นไม่อาจกังขา

“เจ้า? ฝันหวานว่าจะฆ่าข้าหรือ? น่าขันนัก!” สั่วหลินหัวเราะเย้ย แต่แม้จะพูดเช่นนี้ เขาก็หาประเมินเฉินซีต่ำไม่ เพราะตนจะไม่มีทางทำผิดซ้ำรอยเลี่ยฝูหลัว

“ใช่ ข้า!” ขณะนี้ ทั้งแก่นแท้ ปราณและจิตวิญญาณทั่วกายเฉินซีดูประหนึ่งถูกเพลิงผลาญ เส้นผมดำไหวพลิ้ว ดูประหนึ่งเทพสงครามไร้เทียมทานผู้ดุร้ายอหังการ “เจ้ามิใช่คนสุดท้ายหรอก พวกเจ้าจ้าววิญญาณโบราณสารเลวทั้งหลาย จะตายกันหมดวันนี้แหละ!”

กล่าวจบ จิตสังหารคลุมฟ้าครอบแดนก็ผลาญพุ่งทั่วทิศ

นอกจากนั้น ผังอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่หลายต่อหลายผังก็ปรากฏขึ้นรอบกายเขา ทะลวงแทรกสุญตา สะท้อนรับวจีเขา พลุ่งพล่านสู่เก้าชั้นสรวง!

นี่คืออำนาจกดดันอย่างหนึ่ง มิใช่ผลของทักษะวิชา

ขณะนี้ เฉินซีแตกต่างจากกาลก่อนจริงแท้ ดุดันเย่อหยิ่ง อัดแน่นด้วยจิตสังหาร ทำให้บริเวณรอบข้างสั่นสะท้านด้วยปราณชวนตะลึง

เขากระหายสงคราม กระหายอยากฆ่าศัตรูตรงหน้านี้เพื่อระบายแค้นในใจ!

เคร้ง!

ขณะนี้ เสียงกระบี่คำรนกึกก้องทั่วฟ้า เฉินซีชักยันต์ศัสตรา อำนาจยิ่งใหญ่ดุจสมุทรคลั่งถาโถม ปลดปล่อยไม้ตายออกมาเช่นกัน

เขาอดทนมานานแล้ว อยากจะระบายออกมาเสียยามนี้! เขาอยากใช้โลหิตศัตรูล้างอายที่ตนได้ประสบ! อยากสงบความแค้นอันคุกรุ่นในใจ!

ม่านแสงทรงกลมปรากฏเหนือเขา ภายในปรากฏท้องนภาพร่างพราวกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเคลื่อนคล้อย เผยหนึ่งจักรวาลไร้ขอบเขตอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวโคจรไร้สิ้นสุด!

นอกจากนั้น ทั้งวิญญาณ พลัง และแก่นแท้ในกายยังเริ่มโคจรเป็นวงรอบ ก่ออำนาจของเจ้าเอกภพขึ้นมา อำนาจนี้แปรเปลี่ยนเป็นรัศมีศักดิ์สิทธิ์สีม่วงทองอันไร้ขอบเขต ปกคลุมทั่วร่าง

เมื่อมองจากไกล ๆ ทั้งร่างก็เหมือนถูกปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัส แผดจ้าเสียจนไม่อาจมองตรง ๆ! ทำให้เขาดูยิ่งใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ และเผยอำนาจเยี่ยงราชัน

ครืน!

โลกหล้าทั่วทิศบิดเบี้ยวโอดครวญ ระเบิดแหลกออกเป็นเสี่ยง ขณะที่ทุกการโจมตีของสั่วหลินถูกขจัดไปโดยปราณทรงพลังของเฉินซีไม่เหลือซาก!

วูบ!

ขณะเดียวกัน เฉินซีก็ออกกระบี่

นี่มันการออกกระบี่อะไร?

ทักษะวิชาสารพัดพล่านพุ่งขึ้นในฉับพลัน สารพันเต๋าถูกขจัดในพริบตา บดบังทุกแสงสว่าง ไม่อาจแข่งรัศมีเทียบได้!

นี่คือขั้นสี่ของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่!

มันคือขอบเขตสูงสุดอันบรรลุได้โดยการก้าวข้ามชั้นแบ่งเขตมหาวิถี มีเพียงจักรพรรดิกระบี่ไร้เทียมทานเท่านั้นที่ทำได้

ขณะนี้ บรรยากาศในโลกภายนอกกดดันถึงขีดสุด ทุกคนต่างจดจ่อจ้องสนามรบตาไม่กะพริบ กลัวนักว่าจะพลาดรายละเอียดแม้เพียงน้อย

พรวด!

ยามปราณกระบี่สายนั้นเลือนหาย โลหิตก็กระฉูดสาด หนึ่งแขนสะบั้นแหลกเป็นผง

ขณะนี้ สั่วหลินเสียแขนไปข้างหนึ่ง สีหน้าของเขาทั้งตะลึงและเดือดดาล แผดเสียงสนั่นลั่นอย่างเจ็บปวด

เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนทั้งมวลตะลึงงันในทันใด ม่านตาของจ้าววิญญาณโบราณทั้งหลายหดตัว เพราะพวกเขาไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าแขนของสั่วหลินจะถูกสะบั้นอย่างเฉียบพลัน!

เป็นไปได้อย่างไร?

เหตุใดเจ้านี่จึงร้ายกาจนัก?

ขณะเดียวกัน สืออวี๋ ฉินซินฮุย และคณะซึ่งเดิมร้อนใจถึงขีดสุดอดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยมิได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]