บทที่ 2024 ความก้าวหน้าในเต๋าแห่งกระบี่
………………..
บทที่ 2024 ความก้าวหน้าในเต๋าแห่งกระบี่
การโจมตีของเฉินเซียวอวิ๋นนั้นรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เฉินซีดูเหมือนถูกสยบโดยสมบูรณ์ เขาถูกบีบให้ล่าถอยติดต่อกันและจวนจะพ่ายแพ้ในไม่ช้า
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่จู่ ๆ เฉินซีที่ดูเหมือนกำลังจะพ่ายแพ้ในพริบตาต่อมา ดูเหมือนจะกลายเป็นใบหญ้าที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งต่อหน้าพายุอันทรงพลัง ไม่ว่าเขาจะถูกสยบอย่างไร เขาก็ยังคงยืนหยัดอย่างดื้อรั้น
ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ ช่างใจสู้ยิ่งนัก!
“เร็วเข้า! รีบบดขยี้มันเร็ว!”
“อย่าให้โอกาสมัน! รีบยุติการต่อสู้ซะ! ทำให้เจ้าเด็กนี้ไสหัวไป!
“เร็วเข้า! เร็วเข้า!”
เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าเฉินซีตกอยู่ในอันตรายที่ใกล้เข้ามา แต่กลับไม่สามารถบดขยี้เขาได้จนถึงบัดนี้ มันทำให้บรรดาคนตระกูลเฉินรู้สึกหมดความอดทน และเริ่มตะโกนเสียงดัง
พวกเขาคิดว่าเฉินเซียวอวิ๋นตั้งใจทำเหมือนกับแมวหยอกหนู พวกเขาคิดว่าเฉินเซียวอวิ๋นไม่รีบร้อน และกำลังทำให้เฉินซีอับอายขายขี้หน้า
แต่ใครจะรู้ เฉินเซียวอวิ๋นก็อยากสยบเฉินซีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนอื่น ๆ แต่ไม่ว่าจะใช้ท่าสังหารใด เขาก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้!
ดังนั้นเขาจึงเริ่มกังวล เมื่อได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมจากโลกภายนอก ทำไมไอ้สารเลวนี่ถึงดื้อรั้นขนาดนี้?
ทำอย่างไรก็ฆ่ามันไม่ได้! มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
“ตายซะ!” จิตสังหารของเฉินเซียวอวิ๋นรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ มันทรงพลังและเจิดจรัสดุจดวงตะวัน
“ตาย!” กระบวนท่าของเขารุนแรงยิ่งขึ้น จิตสังหารปกคลุมฟ้าดิน คล้ายไม่ใช่การประลอง แต่เป็นการสังหาร
แต่ถึงกระนั้น เฉินซีที่ถูกสยบอย่างต่อเนื่อง ยังคงต้านรับอย่างดื้อด้าน และทุกครั้งที่พบกับอันตรายร้ายแรง เขาก็จะหลีกเลี่ยงอันตรายได้อย่างหวุดหวิดเสมอ
นี่คงไม่ใช่โชคกระมัง?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพึ่งพาโชคเพียงอย่างเดียว และยืนหยัดมาจนถึงขณะนี้ ในขณะที่อยู่ในการต่อสู้ที่อันตรายอย่างยิ่ง
ในระหว่างการต่อสู้ที่ดำเนินไป หลายคนสังเกตเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายลงเล็กน้อย!
เฉินซีที่ดูตกเป็นรองนั้น แท้จริงแล้วเป็นเหมือนก้อนหินที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพายุโหม การโจมตีใด ๆ ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
ในทางกลับกัน เฉินเซียวอวิ๋นที่ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ กลับไม่สามารถบดขยี้เฉินซีได้ ทุกกระบวนท่ากลายเป็นการผลาญพลังโดยสูญเปล่า
มันเกิดอะไรขึ้น?
หลายคนรู้สึกประหลาดใจและสับสนเล็กน้อย ในขณะที่อารมณ์ตื่นเต้นค่อย ๆ ลดระดับลงจนเงียบสงบ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังรู้สึกถึงความผิดปกติเลือนราง
“ความแข็งแกร่งของเขาในเต๋าแห่งกระบี่ค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้น!” แสงเรืองรองเปล่งประกายออกมาจากดวงตาของเฉินเต้าหยวน และมันก็น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง เขายืนเฝ้าและสังเกตการต่อสู้จากมุมหนึ่งตั้งแต่มันเริ่มต้น ดังนั้นเขาจึงมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งกว่าผู้ชมในโลกภายนอก
เมื่อเขาเปรียบเทียบความแข็งแกร่งในเต๋าแห่งกระบี่ที่เฉินซีเปิดเผยเมื่อเริ่มการต่อสู้ เขาสังเกตเห็นด้วยความตกใจว่า ความแข็งแกร่งในเต๋าแห่งกระบี่ของเฉินซีในตอนนี้ ได้เกิดพัฒนาอย่างชัดเจน!
ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนานี้ยังคงดำเนินต่อไป แต่คนอื่นกลับสังเกตเห็นได้ยากมาก เนื่องจากการต่อสู้รุนแรงเกินไป
“ให้ตายเถอะ! คนผู้นี้มีการบ่มเพาะที่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับสี่แล้ว หากเขาบรรลุความก้าวหน้าอีกครั้ง เขาจะไม่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับห้าหรอกหรือ?”
แสงอันเยือกเย็นปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉินชิวสุ่ย ในขณะที่สายฟ้าก็ไหลผ่านดวงตาคู่นั้น เสียงของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความวิตกกังวล
ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับห้า!
แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในจ้าวเอกภพทั่วทั้งตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบรรลุการบ่มเพาะเช่นนี้ในเต๋าแห่งกระบี่ได้!
ระดับดังกล่าวสูงส่งเกินไปและแทบไม่มีอยู่จริง กล่าวกันว่าเป็นการบรรลุ ‘ความเชี่ยวชาญ’ ในมหาวิถีกระบี่ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีแค่ผู้ที่มีโชคลาภ วาสนา และสติปัญญาเท่านั้นที่สามารถสัมผัสกับธรณีประตูของขอบเขตนี้ได้!
ในบรรดาจ้าวเอกภพภายในตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่บรรลุระดับการบ่มเพาะนี้ ดังนั้นจึงเป็นที่ประจักษ์ว่าแดนเทพโบราณอาจมีเพียงไม่กี่คน หรือแทบไม่มีเลย
ทว่าตอนนี้เต๋าแห่งกระบี่ของเฉินซีกำลังแสดงสัญญาณจาง ๆ ของการทะลวงขอบเขตในระหว่างการต่อสู้ ทำให้ทั้งเฉินเต้าหยวนและเฉินชิวสุ่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ
“เส้นทางแห่งการบ่มเพาะนั้นเป็นเส้นทางของการเอาชนะความพ่ายแพ้เพื่อนำไปสู่ความแข็งแกร่งที่มากขึ้น หากใครไม่ประสบกับความกดดันจากความสิ้นหวังอย่างยิ่งยวด ก็เป็นเรื่องยากที่ศักยภาพของคนคนหนึ่งจะปะทุขึ้นมา”
ในขณะนี้ อู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนก็สังเกตเห็นเช่นกัน ทำให้ความกังวลผ่อนตัวเล็กน้อย และอุทานด้วยความชื่นชม
“บัดซบ!” ในไม่ช้า ใบหน้าของเฉินหลิงคงและสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเฉินก็เต็มไปด้วยความเศร้าหมองในทันที พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่าศักยภาพของเฉินซีจะไม่ปกติขนาดนี้? จะมีใครบ้างที่สามารถกระตุ้นศักยภาพในเต๋าแห่งกระบี่ได้จริงในระหว่างการต่อสู้ที่อันตรายอย่างยิ่ง!
โครม!
เมื่อคนอื่น ๆ สังเกตเห็นสิ่งนี้ การปะทะกันที่สะท้านปฐพีก็ดังก้องมาจากสังเวียน และจากนั้น เฉินเซียวอวิ๋นก็ถูกซัดจนกระเด็นกลับไป!
ผู้ชมต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเฉินเซียวอวิ๋นที่ครองความได้เปรียบอย่างแท้จริงมาจนถึงตอนนี้ กลับถูกซัดจนกระเด็น!
ชิ้ง!
ในขณะนี้ เสียงกระบี่โหยหวนดังกังวานมาจากเฉินซี และกวาดทะยานผ่านฟ้าดิน ดูเหมือนเขาจะเกิดใหม่ และสภาพที่อ่อนแอของเขาได้หายไปหมดสิ้น กลิ่นอายอันน่าเกรงขามถูกยับยั้ง ไม่เฉียบแหลมและหยิ่งผยองอีกต่อไป มันทำให้เขาดูเหมือนเปล่งกลิ่นอายของต่างโลกแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้คนคนมองไปที่เขาอีกครั้ง ความสยดสยองก็พลุ่งพล่านออกมาจากใจโดยไม่รู้ตัว เหมือนมีกริชกดลงบนหลัง ราวกับได้มองดูสุดยอดกระบี่ที่มีอยู่ในตำนาน แม้ว่ามันจะเงียบงัน แต่ความได้เปรียบของมันก็เกินขอบเขตความอดทนของโลกไปมาก!
“ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับห้า!”
“เขาทะลวงขอบเขตไปแล้ว!”
“ไม่นึกเลยว่าเขาจะระเบิดศักยภาพนี้ในสถานการณ์ที่อันตรายและสิ้นหวัง ช่างน่าตกตะลึงและไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริง!”
เสียงชื่นชมมากมายดังก้องไปรอบ ๆ และส่วนใหญ่มาจากแขกที่มาชมการแข่งขัน
แต่ตอนนี้ ตาชั่งได้เอียงไปฝั่งเฉินซีแล้ว
เฉินเซียวอวิ๋นเริ่มไอเป็นเลือด ในขณะที่กระดูกและเส้นเอ็นทั่วร่างกายส่งเสียครวญด้วยความเจ็บปวด นอกจากนี้ เลือดลมในร่างยังตกสู่ความปั่นป่วนเลือนราง มิหนำซ้ำ ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิง ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็นซีดเผือดและบิดเบี้ยวจากความโกรธที่ปะทุอยู่ในอก
ไหนเลยเฉินหลิงคงจะคาดคิดว่าการต่อสู้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้ สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเฉินก็ไม่คาดคิด เหล่าผู้ชมก็ไม่คาดคิด และอู๋เซวี่ยฉานหรือถังเสียนก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
เป็นเพราะว่ามันเกินจินตนาการ ถึงทำให้ตกตะลึงอย่างอธิบายไม่ได้
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะได้เห็นโดยผู้บ่มเพาะจากโลกภายนอก พวกเขาก็ไม่อยากเชื่อตาตัวเองว่าจ้าวเอกภพสี่ดาราจะสยบจ้าวเอกภพแปดดาราได้จริง ๆ
…
ข้าทะลวงขอบเขตได้แล้ว!
ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับห้า!
ในความคิดของเฉินซี ความก้าวหน้าระหว่างการต่อสู้ไม่ได้ยากอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าที่เขาประสบในครั้งนี้ ยังคงทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เต๋าแห่งกระบี่นั้นไร้ขอบเขต แต่ยิ่งสูงความสำเร็จก็ยิ่งยาก หากไม่ใช่เพราะกระบี่ที่ถูกฟาดฟันโดยเฉินเหวินอวี้กระตุ้นศักยภาพเขา และทำให้สามารถจับร่องรอยของปัจจัยสำคัญของความก้าวหน้าได้อย่างเฉียบแหลม รวมทั้งหากไม่ได้แรงกดดันจากเฉินเซียวอวิ๋น เขาก็คงไม่สามารถก้าวหน้าไปได้ขนาดนี้!
เฉินซีไม่ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป และเขาก็ไม่มีเวลาเพลิดเพลินไปกับความสุขจากความก้าวหน้า เนื่องเพราะเขายังอยู่ในการต่อสู้!
ฆ่า!
ยันต์ศัสตราทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และฟันลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ในขณะนี้ เฉินเซียวอวิ๋นไม่สามารถต้านการโจมตีของเฉินซีได้อีกต่อไป
โครม!
เฉินเซียวอวิ๋นถูกระเบิดกลับมาอีกครั้ง ลำคอเย็บวาบ ถึงอย่างนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง มันทั้งดุร้ายและโกรธแค้นถึงขีดสุด นอกจากนี้ ในที่สุดเขาก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกคับข้องและความหวาดกลัว
ฟึ่บ!
ในตอนนี้ ผู้ชมทุกคนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่าแทบไม่มีทางที่เฉินเซียวอวิ๋นจะต้านทานการโจมตีนี้ได้
ฟึ่บ!
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ จู่ ๆ แพรสีแดงสดก็ฉีกผ่านอากาศราวกับสายฟ้าสีแดงเลือดนก และมันแทงอย่างแรงไปที่กลางหน้าผากของเฉินซี ทั้งแม่นยำและโหดเหี้ยม ทั้งยังตรงจังหวะกับตอนที่เฉินซีโจมตี
หากเฉินซีไม่เปลี่ยนทิศทางการโจมตี แพรสีแดงก็คงแทงทะลุตรงกลางหน้าผากของเขาไปแล้ว แม้ว่าเขาจะสามารถบดขยี้เฉินเซียวอวิ๋นได้ แต่ผลที่ตามมาก็ไม่สามารถจินตนาการได้!
โครม!
เฉินซีขมวดคิ้ว และยอมปล่อยเฉินเซียวอวิ๋นไป จากนั้นพลิกกระบี่ฟันไปที่แพรสีแดง ศาสตราทั้งสองปะทะกัน ระเบิดเป็นคลื่นเสียงกัมปนาทอันน่าสะพรึงกลัว และแสงอันศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมบริเวณโดยรอบ
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...