เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2051

บทที่ 2051 มดเกราะม่วง

………………..

บทที่ 2051 มดเกราะม่วง

หลังเดินออกจากรังก็พลันเกิดแสงสว่างตรงหน้า ท้องนภาสดใส ทุ่งหญ้าสีเขียวประหนึ่งทะเลไร้ที่สิ้นสุด สายลมพัดมาปะทะหน้า ทิวทัศน์ช่างงามตานัก

ซู่!

เฉินซีพยายามบิน เพียงพริบตาเขาก็ทะยานขึ้นไปสูงมากกว่าสิบจั้ง ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถไปในระดับความสูงที่มากกว่านี้ได้

นี่ทำให้เฉินซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หากอยู่ในภพมนุษย์ ด้วยพละกำลังตอนนี้ที่เทียบได้กับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายา เขาสามารถทะยานสู่สวรรค์หลบหนีสู่ปฐพีได้ง่าย ๆ แล้ว

ทว่าในโลกสาบสูญแห่งนี้ พลังดังกล่าวทำให้เขาบินสูงได้เพียงสิบจั้งเท่านั้น หากไปสูงกว่านี้จะถูกสิ่งที่คล้ายกับชั้นกฎเกณฑ์ที่มองไม่เห็นควบคุมเอาไว้ จึงเป็นการยากที่จะขึ้นไปสูงกว่านี้ได้

“ดูท่าว่าในโลกสาบสูญนี้ ความสามารถในการหลบหนีและการบินจะถูกนับว่าเป็นหนึ่งในมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่ายิ่งบินสูง ความสามารถก็ยิ่งแก่กล้า…”

เฉินซีครุ่นคิดกับตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงต้นไม้โบราณสีเขียว ราชสีห์ทองคำเก้าหัว และอสูรนภาทมิฬยักษ์เมื่อคืน

พวกมันทะยานสู่ท้องนภาแล้วดูดกลืนปราณสาบสูญจากดวงจันทร์ทั้งเก้า กลิ่นอายดังกล่าวทรงพลังและน่าสะพรึงยิ่งประหนึ่งสามราชันสูงสุดในโลกสาบสูญแห่งนี้

“เหมิงเหมิง เจ้ามานำทางให้ที”

อีกด้าน หมิงกำลังนั่งขัดสมาธิบนหลังของกระต่ายเขายักษ์ขณะสั่งให้มันก้าวไปข้างหน้า

เหมิงเหมิง?

เฉินซีตกตะลึง เขาต้องใช้เวลาพักใหญ่ถึงจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังเรียกกระต่ายเขายักษ์ มันเป็นความรู้สึกที่ชวนให้ประหลาด กระต่ายอสูรที่มีรูปร่างกลมกับขนาดราวกับขุนเขาขนาดเล็กกลับถูกตั้งชื่อเช่นนั้นจึงให้ความรู้สึกขัดแย้งค่อนข้างมาก

แต่กระต่ายเขายักษ์กลับดูมีความสุขมาก มันยิ้มกว้างไม่หุบจนเห็นฟันหน้าสีขาวราวหิมะ และแบกหมิงเข้าสู่ส่วนลึกของทะเลหญ้าเขียวขจีอันเนียนเรียบอย่างรวดเร็วราวกับสายลม

เฉินซีไม่อยากคิดให้มากความก่อนจะรีบตามไป

ร่างของเขาทะยานอยู่เหนือหญ้าราวกับผู้เยี่ยมยุทธ์ใช้เคล็ดตัวเบาในภพมนุษย์เพื่อ ‘เหยียบหญ้า’ ความเร็วนับว่าไม่ช้าแต่อย่างใด

ระหว่างทาง เฉินซีหยุดใช้กำลังอย่างสูญเปล่าก่อนจะกระโดดขึ้นหลังของเหมิงเหมิง เขาประหลาดใจทันทีที่พบว่าหมิงกำลังพึมพำบางอย่างอยู่หน้าหูชี้สีขาวราวหิมะ แล้วมันก็พึมพำบางอย่างกลับมาก่อนจะส่งเสียงแหลมตอบกลับเป็นครั้งคราว

หนึ่งคนกับหนึ่งสัตว์อสูรคล้ายกับกำลังสื่อสารกัน

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “เจ้าเข้าใจหรือ?”

เฉินซีคลี่ยิ้ม “สุดยอดเลย”

หมิงเหลือบมอง “ถ้าเจ้าตั้งจิตให้ดีก็ทำได้เหมือนกัน”

เฉินซีรีบส่ายหน้า เขาเป็นชายชาตรี มีหรือจะอยากกระซิบกระซาบกับกระต่าย

ถึงกระนั้นเขาก็อดถามไม่ได้ “พวกเราไม่ได้กำลังจะช่วยมันหาอาหารหรือ แล้วมันจะพาไปที่ไหนกัน?”

หมิงคล้ายกับมีความสุขเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำ “เหมิงเหมิงบอกว่าในพื้นที่ห่างออกไปหนึ่งพันลี้มีผลไม้ชื่อ ‘มธุรสโชติอัคนี’ อยู่ ใบจะงอกในสิบปี ดอกจะบานในหนึ่งร้อยปีและออกผลในหนึ่งพันปี มันเต็มไปด้วยปราณสาบสูญอันน่าประหลาด”

ดวงตาของเฉินซีทอประกายพลางเอ่ยชื่นชม “นี่คือพลังแห่งความตะกละ ยิ่งรู้วิธีกินก็ยิ่งรู้ว่าของดีเติบโตที่ใด”

หลังจากกินผลไม้ล้ำค่าหายากกองโตในรังของเหมิงเหมิง เฉินซีก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเมื่อพละกำลังไปถึงระดับที่เทียบเท่ากับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายา การกินสิ่งเหล่านี้ไม่ให้ผลที่เป็นประโยชน์เท่าไหร่นัก

ถ้าอยากเพิ่มพละกำลังอย่างก้าวกระโดดอีกครั้งก็ต้องหาสมบัติที่หายากยิ่งกว่า

นี่เหมือนกับยาเม็ดที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ต้องการในการฝึกฝนประจำวัน แต่ละขอบเขตก็ต้องการยาเม็ดในระดับที่ต่างออกไป

เฉินซีหุบปากทันที เขาได้เห็นแล้วว่าหมิงรักกระต่ายเขายักษ์ร่างจ้ำม่ำนี้ขนาดไหน นางเป็นห่วงเป็นใยมันราวกับสัตว์เลี้ยง

ในตอนนี้ เหมิงเหมิงพลันส่งเสียงแหลมก่อนจะหยุดนิ่ง จากนั้นมองไปบริเวณหนึ่งที่ห่างออกไปมากกว่าสิบจั้งด้วยดวงตาทอประกาย

มันคือหญ้ากลุ่มหนึ่งซึ่งบริเวณตรงกลางมีแสงสีแดงละเอียดอ่อนร้อนแรงราวกับตะวันตกดินสาดส่องออกมา

หากมองอย่างละเอียดก็จะพบว่ามันคือต้นไม้สีแดงโบราณที่สูงมากกว่าสิบห้าจั้ง กิ่งก้านโปร่งใสราวกับปะการังสีแดง โดยส่วนปลายของพวกมันมีผลไม้สีแดงร้อนแรงขนาดเท่าชามห้อยลงมา หากมองจากระยะไกล พวกมันให้ความรู้สึกเหมือนกับดวงอาทิตย์ส่องแสงสุกใสขนาดเล็ก

เห็นได้ชัดว่านี่คือต้นไม้เพลิงโบราณ ส่วนผลที่ห้อยลงมาคือ ‘มธุรสโชติอัคนี’ ที่เหมิงเหมิงกล่าวถึงแน่นอน

“ของดี!”

เฉินซีประหลาดใจ และสัมผัสได้ชัดเจนว่า ‘มธุรสโชติอัคนี’ แต่ละลูกเต็มไปด้วยปราณสาบสูญมหาศาล กลิ่นหอมสดชื่นลอยอยู่ในอากาศ เพียงแค่สูดดมหนึ่งครั้ง ก็ทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งไปทั่วร่างกาย

“มีทั้งสิ้นสิบห้าลูก พวกเราทั้งสามแบ่งกันคนละห้าลูกแล้วกัน”

ดวงตากระจ่างของหมิงจับจ้องต้นไม้เพลิงโบราณขณะเอ่ยแผ่วเบา

นี่เทียบเท่ากับการโจมตีสุดกำลังจากผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายา เพียงเท่านี้เขาก็สามารถจินตนาการได้ว่าร่างกายของมดเกราะม่วงเหล่านั้นแข็งแค่ไหน

ครืนน!

ก่อนเฉินซีจะทันได้ตอบสนอง ฝูงมดเกราะม่วงที่อยู่ใกล้เคียงก็แผดเสียงร้องคมปลาบขณะล้อมเขาเอาไว้แล้วเริ่มโจมตีเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง

แขนขาของพวกมันเปรียบได้กับดาบคมกริบขณะส่องแสงสีม่วงเข้ม แล้วพลังอันไร้เทียมทานก็ทำให้เกิดรอยแยกบนพื้น

การเคลื่อนไหวของพวกมันรวดเร็วและทรงพลังปานสายฟ้า เต็มไปด้วยระเบียบอันเข้มงวด อีกทั้งวิธีการต่อสู้ยังร้ายกาจซับซ้อนประหนึ่งกองทัพที่ถูกฝึกมานับพันครั้ง ดูน่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง

การป้องกันของพวกมันน่าประหลาดยิ่งกว่า ทั่วทั้งร่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าชั้นดี การโจมตีธรรมดาทำได้เพียงสร้างประกายไฟบนร่าง ไม่อาจทำอันตรายได้แม้แต่น้อย

ฟ่าว! ฟ่าว! ฟ่าว!

ดาบสีม่วงเข้มทะยานสู่อากาศ ไขว้ไปมาประหนึ่งตาข่ายดาบล้อมเฉินซีเอาไว้

ทว่าด้วยประสบการณ์การต่อสู้หลายปีก็ไม่ทำให้เฉินซีถูกกำราบอย่างสมบูรณ์ ยิ่งเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ก่อนจะเริ่มรู้สึกถึงการต่อสู้ในอดีตกาลทีละน้อย

แทบจะในเวลาเดียวกัน มดสีม่วงบางส่วนเริ่มโจมตีหมิงกับเหมิงเหมิง เห็นได้ชัดว่านางมีปัญหาด้านการปรับตัว แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้จึงทำให้พอจะปกป้องตนเองกับเหมิงเหมิงไว้ได้ชั่วคราว

ครืนนน!

การต่อสู้อุบัติขึ้นบนผืนหญ้าแห่งนี้ ใบหญ้าระเบิด ปฐพีเกิดรอยแยก แม้กระทั่งสุญตาก็ถูกฉีกกระชาก

โครม!

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป เฉินซีจึงฉวยโอกาสแทงหอกแหลมคมออกไป ปลายหอกที่เต็มไปด้วยแสงสีเขียวอ่อนน่าสะพรึงแทงไปที่ลูกตาของมดเกราะม่วงจนทะลุผ่านศีรษะ โลหิตสีดำทะลัก แล้วล้มลงถึงแก่ความตาย

แต่ในทางกลับกัน หอกไม้ของเฉินซีก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กลายเป็นเศษไม้ในพลัน

มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ หอกไม้เล่มนี้ถูกสร้างมาจากก้านหญ้าเท่านั้น แม้จะแข็งมาก แต่ก็ไม่ใช่สมบัติต่อสู้ที่แท้จริง เห็นได้ชัดว่ายังไกลเกินกว่าจะเอามาจัดการมดเกราะม่วงเหล่านี้

กรอบ! กรอบ!

ทว่าเฉินซีเตรียมตัวพร้อมแล้ว ทันทีที่สังหารมดเกราะม่วง เขาก็ทะยานไปที่ศพของมันแล้วหักแขนขาคมปลาบคู่หนึ่งออกมา

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]