บทที่ 2053 ราชามดเกราะทอง
………………..
บทที่ 2053 ราชามดเกราะทอง
เช้าตรู่วันถัดมา เมื่อม่านรัตติกาลถูกเบิกออก ตลบเก็บเก้าจันทราเหนือนภาไปกับมัน สรรพชีวิตทั่วโลกสาบสูญก็นิ่งงันไปอีกครั้ง
เช้ง!
หนึ่งกระบี่คำรนกึกก้องทั่วโพรงใต้ดิน ให้ความรู้สึกคมกริบดุดัน
เฉินซีวางกระบี่อันสมบูรณ์ไว้ตรงหน้าตน พินิจมันอย่างตั้งใจ
กระบี่เล่มนี้ยาวสามฉื่อสี่ชุ่น กว้างสองข้อนิ้ว ปกคลุมด้วยอักขระยันต์หนาแน่น เรืองรัศมีแสงม่วงเข้มเป็นชั้นวง
เมื่อเฉินซีส่งปราณสาบสูญเข้าไปสายหนึ่ง แสงสีม่วงก็เรืองรองวาบไหวไปทั่วอักขระยันต์ รัศมีกระบี่เจิดจรัสคมกริบทะยานออกจากคมกระบี่ ฟาดฟันสุญตาเบื้องหน้าปริแยกพร้อมเสียงขวับกึกก้อง
โชคยังดีที่ยังพอใช้ไปก่อนได้…. เฉินซีพยักหน้า ก่อนจะตั้งชื่อให้กระบี่ทันทีว่า อินทนิลโรย
“เราจะไปกันแล้วหรือ?” หมิงเดินมาหา รูปร่างของนางเพรียวบางราวสลักเสลาบรรจง เอวบางเสียจนเหมือนถูกรัด สวมอาภรณ์ดำรัดรูป เรือนผมดกดำขมวดมวย สะพายหอกยาวสีม่วงเข้มไว้เบื้องหลัง เมื่อผนวกกับรูปลักษณ์งามสะกดใจ ทว่าเหินห่างเย็นชานั้น นางก็ยิ่งดูหาญกล้าผ่าเผยยิ่ง
เฉินซีกล่าวพลางเริ่มลงมือนำวัตถุดิบที่เขาแปรสภาพไว้ล่วงหน้าออกมา ตั้งใจสร้างค่ายกลนอกทางเข้าถ้ำ
เขาสร้างวัตถุดิบเหล่านี้จากขาหน้าของมดเกราะม่วงเหล่านั้นเช่นกัน สิ่งเหล่านั้นเต็มไปด้วยร่องรอยปราณสาบสูญ
แม้เขาจะไม่อาจใช้พลังเต๋าแห่งยันต์อักขระได้ในโลกนี้ ทักษะค่ายกลยันต์อักขระของเฉินซีก็ยังสามารถสร้างค่ายกับดักเช่นนี้ไหว
แน่นอน กล่าวมิได้ว่าฤทธิ์ของมันร้ายกาจ แต่มันก็ยังสามารถใช้เป็นการเตือนได้อยู่ เมื่อเกิดเรื่องใดขึ้น เหมิงเหมิงก็ยังหนีได้ล่วงหน้า
หมิงประหลาดใจเล็กน้อยยามเห็นว่าเฉินซีเตรียมการล่วงหน้าเบ็ดเสร็จเช่นนี้ แล้วรอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นบางเบาที่มุมปากนางอย่างช่วยไม่ได้
เพีบงครู่ต่อมา เฉินซีก็ผ่อนลมหายใจยาว แย้มยิ้มกล่าว “เอาละ เราไปกันได้แล้ว”
หมิงถาม “เจ้ารู้หรือว่ารังของมดเกราะม่วงพวกนั้นอยู่ที่ใด?”
รอยยิ้มแฝงเลศนัยลึกล้ำยกขึ้นที่มุมปากเฉินซี “หลังจากข้าฆ่ามดเกราะม่วงไปมากมาย ปราณของพวกมันก็ตราตรึงในใจข้าแล้ว แค่ตามเบาะแสที่มี ก็หาพวกมันเจอได้”
“ตามข้ามา” ร่างของเฉินซีวูบไหวไปไกล
…
สองชั่วยามจากนั้น
วูบ!
ร่างของเฉินซีหยุดลงที่ทุ่งหญ้าอันเขียวขจีแห่งหนึ่ง ปรากฏเนินดินก่อตัวสูงสู่เวหาให้เห็นมิห่างนัก
เนินดินนี้สูงราวร้อยจั้ง เทียบได้กับภูเขา เป็นสีดำสนิทเจือด้วยม่วงเข้มเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่านี่มิใช่เนินดินธรรมชาติ แต่ถูกสร้างขึ้นเสียแทน เมื่อมองจากไกล ๆ ก็ดูเหมือนป้อมปราการอันยืนยงไร้พ่าย
ทางเดินลึก ๆ สีดำถูกสร้างขึ้นใต้เนินดิน ขณะที่มดเกราะม่วงขนาดมหึมาดุจสร้างจากเหล็กสองตัวคุ้มกันสองข้างทาง
ดุจเวรยามผู้ภักดีพิทักษ์ทางเดิน
“มาถึงแล้ว” เฉินซีสูดหายใจลึก ๆ จิตสังหารเย็นเยียบเสียดแทงวาบไหวในดวงตา
“เหมิงเหมิงบอกว่า กองทัพมดเกราะม่วงมีเป็นพันหมื่น นำโดยราชามดเกราะทองหนึ่งตน ทัพมดนี้ปล้นสะดมบริเวณรอบข้างมาหลายปี กร่างกำแหงสารพัด ชิงสมบัติไปมากมายอย่างไร้สำรวม กล่าวได้ว่าชื่อเสียโจษจัน เป็นผู้ระรานตัวตนอื่น ๆ ในละแวกนี้” หมิงสูดหายใจลึก “เช่นนั้น เรามากำจัดพวกมัน ก็ถือได้ว่าพิพากษ์ธรรมแทนสวรรค์”
หมิงอดขำมิได้ และพูดอย่างเคร่งขรึม “ข้าก็ด้วย”
ในช่วงกาลนี้ หมิงเริ่มยิ้มบ่อยขึ้น มิได้หน้ามุ่ยวางตนห่างเหินเช่นกาลก่อน
“ไปกัน!” ร่างของเฉินซีวูบไหวไร้เสียง เคลื่อนผ่านกอหญ้าหนาราวเป็นเงา มาถึงใต้เนินดินในทันที
ทว่าเฉินซีก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามดเกราะม่วงทั้งสองระแวดระวังอย่างยิ่ง พวกมันสังเกตเห็นเขาทันทีที่มาถึง
พวกมันเหวี่ยงขาหน้าอันคมกริบดุจคมดาบ โถมเข้าใส่เฉินซีกันอย่างรวดเร็ว
ฟ่าว!
แทบจะพร้อมกันนั้น เงากระบี่สีม่วงอ่อนก็วูบไหว
หลังจากนั้น สองเสียงเปรี้ยงดังสนั่น ศีรษะของพวกมันถูกฟันขาดอย่างง่ายดายราวทำจากกระดาษ
ขณะนี้ เฉินซีมีอำนาจต่อสู้เทียบได้กับเซียนปฐพีระดับเก้า ประกอบกับมีกระบี่อินทนิลโรยหนุนเสริม การฆ่ามดเกราะม่วงเหล่านี้จึงง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ
“งดงาม” หมิงเข้ามาหา กล่าวกับเฉินซีอย่างประหลาดใจ นางตระหนักดีว่าอำนาจต่อสู้ของเฉินซีไม่ธรรมดา แต่ก็มิคาดว่าเขาจะร้ายกาจเฉียบขาดเสียจนไม่สิ้นเปลืองพลังกายโดยไร้จำเป็นใด ๆ
“แต่ข้าก็ยังทำให้พวกนั้นรู้ตัวอยู่ดี” เฉินซีไหวไหล่อย่างจนใจ
ครืน!
จริงเช่นนั้น เฉินซีพูดไม่ทันขาดคำ คลื่นสะท้านพลันกึกก้องออกมาจากส่วนลึกของทางเดิน แล้วเสียงแผดร้องแหลมนับไม่ถ้วนก็กวาดกระหน่ำเข้ามาราวคลื่นนที
ดุจหนึ่งกองทัพกำลังกรีฑาออกมาจากส่วนลึกของทางเดิน เขย่าขวัญสั่นประสาทยิ่งนัก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...