เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2092

บทที่ 2092 เคล็ดก่อร่างสร้างเต๋า

………………..

บทที่ 2092 เคล็ดก่อร่างสร้างเต๋า

มหาเทพเต๋าซูถัวสงบนิ่งมากจนผิดปกติ

ในอดีตนั้น ความตายของศิษย์น้องมหาเทพเต๋าโม่หลิงด้วยน้ำมืออู๋เซวี่ยฉาน ทำให้เขาอยากสังหารอู๋เซวี่ยฉานให้ตายตกไปตามกันอยู่หลายครั้ง

แต่ในตอนนี้ เหมือนเขาจะลืมความแค้นครั้งนั้นไปแล้ว ดูสงบสุขุมราวกับคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้ได้ ซึ่งดูแปลกตาอยู่บ้าง

แต่พอได้ยินว่าซูถัวคิดจะพาเหลิ่งซิงหุนและสตรีคนอื่น ๆ ไปยังแดนมารดากำเนิดบรรพ์เพื่อเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถีด้วย เฉินซีจึงเข้าใจว่าทำไมซูถัวถึงได้นิ่งเช่นนั้น

ใช่แล้ว ก็เพื่อให้ได้เข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถีอย่างไรเล่า!

ถึงขั้นที่ซูถัวมั่นใจว่าอู๋เซวี่ยฉานจะไม่กล้าโจมตีเขาตอนนี้ เพราะหากต่อสู้กันเมื่อไหร่ก็คงไม่จบภายในระยะเวลาสั้น ๆ ได้แน่ และก็จะส่งผลต่อการเดินทางไปเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถีแน่นอน

แต่ก็เป็นที่รู้กันว่ามีเพียงทายาทตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าศึกผู้พิทักษ์วิถีได้ กระทั่งเฉินซีที่เข้าไปได้ก็เพราะมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับตระกูลเฉิน และใช้ชื่อตระกูลเฉินในการเข้าร่วม

แล้วนิกายอำนาจเทวะเล่า?

เหตุใดจึงสามารถเข้าศึกผู้พิทักษ์วิถีได้?

เฉินซีเองก็ไม่รู้ แต่ความจริงนี้เขาทำให้เขาใจหล่นวูบ เพราะนิกายอำนาจเทวะฉวยโอกาสที่ความวิบัติกวาดล้างทั่วใต้หล้าสร้างเหตุนองเลือดในแดนเทพโบราณ ทั้งยังเข้ามายุ่มย่ามกับศึกผู้พิทักษ์วิถีอีก เป็นความจริงที่ชวนให้คิดนัก

ไม่แน่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจมีแผนการบางอย่างอยู่ก็เป็นได้!

“ถึงศึกผู้พิทักษ์วิถีจะสำคัญ แต่หากสังหารเจ้าได้ตอนนี้ข้าก็ไม่ต้องเสียใจอะไรแล้ว” อู๋เซวี่ยฉานยิ่งมีท่าทีองอาจ วงแสงสีกระจ่างวนล้อมรอบกาย เป็นเหมือนดวงตะวันสว่างจ้า ส่องประกายไปทั่วทั้งใต้หล้า ทุกสิ่งอย่างล้วนหยุดนิ่ง

พริบตานั้น ซูถัวที่เดิมทีมีใบหน้าสงบสุขุมก็เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย ผมสีดอกเลาพลิ้วไสว เกิดเมฆาสายฟ้าปรากฏขึ้นในดวงตาขุ่นมัวทันใด

บรรยากาศพลันให้ความกดดัน พื้นที่รอบข้างรัศมีแสนลี้คล้ายกับตกอยู่ในความกดดันน่าหวาดผวา ชั้นบรรยากาศถูกแรงกดดันบดขยี้จนเป็นผุยผง

ห้วงมิติเกิดริ้ว หลุมดำจำนวนมากปรากฏขึ้นซ้อนทับกัน กลิ่นอายดุดันที่พวกเขาปล่อยออกมาคล้ายกับว่าจะกลืนฟ้าได้ด้วยซ้ำ

เฉินซีกับหมิงยืนอยู่ด้านหลังอู๋เซวี่ยฉานจึงไม่เห็นพลังที่ปะทะกันของคนทั้งสอง แต่พอเห็นภาพความ ‘พินาศ’ รอบข้าง ในใจก็รู้สึกเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

หากผู้บ่มเพาะธรรมดาหลุดเข้ามาเจอแรงพลังเช่นนี้ก็คงถูกพลังจนสิ้นใจทันทีแน่!

“นายท่านใหญ่ แดนเทพโบราณกำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย สำนักและนิกายจำนวนมากเอาตัวเองไม่รอดด้วยซ้ำ เพลิงนี้เผามาถึงประตูหน้าของเขาเทพพยากรณ์แล้ว มั่นใจแล้วหรือว่าจะสู้กันตอนนี้?” ซูถัวยังคงมีใบหน้านิ่งสนิท ริมฝีปากแห้งเหี่ยวยกยิ้มเหี้ยม

“ทำไมจะไม่ได้?” อู๋เซวี่ยฉานเอ่ยเสียงเรียบ

ครืน!

ว่าแล้วห้วงอากาศตรงหน้าก็เหมือนเป็นผ้านิ่ม เริ่มบิดม้วนเป็นเกลียวอย่างแรง มองแล้วเป็นภาพชวนประหลาดตา

ทุกอย่างกลับตาลปัตรถูกทำลายสิ้น น่าตื่นตาตื่นใจไม่หาย

กลุ่มของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่ท่ามกลางคลื่นรุนแรงที่วาดผ่านฟ้า เผชิญหน้ากันอยู่ไกล ๆ แรงทำลายล้างที่บดขยี้ทุกอย่างรอบตัวเหมือนไม่ส่งผลใดต่อพวกเขาเลย

แต่ทุกคนรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้อันตรายยิ่ง!

เมื่อสองมหาเทพเต๋าเริ่มต่อสู้กันจริงเมื่อไหร่ รอบข้างก็คงสลายกลายเป็นจุณ ภาพน่ากลัวทั้งหลายที่ทุกสิ่งอย่างมลายหายสิ้นก็จะปรากฏขึ้น!

“ฮ่า ๆ! ดูท่าเจ้าจะยังไม่รู้สินะว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกับนิกายอำนาจเทวะแล้ว อีกไม่กี่วันเจ้าสำนักศักดิ์สิทธิ์จะเข้าร่วมกับเจ้านิกายอำนาจเทวะของข้า หากตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับนายท่านใหญ่ แค่ตี้ซุนกับเหวินเต้าเจินคงรักษาเขาเทพพยากรณ์ให้ปลอดภัยไม่ไหวแน่” ซูถัวเหยียดยิ้มบอกความลับอันน่าตกใจ

คลื่นอารมณ์ซัดสาดภายในใจเฉินซี ไม่คิดเลยว่าความวิบัติที่กำลังโจมตีจะมาถึงหน้าประตูเขาเทพพยากรณ์ตอนที่เขาปิดด่านบ่มเพาะอยู่เช่นนี้ ทั้งอีกไม่นาน เขาเทพพยากรณ์ก็จะถูกนิกายอำนาจเทวะที่ร่วมมือกับสำนักศักดิ์สิทธิ์เข้าโจมตีอีกเสียด้วย!

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร?

เหตุใดศิษย์พี่ใหญ่ถึงไม่บอกกล่าว?

ใจเฉินซีเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน

พร้อมกันนั้น เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างนุ่ม ๆ กำลังกุมมือเขาไว้ รู้สึกว่าฝ่ามือตนอุ่น พอหันไปมองก็เห็นหมิงกำลังจ้องตอบมาด้วยดวงตาสีดำบริสุทธิ์ เหมือนอยากปลอบประโลมเขา

“ฮ่า ๆ! คนฉลาดย่อมรู้จักลงมือยามสมควร! นายท่านใหญ่ ข้าไปก่อนนะ!” เสียงแหบแห้งของซูถัวดังผ่านห้วงมิติมาอีกครั้ง เป็นเสียงเย่อหยิ่งแสดงความพึงพอใจ

“ไอ้แก่นั่น! หากเจ้านิกายอำนาจเทวะไม่ใช้กลิ่นอายปิดที่นี่ไว้ มีหรือไอ้แก่นั่นจะกลับไปได้อย่างปลอดภัยได้!” อู๋เซวี่ยฉานพลันหัวเราะขัน จากนั้นใบหน้าก็กลับคืนสู่ความสงบ

กลิ่นอายของเจ้านิกายอำนาจเทวะ!

เฉินซีตะลึง หมายความว่าหากศิษย์พี่ใหญ่กับตาแก่นั่นสู้กันจริง ก็เป็นไปได้ว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะอาจลอบโจมตีอย่างนั้นหรือ? “อย่าอยู่ที่นี่นานเลย เราไปกันเถอะ” อู๋เซวี่ยฉานสะบัดแขนเสื้อออก เฉินซียังไม่ทันได้หายตกใจเลยด้วยซ้ำ จากนั้นเขาก็พาเฉินซีกับหมิงเดินทางข้ามจักรวาลหลากหลายแห่งต่อ

“ศิษย์พี่ใหญ่ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เฉินซีถามขึ้นระหว่างเดินทาง

“ไม่มีอะไร ก็แค่ตาแก่ซูถัวพยายามทำเบ่งต่อหน้าข้าก็เท่านั้น” อู๋เซวี่ยฉานเอ่ยเสียงสบาย “ส่วนกลิ่นอายของเจ้านิกายอำนาจเทวะนั่น มันถูกซ่อนไว้ในตัวเหลิ่งซิงหุน ก็แปลกอยู่นะ”

เห็นได้ชัดว่ากระทั่งอู๋เซวี่ยฉานยังดูงุนงง

“ศิษย์พี่ใหญ่ เจ้าเหลิ่งซิงหุนนั่นแปลกมาก ข้าสังหารเขาในแดนรวนเรลืมเลือนไปนานแล้ว เขาไม่มีทางรอดชีวิตมาได้แน่ แต่กลับมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเราเช่นนี้ ทั้งยังมีพลังถึงขอบเขตจ้าวเอกภพเก้าดาราอีก ท่านคิดว่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้านิกายอำนาจเทวะหรือไม่?” เฉินซีรีบเอ่ย

“คนตายแล้วชุบชีวิตขึ้นมาอีกไม่ได้แน่ แต่บางครั้งแค่เสี้ยวแก่นโลหิตและวิญญาณก็อาจทำได้….” อู๋เซวี่ยฉานคิดอยู่นาน ก่อนนัยน์ตาจะหรี่ลงเหมือนคิดออกแล้ว “เข้าใจล่ะ! นี่คือเคล็ดก่อร่างสร้างเต๋าของนิกายอำนาจเทวะ!”

พริบตานั้น ใบหน้าเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา จากนั้นก็โบกมือสร้างกระแสจิต เปลี่ยนมันให้เป็นเส้นแสงพุ่งผ่านมิติไป

จากนั้นอู๋เซวี่ยฉานก็ดูจะใจเย็นลงเล็กน้อย หันไปเอ่ยกับเฉินซี “ศิษย์น้องเล็ก เจ้าเหลิ่งซิงหุนนั่นไม่ใช่เหลิ่งซิงหุนคนเดิมแล้ว วิญญาณของเขาถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยน้ำมือเจ้านิกายอำนาจเทวะผ่านวิชาลับ ให้บัญชาเต๋าสวรรค์คืนร่างเขาขึ้นมา ดังนั้นพลังต่อสู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่จ้าวเอกภพเก้าดาราธรรมดาจะสามารถเทียบเคียงได้เลย”

เขาหยุดไปเล็กน้อยแล้วว่าต่อเสียงเข้ม “ที่สำคัญคือ เมื่อใช้วิชานี้สร้างร่างใหม่ขึ้นมา ก็จะสามารถใช้พลังเต๋าสวรรค์ในการต่อสู้ได้ หากปล่อยให้เขาเข้าศึกผู้พิทักษ์วิถีบนภูเขาผนึกเทพ เช่นนั้นคงได้สำแดงฤทธิ์เดชมากกว่านี้แน่!”

เฉินซีเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ภูเขาผนึกเทพเป็นสถานที่ซึ่งใกล้กับเต๋าสวรรค์ที่สุด เหลิ่งซิงหุนสามารถใช้พลังเต๋าสวรรค์ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาได้เปรียบมากหากเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถีได้จริง

“ไม่คิดเลยว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะจะไม่ลังเล ใช้แก่นพลังจิตเพื่อศึกผู้พิทักษ์วิถีครั้งนี้ สร้างปีศาจขึ้นมาเสียได้” อู๋เซวี่ยฉานคิดอยู่ชั่วขณะแล้วว่าต่อ “ดูท่าเราต้องรีบไปแดนมารดากำเนิดบรรพ์แล้ว ศึกผู้พิทักษ์วิถีครั้งนี้ไม่เหมือนศึกผู้พิทักษ์วิถีที่ผ่าน ๆ มาแน่….”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]