บทที่ 2117 ที่ราบสูงสังหาร
………………..
บทที่ 2117 ที่ราบสูงสังหาร
หมอกก่อตัวหนาทึบขณะเฉินซีเดินผ่านเพียงลำพัง
โครม!
ฉับพลันแสงสีเทาที่เกิดจากผู้ล่าทะยานออกจากความมืด แต่ก่อนจะทันได้เข้าใกล้ มันก็บดขยี้เข้ากับแสงจากคมกระบี่สีแดงเจิดจ้า จากนั้นจึงถูกดูดกลืนโดยโลหิตที่ปกคลุมอยู่บนคมกระบี่เล่มนั้น
เฉินซีก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
เจ็ดวันผ่านไปนับตั้งแต่คราวที่แล้วที่ได้พบกับชื่อฉู่เกอ
ในช่วงเจ็ดวันมานี้ เฉินซีเดินทางผ่านป่าม่านหมอกแห่งนี้ขณะต่อสู้และรักษาบาดแผล
มีผู้ล่าจำนวนมากอยู่ในป่าม่านหมอกแห่งนี้ พวกมันทั้งเจ้าเล่ห์ และโหดเหี้ยม อีกทั้งยังครอบครองพลังที่ไม่ได้ด้อยกว่าขอบเขตจ้าวเอกภพห้าดารา
แต่ภายใต้กระบี่ของเฉินซี พวกมันก็เปราะบางราวกับกระดาษ
การที่สามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได้ก็เพราะกระบี่เต๋าวิบัติรับบทบาทสำคัญ มันทำการต่อต้านพลังโสมมกับพลังบาปอันชั่วร้าย ประกอบกับด้วยพลังของเฉินซี ทำให้สามารถสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย
ทุกครั้งที่ผู้ล่าถูกสังหาร กระบี่เต๋าวิบัติจะดูดกลืนและขัดเกลาส่วนหนึ่งของพลังบาป จากนั้นจึงเก็บรักษากฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์เอาไว้ในกระบี่
ตอนนี้ หลังจากดูดกลืนพลังของผู้ล่าจำนวนมาก ไข่มุกโลหิตใสกระจ่างในกระบี่เต๋าวิบัติก็เจิดจ้าทอประกายพร้อมกับความแวววาวสีทองอันนุ่มนวลและศักดิ์สิทธิ์
ขนาดของมันไม่เพิ่มขึ้น แต่กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในกลับบริสุทธิ์และเข้มข้นมาก โดยเฉพาะหลังจากกลืนกินสมบัติต้องสาปอย่าง ‘หนามสังหารเทพ’ เมื่อไม่กี่วันก่อน เห็นได้ชัดว่าไข่มุกโลหิตนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง บนพื้นผิวของกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์สีทองที่บางประหนึ่งเส้นผมนับไม่ถ้วนกำลังโคจรไปมา ซึ่งดูน่าอัศจรรย์นัก
ขณะเฉินซีสังหารผู้ล่าและกระบี่เต๋าวิบัติดูดกลืนพลังเป็นจำนวนมาก ไข่มุกโลหิตค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ
นี่ทำให้เฉินซีอดไม่ได้ที่จะตั้งตารอว่าไข่มุกโลหิตลึกลับนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งใดในท้ายที่สุด
ไข่มุกโลหิตนับว่าลึกลับมาก พวกมันคือกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ที่หลงเหลือหลังจากกระบี่เต๋าวิบัติทำการขัดเกลาพลังบาปอันชั่วร้ายจำนวนมาก
ทว่าเฉินซีไม่เคยเห็นกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์แบบนั้นมาก่อน พวกมันแตกสลายประหนึ่งเศษแก้วนับไม่ถ้วน จึงเป็นการยากที่จะระบุตัวตนได้ว่าสิ่งอัศจรรย์เกี่ยวกับพวกมันคืออะไรและครอบครองกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์แบบไหน
หลังจากตรวจสอบอยู่หลายครั้ง เฉินซีทำได้เพียงอนุมานว่าไข่มุกโลหิตลึกลับนี้ประกอบด้วยชิ้นส่วนของกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ หากต้องการทำความเข้าใจแก่นของมัน เขาอาจจะต้องรอจนกว่าจะถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นสุดท้าย
เฉินซีตั้งชื่อมันว่า ‘ไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์’
เฉินซีเคยพยายามสังหารผู้ล่าด้วยมือของตัวเองและใช้พลังที่มีอยู่เพื่อขับไล่พลังบาปอันชั่วร้ายจากศพ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถดูดกลืนพลังบริสุทธิ์ของกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์จากมันได้
นี่ยังทำให้เฉินซีตัดสินได้ว่าไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์ทำได้เพียงเปลี่ยนสภาพขณะกระบี่เต๋าวิบัติสังหารสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นที่เต็มไปด้วยพลังโสมมกับพลังบาปอันชั่วร้าย
นี่ยังเป็นการพิสูจน์ว่ากระบี่เต๋าวิบัติซึ่งถูกทิ้งไว้โดยดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลถูกนิกายอำนาจเทวะพยายามทำลายในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
…
หลายวันต่อมา บาดแผลของเฉินซีได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ แล้วประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขากลับสู่จุดสูงสุด
ระหว่างทาง เขาเดินทางอย่างต่ำหมื่นลี้อยู่ในป่าหมอกขณะสังหารผู้ล่าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สิ่งที่ผิดปกติก็คือตนไม่เคยเห็นผู้รุกรานเต๋าหรือผู้เข้าร่วมจากค่ายเดียวกันเลย
แม้กระทั่งพวกฉางอวิ๋นเหยี่ยก็คล้ายกับหายไปในกลีบเมฆ
จากการคาดเดาของเฉินซี เกรงว่าทั้งผู้รุกรานเต๋ากับผู้เข้าร่วมจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ต่างมุ่งหน้าสู่ที่ราบสูงสังหาร
เพราะสำหรับผู้เข้าร่วม มีเพียงการไปที่นั่นจึงจะได้รับความสำเร็จมากมาย รวมถึงสมบัติและวาสนาที่คาดไม่ถึงอีกนับไม่ถ้วน
ส่วนผู้รุกรานเต๋า พวกเขาสามารถล่าและสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมากจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้อีกด้วย
เฉินซีนับเวลาก่อนจะพบว่านี่เป็นวันที่สิบหกนับตั้งแต่เข้าสู่แหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋า มันยังเป็นเวลาที่จะไปที่ราบสูงสังหาร ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของสมรภูมิ
ผ่านไปหนึ่งวัน
ร่างของเฉินซีปรากฏตรงหน้าฐานทัพที่เห็นอยู่แต่ไกล แต่สถานที่นั้นกลับไม่อยู่อีกแล้ว เหลือเพียงแท่นบูชาโบราณแปลกประหลาด
บนพื้นผิวของแท่นบูชาเต็มไปด้วยค่ายกลแปลกประหลาด โดยทั้งหมดนี้สร้างขึ้นจากอักขระโกลาหล
กองทัพของผู้รุกรานเต๋าที่เดิมไหลหลั่งเข้าสู่ป่าหมอกเดินทางผ่านแท่นบูชานี้
หากการคาดเดาของเฉินซีถูกต้อง ชื่อชิงอิงอาจจะเคลื่อนย้ายไปที่ราบสูงสังหารผ่านแท่นบูชานี้
ขณะเดินสำรวจรอบข้าง เฉินซีก็ขมวดคิ้วทันทีก่อนจะเห็นอักขระกำลังลอยอยู่ฝั่งหนึ่งของแท่นบูชา แล้วน้ำเสียงอันสงบของชื่อชิงอิงก็ดังขึ้นในหูของเขา “ผู้ช่วงชิงเอ๋ย ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ราบสูงสังหาร!”
เฉินซีสะบัดแขนเสื้อก่อนแถวอักขระนี้จะถูกลบในทันที จากนั้นเขาตรวจสอบอักขระโกลาหลที่ถูกสลักบนพื้นผิวของแท่นบูชา
หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา
เฉินซีเดินไปที่ใจกลางแท่นบูชา โดยกระบี่เต๋าวิบัติในมือก็แผดเสียงก่อนจะฟาดฟันลงไป
ตู้ม!
เห็นได้ชัดว่าอสูรหน้าศิลาตรงหน้าคือจ้าวเอกภพเก้าดารา นอกจากเขาแล้วยังมีกลุ่มทายาทอีกจำนวนนับพันจนปกคลุมทั่วพื้นที่นี้
ทว่าเมื่อเทียบกันแล้ว แม้จำนวนของสหายเหล่านั้นจะมากกว่า แต่ไม่มีใครที่พละกำลังไปถึงจ้าวเอกภพเก้าดารา
“บุก! บุกพร้อมกัน! ฆ่ามัน!”
อสูรหน้าศิลาขอบเขตจ้าวเอกภพเก้าดาราคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่วูบไหวจากข้อมือที่ถูกสะบั้น มือขนาดใหญ่ก็ฟื้นคืนกลับมาขณะพุ่งเข้าใส่พร้อมขวานโลหิตอีกครั้ง
กลุ่มอสูรหน้าศิลาที่อยู่ด้านหลังเขาแผดเสียงตะโกนดังสนั่นจนเกิดระลอกคลื่น พวกเขาฮึกเหิมและไม่กลัวเกรงความตาย
ฟ่าว!
ดวงตาสีดำของเฉินซีทอประกายอย่างเย็นชาเมื่อเห็นเช่นนี้ แล้วกระบี่เต๋าวิบัติก็กวาดล้างพร้อมกับลำแสงสีเลือดเจิดจ้า
ครืนนน!
ปราณกระบี่เคลื่อนผ่านทุกหนแห่งขณะอสูรหน้าศิลาขอบเขตจ้าวเอกภพเก้าดาราที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดไม่ทันหลบเลี่ยง ร่างของมันถูกสะบั้นที่บริเวณเอวขณะร่างท่อนบนแยกออก แม้เขากรีดร้องสุดเสียงแต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะฟื้นคืนชีพได้อีก
หลังจากนั้น สหายอสูรหน้าศิลาที่มีจำนวนมหาศาลประหนึ่งคลื่นก็ถูกฟาดฟันโดยปราณกระบี่ราวกับฟางเหลือไว้เพียงแขนขากระจัดกระจาย!
หากก้มมองจากบนฟ้าก็จะเห็นชัดเจนว่าปราณกระบี่โลหิตกวาดผ่านไปไกลหนึ่งพันจั้ง แล้วกองทัพอสูรหน้าศิลาทั้งหลายในพื้นที่นี้ก็ล้มลงกับพื้น ไม่มีใครรอดจากภัยพิบัตินี้ไปได้!
พื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ปรากฏบนสมรภูมิ พื้นดินเต็มไปด้วยศพของอสูรหน้าศิลากับเลือดที่ไหลนองเป็นจำนวนมาก
แต่เพียงไม่กี่อึดใจ ร่างทั้งหลายก็พุ่งออกมาจากทุกทิศทางก่อนจะปกคลุมทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็ว มีทั้งเพชฌฆาตบาป สุนัขนรก ผู้สูบโลหิต ผู้ตัดสินบาป แมงมุมอสูร และทายาทของเผ่าผู้รุกรานเต๋าอีกจำนวนมาก
เมื่อมองไกลออกไป ฟ้าดินก็เต็มไปด้วยการต่อสู้กับร่างจำนวนมากอยู่ทุกแห่งหนราวกับไร้ที่สิ้นสุด
ในที่สุดเฉินซีก็มั่นใจว่านี่คือที่ราบสูงสังหาร ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางสมรภูมิ!
สมรภูมิที่นี่กว้างใหญ่เกินไปประหนึ่งโลกทั้งใบ โดยฟ้าดินอบอวลด้วยกลิ่นอายแห่งสงครามและการสังหาร นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเสียงตะโกนและต่อสู้ทุกหนแห่ง
ผู้เข้าร่วมจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์กับทายาทของผู้รุกรานเต๋าเริ่มต้นการต่อสู้ของทวยเทพที่คงอยู่เพียงในตำนาน!
นี่คือการต่อสู้ของทวยเทพ ผู้เยี่ยมยุทธ์อ่อนแอที่สุดที่เข้าร่วมอยู่ที่ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล ส่วนผู้แข็งแกร่งที่สุดมีพลังต่อสู้อยู่ที่ขอบเขตจ้าวเอกภพเก้าดารา
ขณะมองฟ้าดินที่เต็มไปด้วยโลหิตศักดิ์สิทธิ์กับศัตรูที่บินไปทั่วท้องฟ้า เสียงกลองศึกกับเสียงร้องจากการต่อสู้สั่นสะเทือนทั่วฟ้าดินประหนึ่งฟ้าร้อง ซึ่งในตอนนี้เฉินซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงจิตวิญญาณการต่อสู้อันเร่าร้อนที่ห่างหายไปนานอยู่ภายใน
โลหิตของเขากำลังเดือดพล่าน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...