บทที่ 2119 จินอวิ๋นเซิง
………………..
บทที่ 2119 จินอวิ๋นเซิง
ธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตา!
จากข่าวลือ มีเพียงจ้าวเอกภพเก้าดาราที่ได้ชำเลืองพบธารนทีแห่งนี้จากไกล ๆ เท่านั้นจึงกล่าวได้ว่าแตะถึงเส้นแบ่งขอบเขตมหาเทพเต๋า และนี่ก็คือหนึ่งในมาตรฐานชี้วัดว่าผู้ใดมีโอกาสพัฒนาสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋ามากกว่ากัน!
ทว่ายามนี้ การเปลี่ยนแปลงของไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์ทำให้เฉินซีได้ประจักษ์ธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตาในใจได้ทันที แล้วเขาก็อดรู้สึกสุดตกตะลึงมิได้
ธารนทีแห่งนั้นยิ่งใหญ่มหาศาลเกินไปนัก ดูประหนึ่งหลั่งรินจากช่วงกาลอันเกินคณานับ สู่อนาคตอันแสนห่างไกล
ทุกเกลียวคลื่นบนนั้นดูดั่งกฎสูงสุดอันตราเคล็ดแท้แห่งลิขิต นับแต่โบราณกาลจวบปัจจุบัน น้อยคนนักจะได้ประสบภาพอันยิ่งใหญ่เจิดจรัสเพียงนี้
เพราะมันคือบ่อเกิดแห่งชะตาลิขิต เป็นบัญชาอย่างหนึ่งอันเกินขอบเขตเต๋าใด ๆ ในโลกหล้า ผู้ได้ประจักษ์เคล็ดแท้จริงแห่งลิขิตล้วนเป็นผู้มีศักยภาพก้าวต่อสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋า ขณะที่ผู้อื่นหามีโอกาสพินิจมันไม่!
การบรรลุเข้าใจมันเทียบได้กับบรรลุลิขิตชะตา ทำให้สามารถก้าวข้ามอำนาจอันดาษดื่น สำเร็จอำนาจเทียบสวรรค์
มันคือการเอื้อมแตะท้องนภา กุมลิขิตชะตาด้วยมือตน อยู่เหนือโลกา เทียบเคียงเสมอเต๋า!
นี่คือแก่นแท้ของขอบเขตมหาเทพเต๋า!
…
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาบรรยายเนิ่นนาน แต่แท้จริงเกิดขึ้นในพริบตา ยามเฉินซีคิดก้าวเข้าไปประชิดเคล็ดแท้ของธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตาอีกสักนิด ภาพในใจของเขาก็พลันมลายไป
ทัศนวิสัยคืนสู่ปกติ กระทั่งเฉินซียังอดรู้สึกจนใจเล็กน้อยมิได้ เพราะหากเขาสามารถสะท้อนภาพธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตาในห้วงจิตสำนึกได้ตลอด การทะลวงสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋าก็จะกลายเป็นเรื่องสุดง่ายดายขึ้นมาเลย
ทว่าเฉินซีก็ตระหนักชัดว่าโอกาสเช่นนี้พบได้โดยโชคช่วยเท่านั้น การที่เขาได้พินิจมันสักครั้งก็นับเป็นโอกาสวาสนายิ่งแล้ว
ฆ่า!
สงครามยังคงดำเนินทั่วแดนดิน โลหิตไหลนองเป็นแอ่งหนอง ทว่าผู้รุกรานเต๋าก็ยังทะยานเข้ามาราวฝูงตั๊กแตนแน่นขนัด
กระบี่เต๋าวิบัติเข่นฆ่า ดื่มโลหิตสารพัดวิญญาณ เจิดจรัสยิ่งกว่าเก่า ตัวกระบี่แดงสดเรืองประกายสีเลือดเฉิดฉัน ดูประหนึ่งอาวุธสังหารร้ายแรงเกินสิ่งใดอันอาบย้อมในสมุทรโลหิต
ทว่าเฉินซีเท่านั้นที่ทราบว่ากระบี่เล่มนี้ทลายบาปผลาญสามานย์!
เรื่องอัศจรรย์เหนือใดคือ ยิ่งดูดซับพลังแห่งบาปและความชั่วร้ายมากขึ้น พลังกฎเกณฑ์อันบริสุทธิ์ภายในมันก็ยิ่งเพิ่มทวี
ขณะนี้ ไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์เรืองรองใสกระจ่าง ดูประหนึ่งดวงแก้วศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง พลังกฎเกณฑ์ภายในบริสุทธิ์หนาแน่นเกินหยั่งทราบ ซ้ำยังเรืองปราณลิขิตออกมาเล็กน้อย!
แม้เขาจะไม่รู้ว่ากระบี่เต๋าวิบัติทำได้เช่นไร หรือมันก่อกฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์อันเจือปราณลิขิตออกมาได้เช่นไร ทั้งหมดนี้ก็ยังพิสูจน์อยู่ดีว่ากระบี่เต๋าวิบัติมิใช่สมบัติทั่วไป
เพราะถึงอย่างไร สมบัติใดในหล้าจะรวบรวมปราณลิขิตได้เหมือนกระบี่เต๋าวิบัติ?
อย่างน้อยที่สุด เฉินซีก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
ขณะนี้ มุกโลหิตแดงฉานปรากฏขึ้นในกระบี่เต๋าวิบัติเพิ่มอีกลูก ซึ่งก็คือไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์ชิ้นใหม่ซึ่งเพิ่งก่อตัว
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีรู้สึกตื่นเต้น เขาตระหนักดีว่ายามกระบี่เต๋าวิบัติสังหารผู้รุกรานเต๋ามากกว่านี้ ไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์เม็ดที่สองก็จะก่อตัวจนมีเค้าปราณลิขิตไม่ต่างกัน!
ก่อนหน้านี้ เพียงดูดซับแปรสภาพสมบัติบรรพชนของเผ่าอสนีบาตเพียงชิ้นก็ทำให้ไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์พัฒนาสำเร็จในคราวเดียว การแปรสภาพมันน่าจะเร็วขึ้นได้หากได้ดูดซับสมบัติลักษณะเดียวกันนี้…. เฉินซีคะเนในใจพลางทะยานล้างทัพศัตรูดุจกวาดใบไม้แห้ง แต่ข้าว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีจ้าวเอกภพเก้าดาราสักคนในหมู่ผู้รุกรานเต๋าที่ถือครองสมบัติเช่นนี้ และตัวตนเช่นนี้ก็ใช่จะหาได้ง่าย ๆ ในสมรภูมิบนที่ราบสูงสังหาร
ช่างมันเถอะ ข้าก็แค่มุ่งหน้าต่อตามหัวใจ หลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง เฉินซีก็เลิกเจาะจงมองหาจ้าวเอกภพเก้าดารามาเป็นคู่มือ เพราะมันเสี่ยงและอันตรายเกินไป
เพราะถึงอย่างไร ศัตรูของเขาก็มิใช่เพียงผู้รุกรานเต๋าในสมรภูมิ เขากระทั่งถูกผู้ร่วมศึกจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ควรจะเป็นพวกเดียวกันคุกคามด้วย
…
สี่ชั่วยามต่อมา ศึกอันต่อเนื่องยาวนานทำให้สติของเฉินซีตั้งมั่นเกินครั้งใด เขาไร้ความคิดฟุ้งซ่านนอกจากเข่นฆ่าศัตรู
การฝึกฝนดวงจิตแห่งเต๋าอยู่ในขั้นแปดของสัจหฤทัยสูตร พลังศักดิ์สิทธิ์ไร้สิ้นสุดจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬเพียงพอให้เฉินซีต่อสู้ต่อได้โดยไร้ความเหนื่อยอ่อน
แมงมุมอสูรตนนั้นตัวใหญ่เช่นขุนเขา ดูเหมือนหลอมสร้างจากทอง เรืองประกายทองเจิดจรัสวับวาม
ขามหึมาทั้งแปดถือสมบัติศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดแตกต่าง เรืองรัศมีดุดันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด กระทั่งผู้รุกรานเต๋าบางชีวิตยังถูกอำนาจของมันกระแทกใส่ตกตาย
แต่เป็นที่ชัดเจนว่าแมงมุมอสูรหาสนใจผู้รุกรานเต๋ารายล้อมไม่ มันเพ่งสติเพียงไล่ล่าชายสวมชุดเกราะสีทองซึ่งเผ่นหนีอย่างบ้าคลั่ง
“ทายาทตระกูลจิน เจ้าหนีไม่รอดหรอก! บรรพชนของเจ้าสังหารผู้อาวุโสท่านหนึ่งของเราเผ่าแมงมุมอสูรขณะเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถีเมื่อกาลก่อน ข้าหรือจะมีหน้าพบสหายร่วมเผ่าหากปล่อยเจ้าหนีไปได้?” แมงมุมอสูรหัวเราะเย็นเยียบขณะฟาดตราประทับโบราณสีดำสนิทชิ้นหนึ่งใส่ชายในชุดเกราะสีทอง ตราประทับโบราณนั้นแหวกมิติกระแทกใส่ชายสวมชุดเกราะสีดำจนร่างเซถลาลงฟาดพื้น
“บ้าเอ๊ย!” ชายในชุดเกราะสีทองแผดเสียงสนั่น เขาดูเหมือนจะเสี่ยงทุกสิ่งสู้ตายกับแมงมุมอสูร ทว่าเขาก็เหลือบไปเห็นเฉินซีจากไกล ๆ และตะโกนออกมาทันที “สหายเต๋าช่วยด้วย!”
“ตายเสีย!” แมงมุมอสูรมิได้ออมแรง มันขว้างหอกยาวสีเลือดจากขาอีกข้างของมันเป็นวงโค้งแหวกอากาศเข้าใส่ชายในชุดเกราะสีทองอย่างดุดัน
เปรี้ยง!
ในยามคับขันนั้นเอง กระบี่สีเลือดเล่มหนึ่งก็พลันปรากฏขวางหอกสีเลือดไว้ จากนั้น กระบี่ก็หมุนควง ฟันหอกยาวสีเลือดขาดสะบั้น
ชายในชุดเกราะสีทองเหงื่อแตกพลั่กยามรอดพ้นความตาย รีบกล่าวขึ้น “ขอบคุณสหายเต๋าที่ช่วยเหลือ ข้าคือจินอวิ๋นเซิงจากตระกูลจิน เมื่อกลับตระกูลจะตอบแทนสหายเต๋าแน่นอน….”
เขายังพูดไม่ทันจบ เฉินซีก็ขัดขึ้น “หุบปากแล้วมาซ่อนหลังข้าหากยังไม่อยากตาย!”
สีหน้าของชายผู้นั้นชะงัก แต่ก็ยังรีบขยับตัวไปซ่อนหลังเฉินซี เขาบาดเจ็บสาหัสและทราบดีว่านี่มิใช่เวลาเหมาะสมแก่การเสวนาเลย เขาจึงหุบปากแต่โดยดี ทว่าสายตาที่มองมายังเฉินซีก็ยังเหม่อลอยเล็กน้อย เพราะเขาเหมือนตระหนักถึงบางสิ่ง แต่ก็สงวนกิริยาไปในท้ายที่สุด
“สารเลว!” เมื่อเห็นว่าเหยื่อของมันถูกช่วยชีวิต ซ้ำยังเสียสมบัติไปอีกชิ้น แมงมุมอสูรก็เดือดดาลขึ้นมาทันที แผดเสียงพลางพุ่งเข้าใส่เฉินซี
ร่างมหึมาดุจขุนเขาของมันบดบังท้องนภา ทอดเงาลงสู่โลกหล้า สมบัติมากมายวูบไหวเรืองกล้า
ครืน!
ฤทธาการโจมตีของมันดุดันสุดแสน ขยี้มิติฉีกรอยแรกมากมาย นอกจากนั้น ผู้รุกรานเต๋าทั้งหลายในรัศมีพันจั้งรอบกายมันยังถูกบดขยี้ตกตายลงทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว!
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...