บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 230

บทที่ 230 ทะลวงผ่าน

บทที่ 230 ทะลวงผ่าน

ไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดาราเป็นสมบัติที่น่าอัศจรรย์และล้ำค่ายิ่ง มันสามารถค้นหาพื้นที่ที่ซ่อนอยู่ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ และยังสามารถทะลวงผ่านสิ่งกีดขวางจำพวกแดนซ่อนเร้นหรือเคหาเซียนได้อีกด้วย

ด้วยความช่วยเหลือจากไข่มุกนี้ ผู้อาวุโสที่เยาว์วัยที่สุดของตระกูลซู ซูเหลิ่งจึงได้พบกับแดนซ่อนเร้นลับแลและเคหาเซียนมากมาย เขาได้รับทักษะบ่มเพาะ โอสถ และสมบัติล้ำค่าจำนวนมากจากสถานที่เหล่านั้น การกระทำของเขาทำให้เมืองทะเลสาบมังกรเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ แต่หลังจากการตายของซูเหลิ่ง ไข่มุกเม็ดนี้ก็ตกไปอยู่ในมือของเฉินซี

“ในยามนั้น ซูเหลิ่งคนนี้ถือเป็นคนที่โชคดีมาก แต่ยามนี้เขาได้ตายไปแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดาราที่ตกมาอยู่ในมือข้า แม้กระทั่งระเบียนแดนมรณะที่ลึกลับนั่นและพู่กันพิพากษามารก็กลายเป็นของข้า โชคชะตาช่างเล่นตลกกับผู้คนเสียจริง ๆ” เฉินซีถอนหายใจด้วยความสะเทือนใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังขุมสมบัติของเฉียนหยวนที่ลอยอยู่ในอากาศ

ตอนนี้ขุมสมบัติของเฉียนหยวนที่ทอดตัวอยู่กึ่งกลางระหว่างสวรรค์และโลกได้ค่อย ๆ เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของมันแล้ว ดูเหมือนว่าโครงสร้างทั้งหมดของมันจะทำมาจากหยกบริสุทธิ์ที่ไร้ตำหนิ มีเสาขนาดมหึมาสามสิบหกต้นที่ดูเหมือนจะทำด้วยทองคำคอยค้ำยันเอาไว้ พื้นผิวของห้องเก็บสมบัติถูกสลักเป็นรูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว สิ่งมีชีวิตนานาชนิด พืชพันธุ์ต่าง ๆ และอักขระยันต์ที่สลับซับซ้อน โดยมีม่านแสงที่ดูราวกับระลอกคลื่นน้ำเป็นชั้น ๆ ปกคลุมมัน ทำให้เห็นศาลาและห้องโถงในนั้นได้เพียงราง ๆ เท่านั้น

แสงสว่างเจิดจ้างดงามที่อยู่โดยรอบเป็นเสมือนม่านกั้นห้องเก็บสมบัติจากโลกภายนอก

สิ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือตรงที่ด้านบนของขุมสมบัติมีรูปปั้นของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลตั้งประดับเอาไว้ มีทั้งอีกาทองคำสามขา มังกรฟ้า ปี้อั้น*[1] ซวนหนี*[2] ชือเวิ่น*[3] ฉิวหนิว*[4]… พวกมันมีขนาดใหญ่และเด่นสง่าดุจขุนเขา รูปลักษณ์ท่าทางของแต่ละตัวต่างก็ดูทระนงและไม่ยอมใคร ขณะที่ครอบครองพื้นที่ส่วนบนของห้องเก็บสมบัติอยู่อย่างเงียบ ๆ แม้ว่าพวกมันจะเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต แต่พวกมันก็ดูราวกับเทพเจ้าที่ก้มมองโลกอย่างไม่แยแส บรรยากาศอันน่าหวาดหวั่นจากสายตาพวกนั้นสร้างความครั่นครามให้ผู้มาเยือนมิใช่น้อย

เพียงแค่เหล่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือขุมสมบัติของเฉียนหยวน ก็ทำให้มันดูมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาแล้ว!

สิ่งล้ำค่าต่าง ๆ อาทิ มรดกของเซียนสวรรค์ ทักษะบ่มเพาะ โอสถวิเศษ สมบัติล้ำค่า โอสถทิพย์กำเนิดเต๋าที่ลึกลับทั้งหมดถูกปิดผนึกและเก็บไว้ในขุมสมบัติขนาดมหึมานี้อย่างนั้นหรือ?

หัวใจของเฉินซีลุกโชนด้วยความปรารถนา และเขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกองเพลิงวิญญาณเคลื่อนเข้าหาขุมสมบัติที่สวยงามและน่าตื่นตาของเฉียนหยวนอย่างเงียบงัน

ช่างเป็นข้อจำกัดที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!

ยิ่งเขาเข้าใกล้ขุมสมบัติมากเท่าไร เฉินซีก็ยิ่งรู้สึกว่าสนามพลังที่มองไม่เห็นตรงหน้าของเขานั้น เป็นราวกับมหาสมุทรที่ไร้ขอบเขตซึ่งไม่สามารถเอาชนะได้ ยิ่งกว่านั้นพลังงานนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด กลับกันมันเหมือนจะสังเกตเห็นการเข้าใกล้ของเฉินซี มันจึงพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทางพร้อมกันก่อนจะสร้างแรงกดดันที่รุนแรงขึ้น ด้วยระดับบ่มเพาะของชายหนุ่มในปัจจุบัน ทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก และกระดูกของเขาดูเหมือนจะไม่สามารถทนรับแรงกดมหาศาลนี้ได้เช่นกัน จึงทำให้พวกมันส่งเสียงแตกร้าวออกมาอย่างชัดเจน

ในเวลานี้ เฉินซีอยู่ห่างจากขุมสมบัติของเฉียนหยวนเพียงสามก้าว แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้อีก และเมื่อเวลาผ่านไป แรงกดดันจากพลังไร้รูปร่างรอบตัวเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เขาเป็นเหมือนกับมดที่ถูกพันธนาการไว้ที่ก้นทะเล ซึ่งกำลังจะถูกบี้ทิ้งในไม่ช้า

ระยะทางสามก้าวดูเหมือนจะเป็นช่องว่างที่กว้างมาก เกรงว่าแม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพี ก็ยังไม่สามารถเจาะผ่านสนามพลังไร้รูปร่างที่อยู่โดยรอบนี้ไปได้

ฮึ่ม!

ในตอนนี้ เฉินซีไม่ลังเลเลยที่จะคว้าเอาไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดาราออกมา เขาถ่ายเทปราณแท้ทั้งหมดในร่างกายลงไป ทันใดนั้นแสงหลากสีที่งดงามก็พุ่งออกมาจากไข่มุก ภายใต้แสงสว่างหลากสีนี้ ชั้นคลื่นโปร่งใสที่บิดเบี้ยวได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเฉินซี เขารับรู้ได้ทันทีว่านี่คือม่านป้องกันของขุมสมบัติ

ขวับ!

ด้วยไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดาราในมือของเขา สิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นและโปร่งใสนั้นเป็นราวกับฟองสบู่ที่ถูกเจาะ เมื่อรอยแตกที่ยาวและแคบซึ่งนำไปสู่ด้านในของขุมสมบัติของเฉียนหยวนปรากฏขึ้น เฉินซีก็ไม่รอช้าแม้แต่น้อย ขาทั้งสองข้างก็พุ่งตรงออกไปก่อนจะหายตัวไปอย่างสมบูรณ์

“บัดซบ! มีคนบุกเข้าไปก่อนแล้ว!”

“ให้ตายเถอะ แสงหลากสีนั่นมันอะไรกัน? รอบด้านขุมสมบัติของเฉียนหยวนมีม่านป้องกันที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์สร้างเอาไว้เลยนะ มันจะพังง่าย ๆ ได้อย่างไร?”

“ไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดารา! มันต้องเป็นสมบัติชิ้นนั้นอย่างแน่นอน! ในโลกนี้ มีเพียงไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดาราเท่านั้นที่จะสามารถข้ามผ่านม่านป้องกันและข้อจำกัดต่าง ๆ ได้!”

เมื่อเฉินซีทะลวงผ่านม่านป้องกันของขุมสมบัติเฉียนหยวนมาได้ แสงหลากสีที่ปล่อยออกมาจากไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดารา ได้ดึงความสนใจของหวงฝู่ฉงหมิง หลิวเฟิ่งฉือ หม่านหง และคนอื่น ๆ ในระแวกใกล้เคียงทันที

พวกเขาเฝ้ามองขุมสมบัติเฉียนหยวนและกำลังรอให้ม่านป้องกันหายไป เพื่อจะได้รีบเข้าไปทันทีอยู่ตลอด ใครจะคาดคิดกันว่า จะมีคนนำหน้าพวกเขาไปก่อนก้าวหนึ่ง?

“ไอ้ตัวบัดซบ! ข้าจำชายคนนั้นได้ มันคือเจ้าเด็กขอบเขตเคหาทองคำ เฉินซี!”

“เฉินซี? มันจะเป็นเขาได้อย่างไร? เขาจะครอบครองสมบัติล้ำค่าอย่างไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดาราได้อย่างไร?”

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว ในเมื่อเขาล้ำหน้าเราไปก้าวหนึ่งแล้วอย่างไร? หลังจากที่เราเข้าไปข้างในแล้ว ให้ฆ่าเขาและเอาสมบัติที่เขามีมาซะ”

หลังจากที่พวกเขาระบุได้ว่าคนที่แอบเข้าไปในขุมสมบัติก่อนคือเฉินซี ใบหน้าของหวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ ก็มึนตึงในทันใด ไฟแห่งโทสะในอกของพวกเขาลุกโชนอย่างรุนแรง ตอนนี้พวกเขาก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฉีกเฉินซีเป็นชิ้น ๆ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก เพราะพวกเขาไม่มีไข่มุกเร้นนิรันดร์ลับดารา ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงรอให้ม่านป้องกันรอบขุมสมบัติหายไปเองก่อน จึงจะเข้าไปได้

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ชั่วขณะนั้นเอง เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นจากขอบฟ้าไกล จากนั้นลำแสงจำนวนมากก็พุ่งตรงมาจากทางริมขอบฟ้า ที่พวกเขานับได้คร่าว ๆ มันจะต้องมีไม่ต่ำกว่าร้อยคนและไม่แน่ว่าอาจจะมีมาเพิ่มอีก

“อันเชี่ยนอวี้ นิกายกระบี่สะบั้นนภาจากที่ราบตอนกลาง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]