บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 232

บทที่ 232 การบุกปล้นที่ไม่อาจควบคุมได้

บทที่ 232 การบุกปล้นที่ไม่อาจควบคุมได้

โอสถเหล่านั้นมีกันเป็นกลุ่มใหญ่ มันส่งเสียงหวีดร้องราวกับเสียงฝน!

ในขณะมองโอสถจำนวนมากที่มีจิตนึกคิดเองซึ่งเต้นไปบนท้องฟ้า เฉินซีก็อดอ้าปากค้างไม่ได้

เขารู้สึกได้ถึงปราณวิญญาณบริสุทธิ์และสดชื่นที่พุ่งเข้าสู่ร่างทันที ทำให้จิตวิญญาณสดชื่นขึ้นในพลัน ปราณแท้ภายในตำหนักอินทนิลเหมือนกลั่นแน่นขึ้นเล็กน้อย

‘นี่แค่สูดปราณที่พวกมันปล่อยออกมาไปเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น หากกินพวกนี้ไปสักเม็ดหนึ่ง จะได้ผลลัพธ์สะท้านฟ้าแบบไหนกัน?’ หัวใจของเฉินซีลุกเป็นไฟขณะมองโอสถจำนวนมากเหล่านั้น

ฟิ้ว!

เมื่อโอสถวิญญาณบินผ่านเขาไป เฉินซีก็ยกมือขึ้นคว้ามันไว้ โอสถนี้โปร่งแสงและดูเป็นผลึกแก้วโดยสมบูรณ์ ส่องแสงแวววาวดูศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากภายในจาง ๆ มันเปล่งเสียงร้องใสกระจ่างที่ฟังเหมือนเสียงคำรามของมังกรหรือเสียงเสือออกมา โอสถนี้ทำให้หูและตารู้สึกปลอดโปร่ง รู้สึกสบายไปทั่วร่าง ทั้งยังดูลึกล้ำมากทีเดียว

“โอสถเหลวหยกนภา! จริง ๆ แล้วมันเป็นโอสถวิญญาณระดับปฐพีที่มีสติปัญญาอยู่นี่เอง!” หลิงไป๋ยื่นมือออกไปหยิบโอสถเช่นกัน หลังจากคว้ามันไว้ชั่วครู่ ดวงตาของเขาก็พลันสว่างขึ้น ก่อนจะเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “หลังจากผู้บ่มเพาะบรรลุสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง วารีวิญญาณธรรมดา ๆ ก็ไม่สามารถช่วยเรื่องการบ่มเพาะได้แล้ว จึงมีแต่ต้องอาศัยพลังจากโอสถระดับปฐพีขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสามารถทำให้การบ่มเพาะเหนือชั้นขึ้นไปได้ โอสถเหลวหยกนภานี้เป็นยาระดับปฐพีขั้นสุดยอดที่ชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วใต้หล้า และเมื่อหมื่นปีก่อนก็มีเพียงตำหนักเต๋าสวรรค์เท่านั้นที่จะกลั่นมันขึ้นมาได้ โอสถเหลวหยกนภาเพียงเม็ดเดียวก็สามารถเทียบได้กับวารีวิญญาณหนึ่งแสนจินแล้ว!”

โอสถพวกนี้คล้ายกับสมบัติวิเศษ ซึ่งแบ่งได้เป็นสี่ระดับ คือระดับสวรรค์ ระดับปฐพี ระดับล้ำลึก และระดับมนุษย์ ทุกระดับถูกแบ่งออกเป็นสี่ขั้น ได้แก่ ขั้นสุดยอด ขั้นสูง ขั้นกลาง และขั้นต่ำ

ในหมู่โอสถทั้งหลาย ระดับมนุษย์และระดับล้ำลึกจะเรียกว่าโอสถต้นกำเนิด เป็นยาระดับมาตรฐานที่กลั่นได้ง่ายไม่ซับซ้อน ในขณะที่โอสถระดับปฐพีและระดับสวรรค์เรียกว่าโอสถวิญญาณ เพราะพวกมันมีจิตนึกคิดขึ้นมาแล้ว

เห็นได้ชัดว่าโอสถเหลวหยกนภานี้เป็นโอสถวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูง ซึ่งดีเสียจนเรียกว่าขั้นสุดยอดก็ยังได้!

“โอสถเหลวหยกนภาหรือ?” แม้ว่าเฉินซีจะไม่รู้แน่ชัดว่าชื่อเสียงของโอสถนี้ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ก็รู้ว่าต่อไปเมื่อก้าวสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง หากไร้โอสถวิญญาณระดับปฐพีสนับสนุน เขาก็คงไม่อาจทะลวงขอบเขตได้

ที่สำคัญที่สุดคือหลังจากบรรลุสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางแล้ว ก็เทียบเท่ากับได้ครองรากฐานฟ้าและดินไว้ภายในร่างตน เมื่ออยู่ในการต่อสู้ ตราบใดที่เขามีโอสถวิญญาณระดับปฐพีเพียงพอ ก็ไม่ต้องกลัวจะเกิดภาพน่าอับอายที่เกิดจากการไร้เรี่ยวแรงในการสู้อย่างต่อเนื่องเพราะปราณแท้เหือดแห้งแล้ว เพราะโอสถวิญญาณระดับปฐพีมีความสามารถในการฟื้นฟูปราณแท้ จึงช่วยให้ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางรักษาความแข็งแกร่งไว้ใช้ในการต่อสู้ได้ยาวนานขึ้น!

หากเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลหรือขอบเขตเคหาทองคำ ถึงจะกินโอสถวิญญาณระดับปฐพีไปก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะไม่เช่นนั้นทะเลแห่งปราณอาจถล่มลงจากพลังมหาศาลของโอสถวิญญาณ จนสิ้นชีพไปในที่สุด

นี่คือความทรงพลังของผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง เส้นทางอันยิ่งใหญ่เพื่อบรรลุสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางคือการก่อรากฐานฟ้าและดินภายในร่าง ทำให้ท้องทะเลแห่งลมปราณแข็งแกร่ง ทนทาน และแข็งดั่งเหล็กกล้า ด้วยเหตุนี้มันจึงสามารถทนความแกร่งของโอสถวิญญาณระดับปฐพีได้

“ยอดเยี่ยมไปเลย! มีโอสถวิญญาณระดับปฐพีมากมายเช่นนี้ หากสามารถทะลวงขอบเขตแกนทองคำหยินหยางได้ก็ไร้กังวลเรื่องปัญหาปราณแท้เหือดแห้งระหว่างต่อสู้แล้ว” เฉินซีสะบัดแขนเสื้อ โอสถเหลวหยกนภาจำนวนมากบนท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นหยาดฝน พลันถูกเก็บไว้ในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์

โอสถวิญญาณมีมากดั่งเม็ดฝน จำนวนมากถึงนับหลายพัน ทันทีที่เข้าไปในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์ พวกมันก็กลายเป็นธารโอสถ ไหลเวียนวนขยับเคลื่อนไปเรื่อย ไป๋คุยที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ พลันสะดุ้งตื่นลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นโอสถเหลวหยกนภาจำนวนมากก็คำรามเสียงตื่นเต้นขึ้นมาในทันที ไป๋คุยก้าวขาลงพื้น ก่อนจะกระโดดขึ้นสูง ไล่คว้ากลุ่มยาพวกนั้นและเริ่มกินมันลงท้องอย่างมีความสุข

เฉินซีเห็นแล้วแต่ก็ไม่ได้ห้ามไป๋คุยแต่อย่างไร โอสถเหล่านี้มีจำนวนมาก อย่างน้อยก็มีมากกว่าหนึ่งแสนเม็ด แม้ว่าสหายน้อยจะกินไม่หยุดไปทั้งปีก็เทียบได้เพียงน้ำหยดหนึ่งหยดลงมหาสมุทรเท่านั้น อีกทั้งเพื่อนตัวน้อยไป๋คุยผู้นี้เลือกกินนัก พอได้กินอะไรใหม่ ๆ ก็จะหยุดกินไปเอง

‘โรงเก็บยานี้ถูกข้าปล้นไปหมด ไม่รู้ว่ามีสมบัติอะไรถูกเก็บไว้ที่อื่นอีกบ้าง…’ หลังจากเฉินซีรวบรวมยาทั้งหมดมาแล้ว เขาก็จากไปไม่ลังเล มุ่งหน้าไปยังประตูถัดไป

เขาไม่กล้าเสียเวลาแม้แต่น้อย ทางเข้าขุมสมบัติเฉียนหยวนถูกเปิดแล้ว หวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ อาจจะกำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายค่ายกลแปดวิถีผนึกทองคำก็ได้ หากรอให้พวกนั้นมาแล้วจะเหลืออะไรให้เขาได้เก็บเกี่ยวกันเล่า?

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

เฉินซีเพิ่งเข้าไปในอีกประตูหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงคำรามของกระบี่เล่มหนึ่งที่หนักแน่นแข็งแกร่งดั่งกระแสน้ำดังมา จากนั้นก็เห็นกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนบินอยู่บนฟ้าไปตามเส้นทางดูซับซ้อน

ปราณกระบี่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงโหยหวนมากมายที่ดังออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ปราณกระบี่ที่รวดเร็วและดุร้ายอย่างหาสิ่งใดเปรียบกดดันจนเฉินซีจนรู้สึกหายใจไม่ออก

กระบี่จำนวนมากเหล่านั้นเป็นสมบัติวิเศษระดับปฐพีขั้นสูง มีหลากหลายสีสัน บินโฉบผ่านอากาศและส่งเสียงกรีดอากาศออกมา กระบี่ระดับปฐพีขั้นสูงกว่าหนึ่งหมื่นเล่มกำลังเคลื่อนล้อมรอบกระบี่เก้าเล่มที่สูงส่งดั่งกระบี่ราชัน พวกมันส่งเสียงออกมาพร้อมกันจนดังสะท้อนไปทั่ว คลื่นเสียงที่ปล่อยออกมานั้นมากพอจะบดขยี้ผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลหรือกระทั่งขอบเขตเคหาทองคำได้ทีเดียว

นี่คือค่ายกลกระบี่! ค่ายกลกระบี่ขนาดใหญ่ที่มีกระบี่ระดับปฐพีขั้นสูงกว่าหนึ่งหมื่นเล่มและกระบี่ระดับปฐพีขั้นสุดยอดเก้าเล่มรวมอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]